เรื่องจริงมีอยู่ว่า

อาจารย์ขุน เอ้ยยย อาจารย์คุ่น หรือ ขุนพิทักล้านนา หรือ เซียนกุมารทอง หรือ ขุนเทวฤทธิ์
ปัจจุบันได้รับตำแหน่ง ทูลหัวเมืองกาหลง ในอดีตเป็นเด็กส่งของ จากร้านนิวอะมูเล็ต
เสือสองตัวมักอยู่ในถ้ำเีดียวกันไม่ได้เพราะไปทราบความจริงบางอย่างเกี่ยวกับ อาจารย์คุ่นเ้ข้า
เนื่องจากในอดีตช่วงปี 47-48 สมัยที่อาจารย์ขุ้น เริ่มตั้งตัวเป็นอาจารย์ใหม่ๆ ดันไปคุยโม้ไว้ว่า
ตัวเองเรียนจบแล้วมีงานมีการทำเป็นธุรกิจฟาร์ม  ทางคุณนิวเขาก็ไปพบความจริงเข้าว่า
นายประสิทธิ์ ..... เรียนอยู่สาขา พืีชสวน รหัส 45  เขาได้ตรวจสอบพบว่า

นายขุ้นยังเรียนไม่จบซึ่งตามหลักสูตร 4 ปี ต้องจบในปี 48
พอดูรายชื่อผู้สำเร็จการศึกษา ไม่มีรายชื่อ อาจารย์ขุ้นอยู่
แต่ ดันไปโม้ไว้ว่า เรียนจบแล้ว ทำงานฟาร์มโคนม

เลยพบว่าอาจารย์ขุ้นนี้ขี้โม้จริงๆ
โม้กระทั่งว่าเรียนจบแล้ว แท้จริงแล้วยังเป็นนักศึกษาอยู่

แล้วมาอ้างตัวเป็นเซียนกุมารทอง ขุนพิทักล้านนา ขุนเทวฤทธิ์ พ่อทูลหัวเมืองกาหลง

เรื่องมันไม่สั้นขนาดนั้นสิ

อยู่ดีดี ประกาศตัวเองออกมาว่า ข้าฯคือบูรพา ฮ่าๆๆ

บอกชาวบ้านเค้าว่า ข้าฯ นี่แหละ เรียนจบนานแล้วเฟ้ย โฮะๆๆๆ

บอกไปทั่วว่า ข้าฯ นี่เอง ทำงานเป็น ผู้จัดการฟาร์มโคนม เงินเดือนหลายหมื่นเฟ้ย อาฮี่ อาฮี่

แต่น้องเอ้ย เรื่องเรียน เรื่องงาน น้องยังตอแหลเลย ไม่เชื่อลองเซิร์ชจากเวป มหาวิทยาลัยเชียงใหม่สิ
จะเจอข้อมูล

น้องคนนี้เรียนมช. รหัส ๔๕ คือเข้าเรียนปีการศึกษา ๔๕ ก็ควรจะจบตามเกณฑ์ ปีการศึกษา ๔๘ แต่แกไม่จบหรอก
ดูรายชื่อไม่เห็นมีเลย เรียนคณะเกษตร ไม่จบใน ๔ ปี แหม ไม่ตั้งใจเรียน มัวแต่เรียนไสยศาสตร์เหรอน้อง

คิดว่าอาจจะเก่งจัด เรียนจบก่อนสี่ปี เช็คดู ก็ไม่มีแฮะ

เอาๆ ไม่ว่ากัน น้องแกอาจจะเรียนตกไปหน่อย อาจจบช้าไป สักเทอม จบตอนซัมเมอร์มั้ง ก็ไม่มีว่ะ

สรุปแล้ว พี่เซียน ของน้องๆ น่ะ แกยังเรียนไม่จบเลย แถมเป็นซุปเปอร์ซีเนียร์ ปู่มหาวิทยาลัย นะครับ

แล้วอย่างนี้จะมีหน้ามาบอกทำงานแล้ว เป็นผู้จัดการฟาร์มโคนมได้อย่างไร ใครหลับตารับเข้าไปทำงานล่ะ

หรือว่าไปรับจ๊อบรีดนมจากเต้า ฝึกไว้เผื่อยามเวลามีสาวเคียงกาย

นี่จ้า รหัสนักศึกษา 4508173 อาจารย์ขุ้น ขวัญใจพ่อแม่พี่น้องเมืองกาหลง

อันนี้เอาไว้เช็ค รายชื่อที่จบ ปี 48 หลักสูตร 4 ปี  ไม่พบชื่ออาจารย์ขุ้นเลย

http://e-service.agri.cmu.ac.th/education/view_Graduate_Dept.asp?Fac=08&YearGrad=48&MAJOR=06

อย่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้นะครับ ผมรู้สึกตะหงิดตะหงิดตั้งแต่ท่านคุ่นที่พวกท่านเอ่ยถึง มาแสดงภูมิในเวบนี้แล้ว และยังกล่าวหาสำนัดอื่นว่าไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ อาจารย์ฉันดีที่สุด หึหึ จะว่าไปคุณทั้งสองก็เล่าเรื่องได้งงดีครับรู้กันอยู่สองคน ๕๕๕ หรือว่าผมกินปลาน้อยไปหว่า

มีคนเข้าใจผิดบอกว่า อาจารย์ขุ้น หรือ ดาก หรือ คัมภีล้านนา  พ่อทูลหัวเมืองกาหลง เจ้าของหุ่นพยนต์ยักคี้ วว
เรียนอยู่ คณะสัตว์ศาสตร์

ครั้งนึงนาย ขุ้นคนนี้เคยออกของมาขาย บอกว่าเป็นน้ำมันพรายยย

มีคนเอาไปทดสอบ ได้เรื่องราวดังนี้



พอดีเอาน้ำมันที่เขาว่าเป็นน้ำมันพราย ที่อยู่ในขวดฝาสีดำ มีตะกรุดสองดอกในขวด
ลักษณะน้ำมันเป็นน้ำมันสีออกเขียวใสๆ ก้นขวดมีตะกอนอยู่
ไปทดสอบโดยฝากท่านผู้มีวิชาให้ช่วยปลุกเสกเพิ่มเติมให้

มันก็เป็นเรื่องขึ้นมาสิครับ เพราะผู้ที่ช่วยปลุกเสกให้น่ะ แกทักมาว่าน้ำมันอะไร หอมดีนะ
เหมือนกลิ่นดอกพิกุลเลย น้ำมันอะไรเหรอ

เจ้าน้องที่เอาไปให้ท่านก็บอก น้ำมันพรายครับ เป็นของทางเหนือครับ

เอ้า อาจารย์ก็เสกมาตั้งนาน ไม่เห็นพราย ไม่เห็นผี มันจะออกมาสักตัว พรายแน่เหรอคุณ
อีกอย่างดูมันไม่เหมือนน้ำมันพรายเลยนะ ถ้าจะมีผสมมา ก็ต้องรู้สึกได้ คุณลองดมดูดีดีสิ
มันกลิ่นดอกพิกุลชัดๆ

เอ่ออ อึ้งครับ ไม่รู้จะตอบว่าอะไร


แล้วเจ้าน้องนั้นก็กลับมาเล่าให้ผมฟังตามนี้


ก็เลยถึงบางอ้อ ว่าน้ำมันพิกุลหัวเชื้อที่ซื้อมา กับน้ำมันแก้ว มันถูกแปรรูปไปแล้วนี่เอง
ส่งไปทำตั้งไกล กลับมาแค่เอาไปต้มรวมกัน แล้วใส่ขวด รู้อย่างนี้กรอกขวดเอง ที่กทม. ดีกว่ากันเยอะ เนอะ

มีคนเข้าใจผิดบอกว่า อาจารย์ขุ้น หรือ ดาก หรือ คัมภีล ...
ต้นฉบับโพสโดย มะนาว เมื่อ 28-7-2011 17:46

                               
สมัครสมาชิก / เข้าสู่ระบบ เพื่อดูภาพขนาดใหญ่

    ขอบคุณครับท่านแฮ่ ๆ   ครั้งนี้ผิดครับ   ยอมรับครับ...ต่อๆเลย
ครับ พืชสวนครับ.....ขอแสงสว่างหน่อยครับ

ประสบการณ์ หรือ นิทานหลอกเด็ก

-พอดีเป็นห่วงสมาชิกรุ่นใหม่ๆ ที่ยังไม่รู้เรื่องราวเก่าๆ
หรือเล่ห์เหลี่ยมของพวกเซียนก็อปปี้(พวกที่เหมือนว่ารู้เยอะ แต่ก็อปเขามาจากเวปต่างๆ ดันๆ ดะๆ ไปทั่ว)

พอดีผมเองไม่ได้รู้อะไรมากนัก แต่ที่รู้คือรู้นิสัย และธาตุแท้ ของบางคนในวงการ
เคยเห็นความผิดปกติมาก่อน จึงจะเล่าให้ฟังเป็นข้อมูลไว้

ก็ฟังหูไว้หู จะได้เหลือสักหู ไว้ใช้งานต่อไป

จะว่าไป สมัยนี้ อยากขายของ ก็ต้องสร้างกระแส อย่างในเวปนี่ ก็ต้องมีหลายๆ ตัวละคน
โผล่มาตั้งกระทู้เรื่องของที่กำลังจะออกวางขาย แล้วก็ล่อไว้ให้ผู้ผลิต(ก็คนเดียวกับที่ตั้งกระทู้ถาม)
เข้ามาตอบ ถามเอง ตอบเอง ก็เพื่อให้เกิดความเคลื่อนไหว คนก็จะสนใจ จองกันเข้ามา

อีกอย่างที่ทำให้ของขายได้ไว คือของมีประสบการณ์ เช่นว่า เอาออกมาให้ลอง (ให้หน้าม้าลอง)
แล้วกลับมาแจ้งผล ว่าสุดยอด เยี่ยมมาก คนดูก็เฮ ตามๆ กัน พอมีคนเริ่มจอง คนอื่นๆ ก็ตามกระแสอยู่แล้ว

แต่มีหลายครั้ง หลายประสบการณ์ ที่มันเป็นนิทานหลอกเด็กซะมากกว่า รอชมในความเห็นต่อไป จะวิเคราะห์ให้ดู

มีคนเข้าใจผิดบอกว่า อาจารย์ขุ้น หรือ ดาก หรือ คัมภีล ...
ต้นฉบับโพสโดย มะนาว เมื่อ 28-7-2011 17:46

                               
สมัครสมาชิก / เข้าสู่ระบบ เพื่อดูภาพขนาดใหญ่

    ไม่ได้ซ้ำเติมนะครับ...เรียนพืชจบพืช..แต่ทำฟาร์ม

นิทานเรื่องที่ ๑

---------------------------------------------------------------------
คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณมากมายสำหรับพยนต์ยักขี ตอนนี้ผมก็มีเรื่องราวมาเล่าให้ฟังอีกแล้วล่ะครับ
วันนี้ตอนเช้าผมจะต้องขับรถไปส่งน้องสาวคนเล็กผมที่มหาวิทยาลัย
แต่ว่าขณะที่รถแล่นไปจู่ก็ดับเองผมก็เลยโทรเรียกช่างมาตรวจสอบดู
ช่างก็ตรวจสอบไม่เห็นว่ามีไรผิดปกติรถพึ่งใช้มาได้4เดือนก็ไม่น่าเป็นไร ก้อเลยเรียกให้ศูนย์ฟอร์ดมาลากไป
ที่อู่ช่างก็ตรวจสอบก็ไม่พบไร ผมเองก็งงจนกระทั่งผมนึกถึงพญายักขีพี่วิทูร
แล้วบอกว่าถ้ามีสิ่งไม่ดีในรถคันนี้ก็ขอให้พี่วิทูรช่วยจัดการด้วย
จู่ๆสัญญาณดังในรถเองทั้งที่ไม่ได้มีใครอยู่ในบริเวณนั้น ผมและช่างจึงเดินไปดูโดยเปิดฝากระโปรงรถดู
ปรากฎว่าตรงพัดลมหม้อน้ำมีซากนกเอียงสีดำติดอยู่
ช่างเลยสั่งให้ลูกมือเอาไม้เขี่ยแล้วลองสตารต์ดูก็ติด
ช่างเองก็งงลองเช็คใหม่สตาร์ตกี่ครั้งก็ติด
ช่างก็บอกว่าไม่รู้เกี่ยวกับนกที่ติดในพัดลมหรือไม่
ผมก็จ่ายค่าซ่อมให้และรถก็ใช้มาได้จนเมื่อกี้ไปกินข้าวก็ไปได้
---------------------------------------------------------------------------------------------

จุดที่ ๑

รถดับเอง เลยโทรเรียกช่างมาดู

- ปกติแล้ว ทุกท่านที่มีรถยนต์ ขับรถยนต์ และไม่ได้สักแต่ว่าขับอย่างเดียว คงทำเหมือนๆ กันเวลารถดับ
คือจอดรถ และพยายามสตาร์ทรถ

ถ้าสตาร์ทไม่ติด คงเปิดฝากระโปรงรถดูด้วยตนเองก่อน ว่ามีอะไรผิดปกติ

เมื่อเปิดแล้ว ก็คงดูที่พัดลมหม้อน้ำก่อน เป็นอันดับแรก เพราะจะไปดูอะไรเครื่องยนต์ล่ะ
มันอยู่ในกรอบของมัน

จุดนี้ก็เริ่มไม่เนียนแล้ว ตานี่เป็นผู้ชายแท้ๆ กลับไม่คิดจะเปิดกระโปรงรถตัวเองดู
โทรเรียกช่างมาดูให้ซะงั้น

หรือปกติกระโปรงมีไว้ใส่อย่างเดียว






จุดที่ ๒

ช่างมาตรวจดู ไม่พบอะไรผิดปกติ

- ก็ไม่ทราบว่าที่มาคือช่างยนต์ หรือช่างมัน ฉันไม่แคร์กันแน่

โอเคนะ คนธรรมดา ถ้าสมองกลวงหน่อย อาจจะไม่รู้ว่ารถดับให้เปิดกระโปรงดูความผิดปกติ เน้นที่หม้อน้ำ
พัดลมต่างๆ และสายหัวเทียน แต่ที่เรียกมาคือช่าง ซึ่งต้องผ่านการทำงานมาแล้ว จึงเรียกว่าช่างได้

ทำไมพี่ช่างแก ไม่ดูใต้ฝากระโปรงรถล่ะ ทำไมพี่ช่างแกไม่รู้จักจะตรวจสอบรถล่ะ ให้ตาอ้วนดำ
แกต้องเสียเงินโทรเรียกรถลากมาอีก


จุดที่ ๓

เรียกให้ศูนย์ฟอร์ด มาลากไป

- ก็อย่างที่บอก ที่สะกิดไว้ก่อนนี้ ถ้าที่มาเป็นช่างจริงๆ ก็ต้องเช็ครถ ณ จุดที่เกิดเหตุแล้ว
ไม่มีช่างที่ไหน อยากให้เสียเวลามาก ขนาดรอรถมาลากเข้าอู่เลย

อีกอย่างรถที่มาลาก มาถึงเขาก็ต้องดูก่อน ตรวจสอบรถก่อนอีกรอบ ก่อนจะลาก เพราะถ้าลากไป ก็หมายถึง เงิน
เงิน เงิน


จุดที่ ๔

ผมและช่างจึงเดินไปดูโดยเปิดฝากระโปรงรถดู ปรากฎว่าตรงพัดลมหม้อน้ำมีซากนกเอียงสีดำติดอยู่

- เอ่อ ตาอ้วนดำครับ รถถึงอู่ ถึงศูนย์บริการแล้ว ไม่มีแมวน้ำสักตัว ที่จะเปิดฝากระโปรงรถเลยเหรอครับ

แล้วนกเอี้ยงที่เลี้ยงควายเฒ่านะครับ ที่ติดอยู่น่ะ ไม่ใช่มดตะนอย ไต่ต้นพริก ครับ
มันต้องมีคนเห็นบ้างแหละครับ ตั้งแต่รถดับครั้งแรกแล้ว ถ้าเป็นเรื่องจริงมันต้องเห็นนกตัวนี้แต่แรกแล้ว
ถ้าเป็นเรื่องจริง

แต่นี่ตาอ้วนดำแกปล่อยให้นกเอี้ยง ตามหาควายเฒ่าไม่เจอ เลยมาเจอแก กับรถ เลยเข้ามาอยู่ซะงั้น

สงสัยนกเอี้ยงเข้าใจผิด คิดว่าตาอ้วนดำนี้ เป็นควายเฒ่า มั้งนี่ เห็นมันอ้วนๆ ดำๆ เหมือนกัน

- อีกประเด็น รถสมัยนี้ มีกระจังหน้า มีตะแกรงดักลม ซึ่งกันสิ่งแปลกปลอมขนาดใหญ่ไว้อยู่แล้ว

อะไรที่ขนาดเกินกว่าไข่จิ้งจก คงไม่สามารถลอดเข้าไปในกระโปรงรถได้ เว้นเสียแต่เปิดกระโปรง
และจับยัดเข้าไป

แล้วนี่นกเอี้ยง อยากมาเลี้ยงความเฒ่า มันเข้าไปได้ยังงัย ตามหลักความเป็นจริง

แถมเข้าไปนอนเล่นในพัดลม โดยที่คนหลายๆ คนเปิดกระโปรงดูแต่ไม่รู้อะไรดลใจ ไม่ให้ดูพัดลมหม้อน้ำ

แหม่ วิญญาณนกเอี้ยง มันคงดลใจ ไม่ให้ช่างคนแรกเห็นมัน มันจะได้นั่งรถควายเฒ่า ไปเที่ยวศูนย์ฟอร์ด
แน่ๆๆๆๆ เลย


สรุปนิทานเรื่องนี้ ไม่เนียนครับ

จุดที่ ๕

ผมเลยจ่ายค่าซ่อม

- แสดงว่ารถซื้อมาใหม่ แค่สี่เดือน ไม่มีประกันเหรอครับ ถึงต้องจ่ายค่าซ่อม

อีกอย่าง รถไม่ได้เสียอะไร แค่เอาไม้เขี่ยๆ ศพนกเอี้ยง ที่อยากมาเลี้ยงควายเฒ่าเอง คิดเป็นค่าซ่อมเหรอ

เรียนนิติมานี่ จะให้เขาเอาเปรียบทำไม

ถ้าควักจ่ายค่ารถลากก็พอเชื่อได้หน่อย




แสดงว่าเพิ่งขับรถ เพิ่งมีรถเองแน่เลย ถึงได้แต่งเรื่องยังไม่เนียน

เป็นประสบการณ์ดีดี ที่น้องคุ่น แกได้รับจากการบูชาพยนต์อาคม พรายพยนต์สายล้านนา พยนต์มหาภูติ
พยนต์ยักษ์ เอ่อ ขออภัย มันคือตัวเดียวกัน ขอเรียกสั่นๆ เอ้ย สั้นๆ ว่าพยนต์ยักคิ้ว แล้วกัน

น้องคุ่นแกเอาพยนต์ยักคิ้วไปเลี้ยงได้ระยะหนึ่ง พอดีเก็บตกได้จากล็อตแจกฟรี

แกเลี้ยงด้วยโอเลี้ยง และขนมปังปิ้ง ทาแยมทุกวัน ก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะไม่ได้ใส่หลอดให้ด้วย
พอดีโอเลี้ยงสูตรยกซด เลยไม่ให้หลอด

ท่าทางตาพี่พยนต์ยักคิ้ว ที่ชื่อ บูลชิต จะชอบกาแฟ เพราะเซ่นให้ทีไร แกสูดธูปหมดดอกทุกทีสิน่า
ไม่ว่าเซ่นอะไร จุดธูปบอกนะ ธูปต้องหมดดอกทุกครั้งไป น่าอัศจรรย์

ที่มหัศจรรย์คือเมื่อวานนี้ น้องคุ่น ขับรถโฟลค์เต่า พาแฟนสาวไปกินอาหารญี่ปุ่น แถวทองหล่อ
ร้านอะไรอย่ารู้เลย รู้ไปก็ไม่ได้ไปกินกะเค้า (เพราะร้านประจำผมอยู่เอกมัย ต้นซอย)

ระหว่างทาง น้องคุ่น ก็มือซน สำรวจหว่างขาน้องหวัน แฟนสาว สงสัยพี่พยนต์บูลชิต จะหวงน้องสาว เอ้ย
หมั่นไส้ ภายในบัดดล รถโฟลค์เต่าของน้องคุ่น ก็กระตุกๆ และดับไป

น้องคุ่นแกพยายามสตาร์ทกี่ทีก็ไม่ติด พอดีเจ้าตัวเพิ่งเปลี่ยนใจมาเป็นแมน หลังจากแอบมานาน
เลยไม่รู้เรื่องรถยนต์ สักแต่ว่าขับ เลยโทรเรียกชั่ง เอ้ย ช่าง ให้มาดู

อึดใจเดียว ช่างเจ้าประจำจากร้านไร่ขิง บาร์เบอร์ ก็มาถึง มาทักทายสักพัก
ว่าช่วงนี้น้องคุ่นไม่ไปตัดผมที่ร้านเลยนะ ติดสาวสิท่า นู๋งอนนะเคอะ เอ้า เป็นงั้นไป รถเสีย
ดันโทรเรียกช่างตัดผมมาดูรถ

สุดท้ายสามหน่อนั่น ก็ไม่รู้จะทำงัย สตาร์ทไม่ติดอยู่ดี

เลยตัดสินใจเรียกรถลาบ มา สั่งลาบ น้ำตกกินพออิ่ม นึกได้ว่าควรเรียกรกลาก จึงโทรไปเรียกรถมาลากเข้าอู่


พอถึงอู่ ช่างก็รุมมาดูรถ ดูกันไปเพลินๆ สตาร์ทไม่ติดสักที

หัวหน้าช่างเห็นว่าดูนานแล้ว เสียเวลาทำมาหากิน เลยให้เปิดกระโปรง ช่างก็มารุมจะเปิดกระโปรงน้องหวัน
แฟนน้องคุ่น แต่หัวหน้าช่างบอกให้เปิดกระโปรงรถเฟ้ย

พวกช่างหัวงู เลยเปิดกระโปรงรถ ปรากฏว่า มีเรื่องแปลกคือ เครื่องยนต์รถหายไป หายไปทั้งเครื่องเลย

ช่างเลยมาบอกน้องคุ่น ว่าน้อง รถน้องเครื่องหายว่ะ เสียใจด้วย



น้องคุ่นแกกลุ้มใจมาก สั่งโอเลี้ยงมาแก้ว พร้อมธูปมาจุดเซ่นพี่บูลชิต หุ่นพยนต์ยักคิ้ว
ให้ช่วยแก้ปัญหาให้หน่อย เครื่องรถมันหายพี่


สักพักพอช่างลองสตาร์ทรถ ก็ได้ยินเสียง กุกๆ กักๆ ที่กระโปรงหลังรถ ก็เลยวิ่งไปเปิดกระโปรงหลังดูกัน

เห็นแล้วก็ตะลึง อึ้งแดกกันเป็นแถบๆ เพราะเครื่องครับ เครื่องยนต์ มันมาสถิตย์อยู่ใต้กระโปรงหลัง
ช่างงี้ทึ่งเลย ว่าพยนต์ยักคิ้วนี่แน่จริงๆ สามารถตามหาเครื่องยนต์รถที่หายไปจากกระโปรงหน้า มาให้

แต่สงสัยพยนต์ยักคิ้ว จะไม่ได้เรียนช่างยนต์มา เลยเอามาติดไว้ข้างหลังแทน พี่ช่างใหญ่แกว่างั้น

จากนั้น น้องคุ่นเลยลองสตาร์ทดู ปรากฏว่าสตาร์ทติดครับ เลยรีบพาน้องหวัน ขึ้นรถไปกินวาซาบิ
จิ้มข้าวเหนียว แทนน้ำพริกหนุ่มกัน จนลืมจ่ายค่าเสียเวลาช่างทำผม รถลาก และช่างยนต์ที่อู่


พอน้องคุ่นเล่าจบ ผมก็ถามน้องคุ่นว่า รถน้องน่ะ โฟลค์เต่า แน่ๆ ใช่มั้ย

คุ่นบอก ใช่ฮะ

เออ น้องครับ โฟลค์เต่า เครื่องมันอยู่กระโปรงหลังอยู่แล้วครับ และที่สตาร์ทไม่ติดน่ะ
เพราะไดสตาร์ทมันจะร้อน ถ้าขับนานๆ มันจะค้าง ต้องรอสักพักถึงจะติดเครื่องได้ครับ น้องคุ่น


แล้วน้องคุ่นก็หน้าแหก

สู้ต่อไป น้องคุ่น

ไม่ได้ซ้ำเติมนะครับ...เรียนพืชจบพืช..แต่ทำฟาร์ม{:7_ ...
ต้นฉบับโพสโดย Gern.Naraphat เมื่อ 28-7-2011 18:00

                               
สมัครสมาชิก / เข้าสู่ระบบ เพื่อดูภาพขนาดใหญ่

   เห็นตอนนี้บอกว่าทำให้กับCP นะท่าทางไม่เบาเลยล่ะ

- มีคนถามว่า คนที่ชื่อ นิค ที่Room99 พูดถึงมาเกี่ยวอะไรกับอาจารย์ขุ้น

อ่าวถามมาแบบนี้ก็ต้องตอบกันหน่อย

คนชื่อนิคนี้เมื่อก่อนปี47-50 เขาเปิดเว็ปขายวัตถุมงคล เป็นงานอดิเรก ตอนนั้นก็มี นายขุน นี้เป็นคนส่งของมาขาย
จากเชียงใหม่ ตอนนั้นอาจารย์ขุ้นเป็นเด็กส่งของให้นายนิค ทำของเอง เสกเองใช้เอง ขายเองตั้งราคาเอง

มีปัญหากับนายขุ้นเืรื่องเงินทอง ขุ้นก็เลยไปเปิดเว็ปขายเอง

มีอยู่วันนึงนายขุ้น เอาวัวธนูมาโปรโมตเพื่อขาย  มีคนเช่ามาแล้วไปเดินเล่นแถวท่าพระจันทร์

เอามาเปรียบเทียบดูแล้วตอบว่าใช่เลย! นี่มันของท่าพระจันทร์เอาไปท่าสีลงรักใหม่นี่หว่า
ก็เลย เป็นประเด็นขึ้นมานั่นเอง

ยิ่งตามยิ่งมันว่ะเฮ้ย............มหากาพย์ชัด ๆ  
....ไม่จะอะไรนะครับ  แต่จะขอติดตามกระทู้จนกระทู้นี้โดนลบอะ....
มันส์ดี.....อะไรที่ลึกลับมักมีข้อคิดดีๆ แฝงอยู่เยอะ.........เพราะนี้คือเส้นทางเศรษฐี..(ล้อเล่นนะครับ).ไม่อยากให้ทุกคนเครียด