|
แก้ไขล่าสุด cho เมื่อ 4-4-2010 08:10
"มส." สวดยับไม่เหมาะสม "ขุนแผนโคโยตี้" ระบุไม่เหมาะสมทำชาวพุทธเสื่อม
ฮือฮา "ขุนแผนโคโยตี้" เผยเผยแพร่ว่อนทางอินเทอร์เน็ต ตะลึงเป็นภาพหญิงสาวนุ่งน้อยห่มน้อย ใส่จี-สตริง ยืนเกาะเสาโรมัน ในซุ้มเรือนแก้ว เสนอราคาให้เช่าบูชา องค์ละ 500 บาท เผยต้นตอปลุกเสกโดย "หลวงพ่ออึ่ง" เกจิดังวัดเซิงหวาย ย่านบางซื่อ ระบุทำพุทธศาสนาเสื่อมเสีย วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งตรวจสอบด่วน เดลินิวส์
เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเรื่องราวฮือฮาให้กับผู้นิยมชมชอบท่องโลกอินเทอร์เน็ต ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องราวของเครื่องรางของขลัง ในการหาของดีมาบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล และไว้คุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย และเท่าที่ตรวจสอบข้อมูลถึงกับอึ้งไปตาม ๆ กัน เนื่องจากพระเครื่องหรือเครื่องรางที่ว่านั้น กลับกลายเป็นภาพสาวสวย ในชุดนุ่งน้อยห่มน้อย ใส่จี-สตริงสีแดงสดใส ในท่านั่งขัดสมาธิอยู่ในซุ้มเรือนแก้ว มีลักษณะทรวดทรงองค์เอว หรือท่าทางคล้ายกับสาวโคโยตี้ ทำให้บรรดานักท่องโลกอินเทอร์เน็ต เรียกขานว่า "ขุนแผนโคโยตี้"
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าว จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งว่ามีประชาชนได้รับการส่งต่อเมล เป็นรูปพระขุนแผนโคโยตี้ ซึ่งเป็นภาพที่ไม่เหมาะสมกันจำนวนมาก จึงเข้าไปตรวจสอบค้นหาข้อมูลในเว็บไซต์พระเครื่องต่าง ๆ พบว่ามีการนำเสนอให้เช่าบูชาพระขุนแผนโคโยตี้ ที่มีลักษณะเป็นพระผงรูปสี่เหลี่ยมคางหมู ด้านหน้าเป็นรูปขุนแผนนั่งขัดสมาธิ มือซ้ายถือกุมาร มือขวากำอยู่ที่หน้าอกรอบ ๆ จะเป็นซุ้มเรือนแก้ว
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพบว่าพระขุนแผนโคโยตี้ มีด้วยกันหลายรุ่นหลายสี บางชิ้นเป็นรูปหญิงสาวยืนเกาะเสาโรมันสภาพเปลือยเปล่า เน้นรูปร่างสัดส่วนชัดเจนใต้ฐานมีหญิงสาวในท่านั่ง ไม่สวมใส่เสื้อผ้าส่วนด้านหลังเป็นหญิงสาวเปลือยกายเห็นหลัง กำลังกอดปลัดขิก ทั้งนี้มีการระบุว่าปลุกเสกโดยพระอาจารย์สุเทพ สุทธสีโล หรือหลวงพ่ออึ่ง วัดเซิงหวาย แขวง-เขตบางซื่อกรุงเทพฯ โดยมีการเสนอราคาเช่าบูชา องค์ละ 500 บาท และจัดสร้างเพียง 500 องค์เท่านั้น
ด้าน ส.อ.จรุงศักดิ์ สุนทรสุข อายุ53 ปี เจ้าของร้านสุริโยทัยพระเครื่อง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่าเคยเห็นพระในรูปแบบลักษณะนี้มาเหมือนกัน ส่วนใหญ่จะมีพระเกจิอาจารย์ทางภาคเหนือนิยมสร้างกัน เป็นรูปคนเสพสุขกับม้าหรือรูปคนเสพสุขกัน และได้รับความนิยมในกลุ่มคนบางกลุ่มรวมทั้งประชาชนที่มีอาชีพติดต่อค้าขาย จะนิยมเช่าบูชามาเก็บไว้ในที่เก็บเงิน แต่ยังไม่เคยพบเห็นนำมาคล้องคออย่างไรก็ดี เซียนพระจะไม่มีใครนิยมกันเพราะถือว่าไม่ใช่สิ่งที่จะนำมาบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล
"ส่วนตัวมองว่า พระเครื่องจะต้องเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ไม่น่าจะนำรูปลักษณะการสมสู่หรือภาพเปลือยของหญิงสาวมาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เพราะเป็นภาพที่ไม่เหมาะสมอย่างมาก จึงรู้สึกหดหู่ใจที่ยังมีการสร้างและพัฒนารูปแบบจนมากเกินไป ปัจจุบันมักมีการสร้างวัตถุมงคลกันในรูปแบบต่าง ๆที่ไม่เหมาะสมออกมามาก แต่ยังไม่มีการควบคุม ทำให้ภาพของพุทธศาสนามัวหมองจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งตรวจสอบ" ส.อ.จรุงศักดิ์ กล่าว
ขณะที่ นายอำนาจ บัวศิริ ผอ.สำนักงานเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) กล่าวว่า การกระทำดังกล่าว ถือว่าไม่เหมาะสมโดยเฉพาะการนำภาพผู้หญิงมาไว้คู่กับพระเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอยู่แล้ว และยิ่งเป็นภาพโคโยตี้ จึงสื่อความหมายในทางที่ไม่เหมาะสมมากขึ้นไปอีก ทั้งนี้การจะสร้างวัตถุมงคลหรือการหล่อพระพุทธรูปทางคณะสงฆ์ ไม่เคยสนับสนุนให้สร้าง และการสร้างวัตถุมงคลไม่มีกฎหมายเข้าไปควบคุมดูแล เพราะถือเป็นความศรัทธาของแต่ละบุคคล ที่ไม่สามารถห้ามปรามได้ และไม่มีความผิด
นายอำนาจ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมีคนที่มีความคิดแปลก ๆ โดยการนำความโลกีย์ของสังคมมาผสมผสานกับความเชื่อของคนไทย เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ที่สำคัญมีการอวดอ้างสรรพคุณต่าง ๆ จึงคิดว่าการจัดสร้างวัตถุมงคลในลักษณะดังกล่าวคงไม่มีใครอยากไปเช่าซื้อหรือครอบครอง
นายอำนาจ กล่าวด้วยว่า ในการประชุม มส.ทุกครั้ง ได้มีการหารือไม่ให้มีการสนับสนุนหรือส่งเสริมการสร้างวัตถุมงคล แต่ให้ผ่อนปรนจัดสร้างได้ตามความจำเป็นเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมา มส.ได้กำชับไปยังเจ้าคณะผู้ปกครองให้ตักเตือนหรือห้ามปราม หากพระสงฆ์หรือมีบุคคลมาขอให้จัดสร้างวัตถุมงคล ในลักษณะที่ไม่เหมาะสมสำหรับกรณีนี้หากมีการร้องเรียน จะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า มีเหตุผลอะไรในการจัดสร้าง และถึงมีความคิดแบบนั้น
"การสร้างพระขุนแผนโคโยตี้ และนำรูปผู้หญิงมาใส่คู่กับพระพุทธรูป จะมีใครต้องการเช่าหรือไม่ หรือยกเว้นผู้มีความคิดอยากจะเช่าตามกระแส ดังนั้น อยากฝากไปยังประชาชนควรมีวิจารณญาณ และวิเคราะห์ให้ดีก่อนจะเช่าหรือจัดสร้างพระ เพราะหากทำขึ้นแล้วจะส่งผลกระทบต่อพระพุทธศาสนา"นายอำนาจ กล่าว
ด้าน พระรัตนเมธี เจ้าอาวาสวัดแก้วฟ้าจุฬามณี และเจ้าคณะเขตบางซื่อ กล่าวว่าได้เรียกนายสมศักดิ์ ว่องไว ไวยาวัจกร วัดเซิงหวาย มาสอบถามถึงเรื่องที่พระอาจารย์อึ่ง จัดสร้างและปลุกเสก พระขุนแผน รุ่นโคโยตี้ โดยไวยาวัจกร เล่าให้ฟังว่า เมื่อประมาณ3 เดือนที่ผ่านมา มีญาติโยมเป็นชายมาจากท่าพระจันทร์ นำกล่อง 4 กล่อง ภายในบรรจุพระเครื่อง 500 องค์ รวมทั้งหมด 2,000 องค์ มาให้พระอาจารย์อึ่งปลุกเสก โดยไม่ทันได้เปิดกล่องดูว่า ข้างในเป็นอะไร รู้แต่เพียงว่า เป็นวัตถุมงคล และหลังจากปลุกเสกแล้วโยมได้ถวายให้ 1,000 องค์ และเมื่อพระอาจารย์เห็นก็ตกใจ และบอกให้ลูกศิษย์นำไปแจกให้หมด
"จากกรณีนี้ไม่ถือว่าผิดพระวินัยสงฆ์เนื่องจากพระอาจารย์อึ่ง ไม่ได้จัดสร้างเองเพียงแต่มีโยมนำมาให้ปลุกเสกให้เท่านั้นและหลังจากนี้ จะเรียกพระอาจารย์อึ่ง มาสอบถามอีกครั้ง ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น มีความเป็นมาอย่างไร" เจ้าคณะเขตบางซื่อ กล่าว
ขณะที่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พระอาจารย์อึ่ง ไม่รู้มาก่อนว่า ผู้ที่นำพระมาให้ปลุกเสก นำพระลักษณะใดมาให้ปลุกเสกแต่พระอาจารย์อึ่ง มาทราบทีหลัง รู้สึกไม่สบายใจ จึงบอกให้ลูกศิษย์นำไปแจกจ่ายให้แก่ลูกศิษย์และเท่าที่ทราบว่าชายคนดังกล่าวนำพระที่รับการปลุกเสกจากพระอาจารย์ไปจำหน่ายยังประเทศสิงคโปร์ และขณะนี้พระขุนแผน รุ่นโคโยตี้ เป็นที่ต้องการของพ่อค้าแม่ค้าอย่างมาก เพราะเช่ากันเป็นพันบาทแล้ว
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปกุฏิพระอาจารย์อึ่ง ที่วัดเซิงหวาย พบลูกศิษย์จับกลุ่มสนทนากันอยู่เต็มหน้ากุฏิ แต่ไม่พบพระอาจารย์อึ่ง โดยลูกศิษย์บอกว่า พระอาจารย์อึ่งติดกิจนิมนต์ ยังไม่กลับวัด และพระอาจารย์อึ่งไม่ได้สร้างพระขุนแผนรุ่นนี้ |
|