เมืองเสน่ห์กาหลง มหาเสน่ห์ มหาเมตตา มหานิยม
Khalong Amulet
ซ่อนแถบด้านข้าง

มาให้ชมตามสัญญา2ค่ะ

[คัดลอกลิงก์]
 เจ้าของ| AOM0326 โพสต์เมื่อ 19-6-2012 15:27 | แสดงโพสต์ทั้งหมด

อาการปวดหลัง ปวดเอว

   โรคปวดกล้ามเนื้อหลัง (Musculotendinous strain) เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดของอาการปวดหลัง (Back pain)
พบได้ตั้งแต่วัยหนุ่มสาวเป็นต้นไป แต่อาการปวดหลัง ปวดเอว ซึ่งเป็นปัญหากับหลายๆคน
โดยเฉพาะเมื่อย่างเข้าสู่วัยกลางคน ถ้าปวดหลัง ปวดเอวจากกล้ามเนื้อ จะเป็นภาวะที่ไม่อันตรายร้ายแรง
แต่ก่อให้เกิดความเจ็บ ปวด และอาจเป็นอาการปวดหลัง ปวดเอวเรื้อรังได้

โดยอาการปวดจะแสดงในลักษณะต่าง เช่น บางรายอาจปวดเฉพาะบริเวณหลังหรือกระเบนเหน็บ
บางรายอาจปวดหลังและร้าวลงขาข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้างและมีอาการชาร่วมด้วยจนเดินไม่ได้ก็มี
บางรายอาจมีอาการปวดเอว แล้วก็มีอาการตึงมาทางหน้าท้อง

สาเหตุของอาการปวดหลัง ปวดเอว แบ่งได้เป็น 3 สาเหตุหลัก

1.ปวดหลังจากไตอักเสบ หรืออาจมีนิ่วที่ไต มักจะมีไข้ ปวดเอว ปัสสาวะอาจมีแสบ ขัด ขุ่น
ถ้าเคาะเบาๆ ที่เอวด้านที่ปวดจะเจ็บมากจนสะดุ้ง

2.ปวดหลังจากกระดูกสันหลัง หรือหมอนรองกระดูกสันหลังที่เอวเคลื่อนกดทับเส้นประสาท
มักพบในคนเลยวัยกลางคนแล้ว คนที่ต้องแบกของหนักเสมอ หรือผู้ที่เคยประสบอุบัติเหตุที่บริเวณหลัง
บางรายเท้าจะอ่อนแรง ยกปลายเท้าไม่ขึ้น อาการอาจค่อยเป็นค่อยไป
บางรายก้มยกของหนัก แล้วหมอนรองกระดูกก็เคลื่อนออกมากดทับเส้นประสาท ทำให้ปวดกะทันหันก็มี

3.ปวดหลัง ปวดเอว จากกล้ามเนื้อหลัง   มักเกิดจากการทำงานก้มๆ เงยๆ ยกของหนัก นั่ง ยืน นอน
หรือยกของในท่าที่ไม่ถูกต้อง ใส่รองเท้าส้นสูงมากเกินไป นั่งเล่นเกมส์หรือทำงานนานเกินไป หรือนอนที่นอนนุ่มเกินไป
ทำให้เกิดแรงกดตรงกล้ามเนื้อสันหลังส่วนล่าง ซึ่งจะมีอาการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อหลัง
จึงเกิดอาการปวดตรงกลางหลังส่วนล่าง   คนที่มีน้ำหนักตัวมาก หรือหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ก็อาจมีอาการปวดหลังได้

และที่สำคัญเมื่ออายุมากขึ้น เส้นเอ็นหรือกล้ามเนื้อหลัง เอว หน้าท้อง จะมีอาการหดเกร็งหรือเกิดอาการตึง เรียกว่า
"กษัยเส้น"

จะทราบได้อย่างไรว่าปวดหลัง ปวดเอว จากสาเหตุใด ให้ทดลองดังนี้

ขั้นแรก ลองให้นอนหงายบนพื้นแข็ง ๆชันเข่าขึ้นบน ท่านี้จะทำให้กล้ามเนื้อหลังคลายตัว
ถ้าอาการดีขึ้น ก็น่าจะปวดหลัง ปวดเอวจากกล้ามเนื้อ

ขั้นต่อมา ลองใช้กำปั้นทุบเบาๆ ที่บั้นเอวข้างที่ปวด ถ้าปวดจนสะดุ้ง ร่วมกับมีไข้ ปัสสาวะแสบ ขัด ขุ่น
ก็มีโอกาสเป็นไตอักเสบ ควรรีบพบแพทย์ทันที
ถ้าทุบแล้วรู้สึกว่าสบาย อาการดีขึ้น ก็น่าจะปวดหลังจากกล้ามเนื้อ

ขั้นสุดท้าย ลองนอนหงาย เหยียดขาทั้ง 2 ข้างออก แล้วให้คนอื่นยกขาข้างที่ปวดเอวขึ้นมาตรงๆ เร็วๆ
โดยที่ขาอีกข้างยังเหยียดราบอยู่ ถ้าเกิดอาการปวดเอวด้านที่ยกขาขึ้น และปวดร้าวแปล๊บไปที่ปลายเท้า
ก็น่าจะเกิดจากหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนกดทับเส้นประสาท ควรรีบพบแพทย์ทันที

วิธีแก้อาการปวดหลัง ปวดเอว   ที่ปวดจากกล้ามเนื้อหลัง ต้องดูว่าอิริยาบถเป็นอย่างไร

ถ้าอาการปวดหลังเกิดจากการนอน ที่นอนควรใช้แบบแน่นยุบตัวน้อยที่สุด ไม่ควรใช้ฟูก ฟองน้ำหรือเตียงสปริง
เพราะหลังจะจมอยู่ในแอ่น ทำให้กระดูกสันหลังแอ่น จนเกิดอาการปวดหลังได้

ท่านอนที่ผิด คือการนอนคว่ำจะทำให้กระดูกสันหลังแอ่นมากที่สุด โดยเฉพาะระดับเอว ทำให้ปวดหลังได้
การนอนหงายทำให้หลังแอ่นได้เล็กน้อย ทำให้ปวดหลังได้ ควรใช้หมอนข้างใบใหญ่ หนุนใต้โคนขา
จะช่วยให้กระดูกสันหลังแบนราบ และควรมีหมอนรองรับบริเวณคอไว้
การนอนตะแคง เป็นท่านอนที่ดี ควรนอนให้ขาล่างเหยียดตรง ขาบนงอ ตะโพกและเข่ากอดหมอนข้างไว้ หลังให้โก่งเล็กน้อย

การนั่ง ควรนั่งให้ชิดขอบในของเก้าอี้โดยหลังไม่โก่ง เก้าอี้ที่นั่งต้องรองรับก้นและโคนขาได้ทั้งหมด ความสูงพอดีที่เท้าแตะพื้น

การยืน ควรยืนพักขา 1 ข้าง คือ เข่าตึงข้างหนึ่ง หย่อนข้างหนึ่ง จึงจะไม่ทำให้หลังแอ่น

การยกของ อย่าก้มลงยกของ การก้มตัวลงหยิบของในลักษณะเข่าเหยียดตรงเป็นท่าที่ทำให้ปวดหลังได้
เพราะกล้ามเนื้อหลังจะเป็นส่วนที่ออกแรง จึงอาจทำให้เกิดอาการอักเสบได้
ควรย่อเข่าลงนั่งกับพื้น ยกของให้ชิดตัว แล้วลุกด้วยกำลังขา

การนั่งขับรถ บางท่านต้องขับรถเป็นระยะเวลานาน ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้มีอาการปวดหลัง ปวดเอว
ดังนั้นท่านั่งขับรถจะต้องนั่งให้ถูกวิธี และควรมีการพักโดยออกมายืนแล้วบิดขี้เกียจบ้าง เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลัง

ถ้ามีอาการปวดหลัง ปวดเอว ในส่วนของกล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็น ควรรับประทาน ยากษัยเส้น ตรา เอ
บางท่าน กล้ามเนื้อหลังอาจตึงมาก ทำให้ปวดหลัง ปวดเอว เรื้อรัง ควรนวดโดยท่านที่ชำนาญร่วมด้วย


ส่วนประกอบของหลัง

หลังของเราประกอบไปด้วยกระดูกสันหลังทั้งหมด 24 ชิ้นที่เรียกว่า vertebrae
โดยเรียงซ้อนกันตั้งแต่กระดูกสะโพกถึงกะโหลกศีรษะ ระหว่างกระดูกแต่ละชิ้นจะมีหมอนรองกระดูกขั้นกลาง
เพื่อรับแรงกระแทกของกระดูก และเพิ่มความคล่องตัวในการเคลื่อนไหว
กระดูกสันหลังทำหน้าที่เป็นแกนกลางของร่างกาย กระดูกจะถูกยึดติดเป็นแนวโดยอาศัยกล้ามเนื้อและเอ็น
การหดเกร็งกล้ามเนื้อหลังจะทำให้เกิดการเคลื่อนไหว

หากมีอาการเหล่านี้ร่วมกับอาการปวดหลัง ควรรีบพบแพทย
ปัสสาวะแสบ ขัด ขุ่น ปัสสาวะลำบาก
มีอาการชาบริเวณหลังหรือบริเวณอวัยวะเพศ
มีอาการชาและอ่อนแรงขาข้างหนึ่ง
มีอาการปวดแปล๊บที่ขาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง
เดินเซ

ตัวเลขทั้ง 7 ในเบอร์มือถือ สามารถบ่งบอกนิสัยตัวตนของผู้ใช้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ อย่ารอให้ชีวิตคุณดีก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนเลขมือถือให้ดี คุณต้องเปลี่ยนเลขดีก่อน ชีวิตคุณถึงจะดี!! ตัวเลขเสียๆ มักดึงดูดพลังงานเสียๆ เข้ามาทำให้เราผิดหวังในชีวิต ตรงกันข้าม ตัวเลขดีๆ มักดึงดูดพลังงานด้านดีๆ เข้ามาในชีวิต ผนวกกับบุญกรรมเก่าของแต่ละคนว่าจะไปสุดที่ตรงไหน เลขบางตัวเหมาะกับคนหนึ่ง แต่เป็นเลขเสียกับอีกคนหนึ่ง ศาสตร์พลังงานเลขมือถือ บางส่วนอิงจากโหราศาสตร์ไทย บางส่วนมาจากการเก็บสถิติ ศาสตร์เลขมือถือต้องใช้ความเชี่ยวชาญ ในการวางตัวเลขมือถือให้เหมาะสม หลายคนเมื่อทราบผลการวิเคราะห์เบอร์มือถือของตนแล้วว่า ดี ร้าย อย่างไร แต่ยังพร้อมยอมทนใช้อยู่ ไม่รู้ทำไม เหตุผลง่ายนิดเดียว "เพราะทุกคนมีกรรมเป็นของตน" เมื่อถึงเวลา ฟ้าจะเปิดทางให้ท่านเปิดใจรับเรื่องมงคลดีๆ เข้ามาเสริมความรุ่งเรืองชีวิตท่านเอง จงจำไว้ ดวงคนเลือกเบอร์มาใช้เอง เบอร์ใครเบอร์มัน ไม่ซ้ำกัน หากท่านศรัทธาในศาสตร์พลังตัวเลขแล้ว ขออย่าลังเล หรือสงสัย อย่ารีรอทนใช้เบอร์เสียๆ เพื่อดึงดูดเรื่องร้ายๆ มารอเพื่อส่งผลแล้วค่อยเปลี่ยนเบอร์มือถือ วันนี้ คุณมีทางเลือกใช้ชีวิตแบบติดเทอร์โบได้ มัวช้าอยู่ทำไม? บริการวิเคราะห์เบอร์มือถือ วางเลขมงคล เรื่องการงาน การเงิน ความรัก โทร 09ุ ุ42282289 LINE ID: cholvibul
 เจ้าของ| AOM0326 โพสต์เมื่อ 19-6-2012 15:28 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
โรคปวดกล้ามเนื้อหลัง เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดของอาการปวดหลัง พบได้ตั้งแต่วัยหนุ่ม สาวเป็นต้นไป เป็นภาวะที่ไม่มีอันตรายร้ายแรง และมักจะหายได้เอง แต่อาจเป็นๆ หาย ๆ เรื้อรังได้
การรักษา

1. สังเกตว่ามีสาเหตุจากอะไร แล้วแก้ไขเสีย เช่น ถ้าปวดหลังตอนตื่นนอน ก็อาจเกิดจากที่นอนนุ่มไป หรือนอนเตียงสปริง ก็แก้ไขโดยนอนบนที่แข็งและเรียบแทนถ้าปวดหลังตอนเย็น ก็มักจะเกิดจากการนั่งตัวงอตัวเอียง หรือใส่รองเท้าส้นสูง ก็พยายามนั่งให้ถูกท่า หรือเปลี่ยนเป็นรองเท้าธรรมดาแทน ถ้าอ้วนไป ควรพยายามลดน้ำหนัก

2. ถ้ามีอาการปวดมาก ให้นอนหงายบนพื้น แล้วใช้เท้าพาดบนเก้าอี้ให้เข่างอเป็นมุมฉาก สักครู่หนึ่งก็อาจทุเลาได้ หรือจะใช้ยาหม่อง หรือน้ำมันระกำทานวด หรือใช้น้ำอุ่นประคบก็ได้ ถ้าไม่หาย ก็ให้ยาแก้ปวด เช่น แอสไพริน, พาราเซตามอล ครั้งละ 1-2 เม็ด จะกินควบกับไดอะซีแพมขนาด 2 มก.ด้วยก็ได้ ถ้ายังไม่หาย อาจให้ยาคลายกล้ามเนื้อ เช่น เมโทคาร์บา มอล , คาริโซม่า ครั้งละ 1 เม็ด ซ้ำได้ทุก 6-8 ชั่วโมง ผู้ป่วยควรนอนที่นอนแข็ง และหมั่นฝึก กายบริหารให้กล้ามเนื้อหลังแข็งแรง

3. ถ้าเป็นเรื้อรัง หรือมีอาการชาที่ขา หรือขาไม่มีแรง อาจเกิดจากสาเหตุอื่น ควรแนะนำ ผู้ป่วยไปโรงพยาบาล อาจ ต้องเอกซเรย์หลัง หรือตรวจพิเศษอื่น ๆ และให้การรักษาตาม สาเหตุที่พบ

ข้อแนะนำ
อาการปวดหลังแบบนี้เป็นสิ่งที่พบได้บ่อยในหมู่ผู้ใช้แรงงาน กรรมกรที่ทำงานหนัก และในหมู่คนที่ทำงานนั่งโต๊ะนาน ๆ ซึ่งมักจะเข้าใจผิดว่า เป็นอาการของโรคไต โรคกษัย และซื้อยาชุด ยาแก้กษัย หรือยาแก้โรคไต กินอย่างผิด ๆ ซึ่งบางครั้งอาจทำให้เกิดโทษได้

ดังนั้น จึงควรแนะนำชาวบ้านเข้าใจถึง สาเหตุของอาการปวดหลัง และควรใช้ยาเท่าที่จำเป็น โดยทั่วไป การปวดหลังเนื่องจากกล้ามเนื้อมักจะปวดตรงกลางหลัง ส่วนโรคไตมักจะปวดที่สีข้าง และอาจมีไข้สูง หนาวสั่น หรือปัสสาวะขุ่นหรือแดงร่วมด้วย
 เจ้าของ| AOM0326 โพสต์เมื่อ 19-6-2012 15:30 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
การบริหารร่างกายเพื่อรักษาอาการปวดหลัง

การบริหารร่างกายให้กล้ามเนื้อหน้าท้อง  หลัง  สะโพก  และต้นขา   มีความแข็งแรง  และยืดหยุ่นได้ดี
  จะสามารถช่วยรักษาอาการปวดหลังได้     แม้ว่าบางคนอาจเลือกออกกำลังให้ร่างกายแข็งแรงด้วยการเดิน
วิ่ง ขี่จักรยาน หรือว่ายน้ำ  แต่ถ้าต้องการให้ได้ผลกับกล้ามเนื้อดังกล่าวโดยตรง ควรบริหารร่างกายโดย
ใช้ท่าดังต่อไปนี้
ท่าบริหารร่างกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
  
  ท่าที่ 1   
           บริหารกล้ามเนื้อหลัง สะโพก ต้นขา         
           ยืนหันหลังเข้าหากำแพงแยกเท้าออก                        
            เท่ากับความกว้างของช่วงไหล่     แล้ว      
            ค่อย ๆ ย่อตัวลงมา  จนเข่างอประมาณ   
            90 องศา ค้างเอาไว้จนนับ 1 ถึง 5 แล้ว   
            จึงค่อย ๆ เหยียดเข่ายืดตัวขึ้นไปอยู่ใน               
            ท่าเดิม  ทำ 5 ครั้งติดต่อกัน


ท่าที่ 2  บริหารกล้ามเนื้อหลัง และสะโพก
                   นอนคว่ำแล้วยกขาข้างใดข้างหนึ่งขึ้น
                   จากพื้น  ยกค้างเอาไว้เมื่อนับ 1 ถึง 10
                     แล้วจึงวางลง    ทำเช่นเดียวกันกับขา
              อีกข้างหนึ่ง  สลับกันข้างละ 5 ครั้ง  


ท่าที่ 3   
บริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องและสะโพกนอนหงายวางแขนไว้ข้างลำตัว   
ขาข้างหนึ่งงอ อีกข้างหนึ่งเหยียด   แล้วยกขาข้างที่เหยียดขึ้นค้างเอาไว้   
เมื่อนับ 1 ถึง 10 แล้วจึงค่อยๆวางลง  ทำ 5 ครั้งติดต่อกัน  ทั้งสองข้าง  


นอกจากนี้ยังสามารถนั่งทำบนเก้าอี้ โดยเหยียดขาออกแล้วยกขาข้างหนึ่ง   
ขึ้นมาจนถึงระดับเอว   ค้างเอาไว้จน นับ 1 ถึง 5 แล้วจึงค่อยๆวางขาลง   
กับพื้นเหมือนเดิม  ทำสลับกันทั้ง 2 ข้าง   ข้างละ 5 ครั้ง   


ท่าที่ 4      
บริหารกล้ามเนื้อท้องนอนหงาย  งอเข่าวางเท้าไว้บนพื้นแล้ว   
เกร็งหน้าท้อง   ค่อย ๆ ยกศีรษะ และ ไหล่ขึ้นจากพื้น   
จนสามารถ  เอื้อมมือไปแตะหัวเข่าทั้งสองข้างได้ค้างเอาไว้   
จนนับ  1  ถึง  10  แล้วจึง  กลับมาท่าเดิม   ทำซ้ำกัน 5 ครั้ง  


ท่าที่ 5   
บริหารกล้ามเนื้อสะโพก และหลัง   ยืนอยู่หลังเก้าอี้พร้อมกับใช้มือทั้ง  2   
ข้างเกาะพนักเก้าอี้ไว้  แล้วยกขาข้าง  ใดข้างหนึ่งขึ้นไปทางด้านหลัง โดย   
พยายามให้หัวเข่าเหยียดตรง ยกค้าง ไว้ จนนับ 1 ถึง 5 แล้วจึงวางลงช้าๆ   
ทำซ้ำกันข้างละ 5 ครั้ง


ท่าบริหารร่างกายเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
  
ท่าที่ 1   
นอนหงาย งอเข่า เท้าวางราบกับพื้น  สอดมือไว้ใต้ข้อเข่าทั้ง 2 ข้าง   
แล้ว   งอสะโพก    เอาเข่าเข้ามาชิดหน้าอก   ให้มากเท่าที่จะทำได้   
โดยใช้มือช่วยดึง  พยายามไม่ยกศีรษะขึ้น  และไม่ เหยียดขาออก   
ทำ 5 ครั้งคิดต่อกัน  


ท่าที่ 2   
นอนคว่ำ งอศอก วางมือไว้ใต้หัวไหล่แล้วเหยียดแขนออก   
ยกหัวไหล่ และ ลำตัวส่วนบนขึ้นจากพื้น  ให้มากเท่าที่จะทำได้   
โดยที่สะโพกและขายังคงวางราบอยู่กับพื้น  ค้างไว้ 1- 2  วินาที   
แล้วจึงกลับมาท่าเดิม     ทำติดต่อกัน 10 ครั้ง


ท่าที่ 3   
ยืนท้าวเอวให้มืออยู่ค่อนมาทางด้านหลัง แยกขาออกเล็กน้อย เข่าเหยียดตรง   
แล้วแอ่นตัวมาทางด้านหลังให้ มากเท่าที่จะทำได้ ค้างไว้ 1-2  วินาที   
แล้วจึงกลับมาท่าเดิม    ทำติดต่อกัน  10 ครั้ง   

  
การบริหารร่างกายเหล่านี้ควรทำอย่างสม่ำเสมอทุกวัน  ภายหลังจากที่อาการปวดบรรเทาแล้ว
ไม่จำเป็นต้องทำทั้งหมดทุกท่า  ควรเลือกทำท่าที่ทำได้หรือตามที่แพทย์แนะนำ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและ
ปัญหาของผู้ป่วยแต่ละราย
ขณะบริหารร่างกายในแต่ละท่าให้หายใจออกช้า ๆ และหายใจเข้าเมื่อกลับมาอยู่ในท่าพัก
ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นควรหยุดทำแล้วกลับมาปรึกษาแพทย์
โดย นพ.ปิยชาติ  สุทธินาค  ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ
manop โพสต์เมื่อ 20-6-2012 09:23 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
pn-autogas โพสต์เมื่อ 21-6-2012 08:40 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากๆครับ สำหรับคำแนะนำดี
 เจ้าของ| AOM0326 โพสต์เมื่อ 21-6-2012 12:40 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
อาหารปรับธาตุ





อาหารปรับธาตุ อาหารที่บำรุงธาตุ ดูอย่างไรว่าตนมีธาตุอะไร สรรพคุณของอาหารประจำธาตุ การทานอาหารเป็นสิ่งสำคัญต่อคนเราการทาน "อาหารปรับธาตุ" เพื่อความสมดุลย์ของร่างกาย
อาหารปรับธาตุ สำหรับผู้ที่มี ธาตุดิน ต.ค พ.ย ธ.ค
ลักษณะผู้ที่มีธาตุดินมาก
จะมีสภาพร่างกาย แข็งแรงบึกบึน กล้ามเนื้อ และกระดูกต่างๆ จะแข็งแรง
ผิวหนังจะค่อนข้างหยาบกระด้าง
พฤติกรรม
ชอบความโดดเด่น เป็นตัวของตัวเอง ค่อนข้างทระนง ถือตัว
ชอบขันอาสารับภาระแก่ผู้อื่น ชอบทำตนเป็นผู้นำ
อารมณ์และนิสัย
มีความอดทน มั่นคง มีน้ำใจกว้างขวาง รู้จักวางตน
ไม่ค่อยอ่อนไหวต่ออารมณ์ต่างๆ นัก มีความความกล้าหาญ
โรคที่มักจะเป็น
โรคท้องผูก ระบบย่อยอาหารไม่ค่อยปกติ ท้องอืดท้องเฟ้อ ความดันต่ำ
ไขมันอุดตัน หินปูนเกาะกระดูก ปวดตามข้อ
เส้นเลือดตีบ โรคหัวใจ ไต ชักกระตุก
อาหารปรับธาตุ ที่ควรรับประทาน
- อาหารรสฝาด เชน กะหล่ำปลี ชะอม ถั่วพู ใบบัวบก ผักกวางตุ้ง
ยอดกระถิน ยอดมะม่วงหิมพานต์ รากบัว สะตอ หัวปลี
อาหารเหล่านี้รับประทานได้ทุกวัน
- อาหารรสมัน เช่น กะทิ ถั่วเขียว ถั่วเหลือง นม เนย เผือก ฟักทอง
มัน แห้ว อาหารเหล่านี้ควรรับประทานพอประมาณ สัปดาห์ละ ๑-๒ ครั้ง
อย่าให้มากกว่านั้น จะเป็นโทษ
- อาหารรสหวาน เช่น กล้วยน้ำว้า กล้วยหักมุก เงาะ แตงโม ฝรั่ง
มังคุด มะม่วงสุก มะละกอ และน้ำผึ้ง นอกจากนี้รับประทานได้แต่นิดหน่อย
อาหารที่บำรุงธาตุได้ดี คือ น้ำนมข้าวผสมน้ำผึ้ง ใส่เกลือนิดหน่อย
หรือไม่ก็น้ำข้าวกล้องข้นๆ ผสมน้ำผึ้งพอหวาน ใส่เกลือลงไปพอปะแล่มๆ
รับประทานทุกเช้าตอนท้องว่าง แล้วจึงออกกำลังกาย สุดแต่สังขารอำนวย
ดูอย่างไรว่าตนมีธาตุดิน
- ดูจากปีเกิด ลักษณะรูปร่าง อารมณ์ และนิสัย
- คนเกิดปีจอ (หมา) และปีฉลู (วัว)
ถ้าจะดูตามวันเกิด ส่วนใหญ่จะเป็นวันพฤหัสบดี และ วันศุกร์
- ลักษณะรูปร่าง กล่าวแล้วแต่ต้น
- อารมณ์ และอุปนิสัย กล่าวแล้วแต่ต้น
ธาตุดินเป็นมิตรกับธาตุใด
ผู้ที่มีธาตุดินอยู่มาก จะเข้าได้กับทุกๆ ธาตุ แต่ถ้าจะดีที่สุดก็คือธาตุน้ำ
สีที่เหมาะกับธาตุดิน
สีม่วง หรือสีเท่า จะแก่ หรืออ่อนก็ได้ สีแดง สีชมพู
สรรพคุณของอาหารประจำธาตุดิน
กระถิน
- สรรพคุณ ช่วยขับลมในกระเพาะ บำรุงโลหิต
เสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง
กระหล่ำปลี
- สรรพคุณ ช่วยลดความเครียด โรคหัวใจ และมีสารต้านทานมะเร็งในลำไส้
กล้วย
- สรรพคุณ ช่วยให้ร่างกายขับถ่ายได้คล่อง
ชะอม
- สรรพคุณ ขับสารที่ก่อมะเร็งต่างๆ ภายในกาย
ป้องกันโรคหัวใจ ขาดเลือด แต่จะทำให้น้ำนมมารดาแห้ง
แตงโม
- สรรพคุณ ดับพิษร้อนภายในกาย เป็นยาระบายอ่อนๆ
น้ำแตงโมปั่นช่วยล้างลำไส้และกระเพาะอาหารได้ดี
ถั่วพู
- สรรพคุณ ในการเสริมวิตามินให้แก่ร่างกาย
ซึ่งในถั่วพูอ่อน มีสารประกอบไปด้วย วิตามินเอ วิตามินบี1
วิตามินซี วิตามินอี ฟอสฟอรัส และโปรตีน อีกทั้งยังมีกากใยอาหารมากด้วย
ถั่วเขียว
- สรรพคุณ แก้ร้อนในกระหายน้ำ ลดอาการอักเสบในช่องปาก
ป้องกันโรคหัวใจ ขับลมในลำไส้
นม
- สรรพคุณ ให้โปรตีน แคลเซียม วิตามินบี เหล็ก และสังกะสี
ผู้ที่มีวัยกลางคนแล้วไม่ควรดื่ม จะทำให้ท้องอืด ย่อยยาก ควรดื่มนมเปรี้ยวแทน
น้ำผึ้ง
- สรรพคุณ เป็นยาบำรุงกำลัง เป็นยาระบายอ่อนๆ
เป็นยาฆ่าเชื้อโรคบางชนิด เป็นยาสมานแผล
คนสูงอายุไม่ควรกินน้ำตาลควรกินน้ำผึ้งแทน
เพราะร่างกายดูดซึม และย่อยสลายได้ง่าย
ใบบัวบก
- สรรพคุณ ช่วยลดความเครียด แก้ร้อนใน
ช่วยละลายลิ่มเลือดภายใน ทำให้ความจำดี เอามาตำสดๆ พอกแผลหายเร็ว
ฝรั่ง
- สรรพคุณ ระงับกลิ่นปาก แก้อาการท้องเสีย บำรุงโลหิต
ฟักทอง
- สรรพคุณ ป้องกันมะเร็งในปอด ป้องกันเบาหวาน
ป้องการโรคทางเดินหายใจ บำรุงสายตา คุมน้ำตาลในเลือด
มังคุด
- สรรพคุณ ช่วยลดความร้อนภายใน แก้กระหายน้ำ
ช่วยเพิ่มเมือกภายในลำไส้ และกระเพาะ ทำให้ถ่ายคล่อง
เปลือกนำมาฝนผสมน้ำทาแผลพุพองเป็นยาฆ่าเชื้อ
มันเทศ
- สรรพคุณ แก้โรคกระดูกพรุน กระดูกเปราะ
ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงสายตา
มะละกอ
- สรรพคุณ ช่วยย่อยอาหาร ช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ
เป็นยาระบาย บำรุงผิว
มะม่วงสุก
- สรรพคุณ ช่วยทำให้ระบายของเสียภายในได้ดี
น้ำมะม่วงสุก เป็นยาบำรุงกำลัง แก้อ่อนเพลีย
รากบัวหลวง
- สรรพคุณ เป็นยาเย็น แก้ร้อนใน ดับพิษไข้ บำรุงธาตุ ขับปัสสาวะ
หัวปลีกล้วย
- สรรพคุณ ช่วยเพิ่มน้ำนมมารดา ลดไข้ระดู
ทำให้เลือดสมบูรณ์ บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง
มีกากใยอาหารมากทำให้ถ่ายสะดวก
แห้ว
- สรรพคุณ เป็นยาดับพิษร้อนในร่างกาย ขับพยาธิ ขับลมในลำไส้
สะตอ
- สรรพคุณ ทำให้เจริญอาหาร ขับลมในกระเพาะ บำรุงสายตา

.....................


อาหารปรับธาตุ สำหรับผู้ที่มี ธาตุน้ำ ก.ค ส.ค ก.ย
ลักษณะผู้ที่มีธาตุน้ำมาก
จะมีรูปร่างท้วมสมส่วน ผิวพรรณผ่องใส
เส้นผมและขนจะมันเป็นเงาโดยธรรมชาติ
ฟันและเล็บมือเล็บเท้าจะขาวอมชมพูเป็นเงางาม
ริมฝีปากจะมีสีสดตลอดเวลา แววตาจะดูแวววาว
น้ำเสียงจะก้องกังวาน เนื้อตัวจะเย็น ที่มีคำพูดว่าพ่อเนื้อเย็นแม่เนื้อเย็น
พฤติกรรม
เป็นคนเยือกเย็น มีเหตุมีผล นิยมชมชอบคบค้าสมาคมแก่คนทั้งหลาย
มีอัธยาศัยชอบวางตัว เป็นผู้ใหญ่เกินวัย มีผู้คนนับหน้าถือตา ขยันขันแข็ง
อารมณ์และนิสัย
รักสวยรักงาม รักหน้าตา มีจิตเมตตา โอบอ้อมอารี
มีปกติ มักติดในอารมณ์ใดๆ ได้ง่าย เป็นประเภทพวกรักง่ายหน่ายเร็ว
ฉลาดเอาตัวรอดได้ ชื่นชอบธรรมชาติ และดอกไม้
โรคที่มักจะเป็น
โรคภูมิแพ้ โรคหวัด โรคติดเชื้อต่างๆ
แผลพุพองที่เรียกว่าน้ำเหลืองเสีย น้ำหนองไหล ปอดชื้น
น้ำท่วมปอด โรคไตวายฉับพลัน โลหิตจาง
เลือดออกตามไรฟัน และโรคอ้วน
อาหารปรับธาตุที่ควรรับประทาน

- อาหารรสเปรี้ยว ได้แก่ กระท้อน กระเทียมดอง ขี้เหล็ก
ดอกแค มะกอก มะเขือเทศ มะดัน มะนาว มะปราง มะม่วง
ยอดมะขามอ่อน สับปะรด ส้มทุกชนิด และผักใบเขียวทุกชนิด
อาหารรสเปรี้ยว แม้จะถูกกับผู้ที่มีธาตุน้ำมาก
แต่ถ้ารับประทานมากไปก็จะทำให้ท้องอืด
ถ้าเป็นแผลก็จะหายยาก อาจทำให้เกิดแผลในปาก และร้อนในได้
- ลำดับของอาหารที่ควรรับประทาน
เปรี้ยว เผ็ด หวาน เค็ม มัน พยายามหลีกเลี้ยงอาหารมันๆ
อาหารที่บำรุงธาตุได้ดี
เช้าๆ ควรดื่มน้ำผักผลไม้รวม หรือน้ำข้าวกล้องผสมน้ำผึ้งก่อนออกกำลังกาย
จะทำให้สุขภาพดี อาหารที่กล่าวมาแล้ว
ควรรับประทานทุกมื้อ รับประทานแต่พอดี
ดูอย่างไรว่าตนมีธาตุน้ำ
- ดูจากปีเกิด ลักษณะรูปร่าง อารมณ์ และนิสัย
- คนเกิดปีชวด (หนู) และปีกุน (หมู)
ถ้าจะดูตามวันเกิด ผู้ที่เกิดในวันพุธ ส่วนใหญ่จะเป็นธาตุน้ำ
- ลักษณะตามรูปร่าง กล่าวแล้วแต่ต้น
- อารมณ์ และอุปนิสัย กล่าวแล้วแต่ต้น
ธาตุน้ำเป็นมิตรกับธาตุใด
- ผู้ที่มีธาตุน้ำอยู่มาก จะเข้าได้ดีกับธาตุดิน รองลงมาก็ธาตุลม
- เป็นศัตรูกับธาตุไฟ
สีที่เหมาะกับธาตุน้ำ
สีเหลือง สีเขียว หรือสีที่เข้าได้ดีกับธรรมชาติรอบตัว
สรรพคุณของอาหารประจำธาตุน้ำ
กระเทียม
- สรรพคุณ ช่วยลดความดัน รักษาโรคปอด โรคหอบหืด
ไขข้ออักเสบ โรคเกาต์ และกำจัดพยาธิ
ไม่มีผลข้างเคียงกับผู้ที่กินเป็นประจำ
กระหล่ำดอก
- สรรพคุณ ช่วยสำหรับผู้มีบุตรยากทั้งหญิงและชาย
ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยป้องกันโรคมะเร็งเต้านม
บำรุงภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
ขี้เหล็ก
- สรรพคุณ แก้นิ่วในไต แก้ท้องผูก บำรุงสายตา
ทำลายเชื้อมะเร็ง เป็นยานอนหลับ
ขึ้นฉ่าย
- สรรพคุณ ช่วยให้เจริญอาหาร เพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
สามารถกำจัดเชื้อมะเร็งได้เกือบทุกชนิด บำรุงไตให้แข็งแรง
นำมาปั่นกับแครอทผสมน้ำส้มดื่มทุกเช้า จะช่วยให้สุขภาพดี
คะน้าและผักใบเขียวทุกชนิด
- สรรพคุณโดยรวม คือ ทำให้ผิวพรรณชุ่มชื้น
ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารต่างๆ ได้ดี
มีกากใยมาก ทำให้ขับถ่ายคล่อง ลดอาการมะเร็งในลำไส้และปอด
รวมทั้งต่อมลูกหมากได้ดี
แค
- สรรพคุณ รักษาโรคหวัดคัดจมูก บำรุงสายตา
ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
มะเขือเทศ
- สรรพคุณ บำรุงโลหิต ช่วยทำให้ผิวพรรณดี
แก้อาการสิวฝ้า ป้องกันมะเร็งในต่อมลูกหมาก
มะนาว
- สรรพคุณ รักษาโรคหวัด เจ็บคอ
ด้วยวิธีนำน้ำมะนาวมาผสมน้ำผึ้งเกลือเล็กน้อยผสมน้ำอุ่น
แล้วดื่มทีละน้อยทุกเวลาที่รู้สึกกระหายน้ำ ห้ามคนที่ปวดตามข้อดื่ม
สับปะรด
- สรรพคุณ เป็นยาแก้ไข้ ขับเสมหะ
ช่วยย่อยอาหารประเภทเนื้อสัตว์ให้แก่ร่างกายได้ดี
แก้โรคคอหอยพอก ขับพยาธิ และเป็นยาระบายอ่อนๆ
น้ำสับปะรดใช้กลั้วปาก ช่วยลดอาการเหงือกบวม และดับกลิ่นปาก
แกนสับปะรดช่วยขับปัสสาวะ ละลายนิ่ว

.....................


อาหารปรับธาตุ สำหรับผู้ที่มี ธาตุลม  เม.ย พ.ค มิ.ย
ลักษณะผู้ที่มีธาตุลมมาก
จะมีรูปร่างสูงโปร่ง ไม่อ้วน ผมและขนตามตัวจะแห้งกรอบ
ผิวหนังแห้ง กระด้าง เล็บกระดูกฟันเปราะกรอบ สีจะขาวซีด
ดวงตาจะพร่ามัวเพราะมีลมออกจากกระบอกตามาก
พฤติกรรม
ทำอะไรหุนหัน เรียกว่าโกรธง่ายแต่หายเร็ว ทะเยอทะยาน
มีความหยิ่งทระนงที่ถนัดคือยุ่งกับเรื่องของชาวบ้านตั้งวงนินทา
เป็นคนช่างประจบเลยทำให้ดูเหมือนมีสังคมกว้างเข้ากับคนอื่นได้ง่าย
แต่ก็โดน คนอื่นทิ้งได้ง่าย เป็นคนทำอะไรรวดเร็ว แต่ไม่ค่อยเรียบร้อย
อารมณ์และนิสัย
เป็นคนเจ้าอารมณ์ ชอบเพ้อฝัน มีนิสัยค่อนข้างอิจฉาริษยา
บางขณะก็มีน้ำใจจนท่วมท้น ทำให้คนอยู่ใกล้อึดอัด
บางขณะก็ดูหฤโหด โกรธรุนแรง มีความหลงต่ออารมณ์ต่างๆ ได้ง่าย
จนถูกหลอกเป็นประจำ ถึงกระนั้นก็ยังพอจะมีปฏิภาณเอาตัวรอดได้
เป็นผู้มีความคิดที่ใครๆ ก็จะคาดเดาลำบาก
โรคที่มักจะเป็น
โรคกระดูกเปราะ โรคน้ำตาแห้ง โรคตาต่างๆ โรคลมจุกเสียด
โรคลมดันหัวใจ โรคนอนกรน โรคผอมแห้งแรงน้อย โรคปวดหัววิงเวียนศีรษะ
โรคท้องอืดท้องเฟ้อ โรคอ่อนเพลีย
อาหารปรับธาตุ ที่ควรรับประทาน
- อาหารที่รับประทานแล้วทำให้เกิดความร้อนในร่างกาย เช่น
- อาหารรสเผ็ด ได้แก่ กระชาย กระเทียม ขิง ขึ้นฉ่าย ขมิ้นขาว
ตะไคร้ ถั่วต่างๆ ใบกะเพรา ใบชะพลู ใบแมงลัก ใบโหระพา ใบสะระแหน่
ผักชีฝรั่ง พริก ฟักทอง ยี่หร่า และพืชผักใบเขียวต่างๆ เช่นผักบุ้ง
- ผลไม้ ก็มี ชมพู่ แตงไทย แตงโม พุทรา เม็ดบัว เม็ดแมงลัก
อาหารดังกล่าวมานี้ ควรเป็นส่วนประกอบของอาหารแต่ละมื้อ
และรับประทานพอประมาณ
- ลำดับของอาหารที่ควรรับประทาน เผ็ดร้อน เค็ม หวาน เปรี้ยว
ควรหลีกเลี่ยง อย่างปรุงให้รสใดรสหนึ่งจัดเกินไปจะเป็นโทษ
อาหารบำรุงธาตุได้ดี
น้ำกระชายหมัก น้ำขิง น้ำตะไคร้ น้ำลูกเดือย หรือเม็ดแมงลักกับน้ำผึ้ง
หรืองาดำคั่วแล้วบดนำมาผสมน้ำผึ้งและน้ำอุ่น
ดื่มวันละแก้วตอนเช้าก่อนออกกำลังกาย จะช่วยรักษาสมดุลของธาตุภายในได้ดี
ดูอย่างไรว่าตนมีธาตุลม
- ดูจากปีเกิด ลักษณะรูปร่าง อารมณ์ และนิสัย
- คนเกิดปีเถาะ (กระต่าย) ปีมะเมีย (ม้า) ปีมะแม (แพะ) ปีวอก (ลิง)
ถ้าจะดูตามวันเกิด ส่วนใหญ่จะเป็นคนเกิดวันศุกร์ และวันพุธ
- ลักษณะรูปร่าง กล่าวแล้วแต่ต้น
- อารมณ์ และอุปนิสัย กล่าวแล้วแต่ต้น
ธาตุลมเป็นมิตรกับธาตุใด
ผู้ที่มีธาตุลมอยู่มาก จะคบหาสมาคมกับผู้อื่นก็ดูจะฉาบฉวยผิวเผิน
อาจจะเป็นเพราะเป็นราชาธาตุก็ได้ เลยมิชอบเอาใจใคร
สีที่เหมาะสมกับธาตุลม
สีขาว สีฟ้า สีเหลืองอ่อน สีครีม สีสว่างๆ เหมาะสำหรับธาตุลม
สรรพคุณของ อาหารประจำธาตุลม
กระชาย
- สรรพคุณ แก้โรคปากเปื่อย ปากเป็นแผล แก้โรคลมจุกเสียด
รักษาโรคบิด ขับระดูขาว ขับปัสสาวะ
เหง้ากระชายนำมาตำครั้นน้ำมาทารักษากลากเกลื้อน และงูสวัด
กะเพรา
- สรรพคุณ ขับน้ำดี ช่วยย่อยไขมัน ขับลมในกระเพาะ
แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ จุกเสียด
ช่วยบำรุงกระดูกทำให้เจริญอาหาร และดับกลิ่นคาว
ขมิ้น
- สรรพคุณ ช่วยในการย่อยอาหาร แก้โรคท้องอืด จุดเสียด
รักษาแผลในกระเพาะอาหารได้ แต่ต้องกินแต่พอดี
นำขมิ้นมาฝนเอาน้ำทารักษาโรคผิวหนัง
และช่วยลดอาการเสียน้ำของผิวหนังได้
ทำให้ผิวหนังชุ่มชื้น ใช้รักษาแผล น้ำกัดเท้า เล็บขบได้ดี
ขมิ้นอ้อย
- สรรพคุณ รักษาโรคท้องร่วง อาเจียน แก้ไข้ สมานแผล
ขิง
- สรรพคุณ ช่วยป้องกันอาหารเมารถเมาเรือได้ดี
ด้วยการดื่มน้ำขิงแก่ก่อนจะขึ้นรถ ลงเรือ ช่วยขับลมในลำไส้
แก้ไอ ขับเสมหะ และขับเหงื่อ แก้อาการเกร็งท้อง ท้องเป็นตะคริว
ตะไคร้
- สรรพคุณ เป็นยาขับลม ขับปัสสาวะ แก้ท้องอืดแน่นเฟ้อ
แตงโม
- สรรพคุณ ช่วยดับพิษร้อนภายใน ลดอาการทุรนทุรายจากพิษไข้
ขับปัสสาวะ น้ำแตงโมช่วยล้างไต ล้างลำไส้และกระเพาะอาหาร
เปลือกแตงโมแกงส้มช่วยรักษาอาการไข้หวัด
ถั่วฝักยาว
- สรรพคุณ เป็นยาบำรุงไต และม้าม แก้ร้อนใน และแก้อาการตกขาว
ใบโหระพา
- สรรพคุณ เป็นยาแก้ท้องอืด ขับลมในลำไส้ ป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด
มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง ช่วยให้เจริญอาหาร เมล็ดเป็นยาระบาย
ผักชีฝรั่ง
- สรรพคุณ สร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงสายตา
รักษาสมดุลของธาตุภายในกาย ดับกลิ่นคาว
พริก
- สรรพคุณ แก้อาการผอมแห้งแรงน้อย ซูบซีดพุงโรก้นปอด
ขับเสมหะ ขับเหงื่อ ช่วยระบบย่อยอาหาร และทำให้ดูดซึมอาหารได้ดี
ละลายลิ่มเลือด ป้องกันมะเร็ง
พุทรา
- สรรพคุณ เป็นยาแก้อาการไอ แก้อาการร้อนใน กระหายน้ำ
เมล็ดใช้เผาไฟแล้วบดหรือตำ นำมาไว้ใกล้ๆ เด็กอ่อน
ช่วยรักษาอาการเป็นหวัดคัดจมูก หรือไม่ก็ใช้ผงที่บดละเอียด
แล้วมาผสมน้ำเล็กน้อย แล้วกวาดลิ้นเด็ก แก้อาการเป็นซางลิ้นขาว
แมงลัก
- สรรพคุณ แก้ไข้หวัด แก้หลอดลมอักเสบ แก้ท้องร่วง
ใบนำมาตำเอาน้ำมาทาแก้โรคผิวหนัง
เมล็ดนำมาแช่น้ำผสมน้ำผึ้งทานเป็นยาระบาย
แก้โรคกระเพาะ ลดความอ้วน
เพราะมีสรรพคุณในการดูดซึมน้ำตาลในเส้นเลือด ทำให้ขับถ่ายสะดวก
รากบัว
- สรรพคุณ เป็นยาคุมธาตุภายใน ช่วยรักษาอาการท้องร่วง
เป็นยาแก้ร้อนในกระหายน้ำ เหง้า และเมล็ด เป็นยาบำรุงกำลัง
บำรุงน้ำดี แก้อาการน้ำเหลืองเสีย
ดีบัวที่อยู่ใจกลางเมล็ดมีรสขมเป็นขาขยายหลอดเลือดหัวใจ
สะระแหน่
- สรรพคุณ ช่วยขับลมในลำไส้และกระเพาะ
แก้อาการปวดท้อง ท้องอืด ขยี้ทาขมับ
แก้อาการปวดหัว ดมแก้ลม ทาแก้อาการช้ำ

.....................


อาหารปรับธาตุ สำหรับผู้ที่มี ธาตุไฟ ม.ค ก.พ มี.ค
ลักษณะผู้ที่มีธาตุไฟมาก
จะมีรูปร่างผอมคล้ำ ผิวหนักตกกระ ไฝฝ้าจะขึ้นกระจายไปทั่ว
ผมและขนจะแห้งแตกปลายและจะเบาบาง
ตามลำตัวจะมีไอร้อนมากกว่าธาตุอื่นๆ สีหน้า และแววตาจะหมองคล้ำ
เล็บและฟันจะไม่เป็นเงางาม กล้ามเนื้อจะไม่ค่อยแข็งแรง
เซลล์ในกระดูกจะเกาะตัวกันอย่างหลวมๆ กลิ่นตัวรุนแรง
พฤติกรรม
เป็นคนซื่อตรง พูดจาโผงผางตรงไปตรงมา
ส่วนใหญ่จะเสียเพราะคำพูด ทำอะไรชอบทำให้ดูใหญ่โต
เรียกว่า ฉิบหายไม่ว่า ต้องการชื่อเสียง เป็นเจ้าบุญทุ่มพอสมควร
แต่มิค่อยมีคนชอบ ชอบอวดดีทั้งที่ไม่มีดีให้อวด
อารมณ์และนิสัย
เป็นคนอารมณ์รุนแรง โกรธรุนแรง หงุดหงิดง่าย
เวลาทำอะไรมิค่อยคิด มีนิสัยชอบผูกพยาบาท
ชอบคิดอยู่เสมอว่าเราเคยมีบุญคุณกับคนอื่น คนอื่นก็ต้องตอบแทนเรา
โรคที่มักจะเป็น
ท้องผูก ริดสีดวง ความดันสูง เส้นโลหิตเปราะบาง ปวดศีรษะ
โรคไต โรคกระษัย ปัสสาวะกะปริบกะปรอย วิตกกังวล เบื่ออาหาร
โรคหัวใจ โรคไทรอยด์ ร้อนใน โรคกระเพาะ กระดูกเสื่อมเร็วก่อนวัย
หงุดหงิดง่าย ใจสั่น แผลพุพอง น้ำเหลืองเสีย
เลือดเป็นพิษ โรคเลือดลักปิดลักเปิด
อาหารปรับธาตุ ที่ควรรับประทาน
- อาหารที่เหมาะสำหรับธาตุไฟ มีรสขม รสจืด รสเย็น
- รสขม ได้แก่ ใบปอ ใบยอ ผักขมจีนและไทย มะระขี้นก มะระจีน
- รสจืด ได้แก่ กระเจี๊ยบขาว ดอกกะหล่ำปลี ดอกสลิด ดอกโสน
ถั่วพู ถั่วฝักยาว บวบงู บวบอ่อน ใบทองหลาง ผักกาดขาว ผักกระเฉด
ผักกูลป่า ผักชีฝรั่ง ผักบุ้งจีน มะเขือยาว ยอดผักปลัง สายบัว
- รสเย็น ได้แก่ เก๊กฮวย เฉาก๊วย แตงกวา แตงไทย แตงล้าน แตงโม
น้ำใบเตย ใบตำลึง ใบบัวบก ฟักเขียว มะตูม มะละกอ
รากบัวหลวง ลูกตำลึงอ่อน สายบัว หัวไชเท้า
อาหารที่บำรุงธาตุไฟได้ดี คือ มะระจีนตุ๋น กับเห็ดหอม น้ำใบบัวบก
ดูอย่างไรว่าตนมีธาตุไฟ
- ดูจากปีเกิด ลักษณะรูปร่าง อารมณ์ และนิสัย
- คนเกิดปีขาล (เสือ) ปีมะโรง (งูใหญ่) ปีมะเส็ง (งูเล็ก) ปีระกา (ไก่)
ถ้าจะดูตามวันเกิด ผู้ที่เกิดในวันอาทิตย์ วันอังคาร วันเสาร์ ส่วนใหญ่จะเป็นธาตุไฟ
- ลักษณะตามรูปร่าง กล่าวแล้วแต่ต้น
- อารมณ์ และอุปนิสัย กล่าวแล้วแต่ต้น
ธาตุไฟเป็นมิตรกับธาตุใด
- ผู้ที่มีธาตุไฟอยู่มาก มักจะชมชอบคบหาสมาคมกับคนธาตุลม
และธาตุดิน แต่จะเป็นศัตรูกับธาตุน้ำ
สีที่เหมาะกับธาตุไฟ
สีแดง สีดำ สีชมพู สีคราม สีฟ้าแก่
สรรพคุณของอาหารประจำธาตุไฟ
กระเจี๊ยบมอญ
- สรรพคุณ เป็นยาบำรุงสมอง ลดความดันโลหิต รักษาโรคกระเพาะ
ช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อที่เสียหาย เป็นยาระบาย
เฉาก๊วย
- สรรพคุณ แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้อาการปากเปื่อย
ดอกสลิด
- สรรพคุณ เป็นยาบำรุงหัวใจ แก้ร้อนใน
ลดอาการปอดบวม ทำให้เจริญอาหาร
ตำลึง
- สรรพคุณ เป็นยาดับพิษร้อนภายในร่างกาย ลดอาการไข้
เป็นยาระบายอ่อนๆ ผลดิบนำมาปรุงเป็นอาหารช่วยลดอาการเบาหวาน
ใบสดๆ นำมาขยี้ให้ละเอียดเอาน้ำมาทาแก้อาการคัน
ช่วยถอนพิษจากหนอนกัด และพิษจากหมามุ่ย
ใช้หยอดตาแก้อาการตาแดง ตาเจ็บ
เตย
- สรรพคุณ บำรุงหัวใจ ทำให้หัวใจชุ่มชื้น
แก้กระษัย ขับปัสสาวะ แก้เบาหวาน
บวบ
- สรรพคุณ ทำให้ชุ่มคอ ช่วยขับปัสสาวะ ขับน้ำนม ทำให้ถ่ายสะดวก
ปอ
- สรรพคุณ บำรุงธาตุ ทำให้เจริญอาหาร
ช่วยขับลม เป็นยาระบาย เป็นยากระตุ้นหัวใจ
ผักกาดขาว
- สรรพคุณ ช่วยย่อยอาหาร แก้ไข้ ขับเสมหะ แก้พิษสุราเรื้อรัง
แก้อาการท้องผูก ช่วยเร่งการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
ผักปลัง
- สรรพคุณ รักษาอาการท้องผูก แก้อาการไส้ติ่งอักเสบ
เป็นยาระบาย ขับปัสสาวะ แก้บิด
ผักบุ้ง
- สรรพคุณ บำรุงกระดูก และฟัน บำรุงเลือด ลดไข้
แก้เบาหวาน แก้ร้อนใน บำรุงสายตา
ผักโขมหรือผักขม
- สรรพคุณ บำรุงโลหิต ช่วยลดเชื้อมะเร็ง ทำให้สายตาดี
แก้โรคท้องผูก แก้อาการตกขาวในสตรี
สตรีมีครรภ์ หรือกำลังมีประจำเดือนห้ามทาน
ฟักเขียว
- สรรพคุณ เป็นยาเย็นดับพิษร้อนภายใน แก้ร้อนใน กระหายน้ำ
ขับเสมหะ แก้ไอ ลดอาการบวมน้ำ แก้อาการหลอดลมอักเสบ
บรรเทาอาการริดสีดวงทวาร แก้หนองใน
มะเขือยาว
- สรรพคุณ แก้อาการตกเลือดในกระเพาะ ลำไส้ แก้อาการปวดเมื่อย
มะระขี้นก
- สรรพคุณ บำรุงน้ำดี เป็นยาเจริญอาหาร ขับพยาธิ
แก้โรคตับอักเสบ แก้โรคเบาหวาน
มะตูม
- สรรพคุณ บำรุงธาตุ เจริญอาหาร แก้บิด แก้ร้อนใน
ขับลม แก้โรคลำไส้
ยอ
- สรรพคุณ แก้อาการไข้วิงเวียนคลื่นเหียนอาเจียน แก้กระษัย
แก้อาการปวดตามข้อ แก้อาการเป็นวัณโรค
หัวไชเท้า
- สรรพคุณ ล้างพิษภายใน เป็นยาเย็นดับพิษร้อน
บำรุงไต ขับปัสสาวะ ละลายนิ่ว
สายบัว
- สรรพคุณ ลดอาการเกร็งของลำไส้ และกระเพาะ
ลดความเครียดทางสมอง บรรเทาอาการท้องผูก ขับปัสสาวะ ดับพิษร้อนในกาย
บทสรุป
ธาตุทั้ง ๔ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ มีอยู่ในตัวของทุกคน
ซึ่งก็ขึ้นอยู่ว่าคนนั้น เกิดปีใด วันใด ธาตุหนึ่งธาตุใดก็จะเป็นใหญ่ ในวัน และปีนั้นๆ
ธาตุทั้ง ๔ ทางสุขภาพ และอนามัย จะไม่ค่อยตรงกับ
หลักการดูธาตุของตำราดูชะตาราศีนัก
ฉะนั้นอย่าถือเอาตำราเป็นประมาณ ให้สังเกตดูตัวเองว่า
มีลักษณะพฤติกรรม อารมณ์นิสัย และโรคตรงแก่ตนหรือไม่
แม้ผู้ที่ยังไม่เป็นโรคใดๆ ก็ควรเลือกบริโภคอาหารที่เหมาะสมตรงต่อธาตุของตน
อาหารประจำธาตุที่ยกมาให้ เป็นแต่เพียงตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ
เราอาจจะสรรหาอาหารที่เหมาะแก่ธาตุของตนได้มากกว่าที่ยกมา
แต่อยากจะเตือนไว้ว่าเราจะบริโภคอาหารอะไร
มีหลักให้พิจารณาอยู่ว่ามันมีประโยชน์ หรือเป็นโทษต่อธาตุของเราหรือไม่
การบริโภคอาหารมิอาจจะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงได้ทั้งหมด
เราต้องรู้จักบริหารร่างกาย เช่นออกกำลังกายสม่ำเสมอทุกวัน
ขณะเดียวกันก็ต้องรู้จักบริหารใจ และอารมณ์ให้ผ่อนคลาย
โปร่งเบาสบาย และสงบด้วย
จึงจะถือว่าเป็นผู้มีสุขภาพจิตดี สุขภาพกายแข็งแรง ชีวิตเป็นสุข
อาหารที่ควรระวัง และบริโภคให้น้อยที่สุด
ไขมัน
เนื้อสัตว์ที่ย่อยยาก เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่
น้ำตาลทรายขาว
กาแฟ และน้ำอัดลม
อาหารที่ใส่สีผสม และผงชูรส
เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
อาหารที่รับประทานได้ไม่จำกัด
ปลาน้ำจืด และปลาน้ำเค็ม
ข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้อง ข้าวเหนียวดำ ลูกเดือย
และพืชผักต่างๆ
ส่วนเรื่องธาตุใดเป็นมิตรแก่ธาตุใด

ยกขึ้นมากล่าวไว้ มิใช่หมายให้ใช้ดูกับคนอย่างเดียว
ให้เอาไว้ใช้ดูอากาศ สถานที่ อาหารด้วย
ตัวอย่างเช่น คนมีธาตุไฟมิถูกกับอากาศร้อน และก็มิถูกกับน้ำ แต่ถูกกับลม
เพราะถ้าร้อนแล้วลงน้ำเลยอาจจะทำให้ธาตุไฟในธาตุกายแตกซ่านเสียก็เป็นได้
จึงจำเป็นต้องอยู่ในสถานที่ที่มีลมโกรกเย็นสบาย
แล้วก็หาอาหารหรือเครื่องดื่ม ระบายความร้อนภายในเพื่อให้ผ่อนคลาย
สีที่ยกมาว่าสีใดเหมาะสำหรับธาตุใด
ก็เป็นเครื่องทำให้เราดูดีในสายตาผู้อื่น
และบางครั้งสีที่ใช้ เสื้อผ้าที่ใส่ก็เป็นเครื่องช่วยรักษาธาตุภายในกายได้เหมือนกัน
อาหาร และเครื่องดื่มที่รักษาสมดุลของธาตุ ทั้ง ๔
น้ำผักผลไม้รวม มีส้ม ขึ้นฉ่าย กระชาย งาดำ
น้ำผึ้งผสมเกลือเล็กน้อย นำมาปั่นรวมกัน
อัตราส่วน
ส้ม 3 ส่วน
ขึ้นฉ่าย 2 ส่วน
กระชาย 1 ส่วน
งาดำ 1 ส่วน
น้ำผึ้ง 1 ส่วน
เกลือ เล็กน้อย ที่มา...ผู้จัดการออนไลน์
nooky โพสต์เมื่อ 21-6-2012 16:48 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากครับ
 เจ้าของ| AOM0326 โพสต์เมื่อ 21-6-2012 17:43 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ถ้าช่วงไหนเราไม่สบายก้อลองดูอาหารตามธาตุที่เราเกิดแล้วรัปประทานตามธาตุจะทำให้ร่างกายเกิดสมดุลจะได้หายป่วยเร็วขึ้น
 เจ้าของ| AOM0326 โพสต์เมื่อ 21-6-2012 20:16 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
รูปถ่าย0710.jpg รูปถ่าย0705.jpg มีว่านจั๊กจั่นมาให้ชมค่ะ พอดีว่าได้มีโอกาศเข้าไปร่วมงานหมอพื้นบ้านกับเขาด้วยเลยเอามาให้พี่ๆชม รูปถ่าย0704.jpg รูปถ่าย0702.jpg
รูปถ่าย0708.jpg
 เจ้าของ| AOM0326 โพสต์เมื่อ 21-6-2012 20:18 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ว่านจั๊กจั่น
รูปถ่าย0704.jpg
 เจ้าของ| AOM0326 โพสต์เมื่อ 22-6-2012 21:18 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
 เจ้าของ| AOM0326 โพสต์เมื่อ 22-6-2012 21:19 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
pepe_love โพสต์เมื่อ 23-6-2012 13:55 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
เสือน่าเกรงขามมากครับ
 เจ้าของ| AOM0326 โพสต์เมื่อ 25-6-2012 07:23 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณค่ะ น้อมรับค่ะ
 เจ้าของ| AOM0326 โพสต์เมื่อ 28-6-2012 07:25 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ถ้าสิ่งที่นำมาลงมีประโยชน์ต่อพี่ๆน้องก้อลองนำกลับไปใช้ดูนะค่ะ
เผื่อว่าจะช่วยอารายได้บ้างถ้าใครมีอาการปวดอย่างอื่นก้อเข้ามาสอบถามได้นะค่ะ เดี๋ยวจะหาวิธีรักษามาให้คค่ะ
คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับโพสต์นี้ได้ เข้าสู่ระบบ | สมัครเป็นชาวเมืองเสน่ห์กาหลง

รายละเอียดเครดิต

ปิด

เว็บมาสเตอร์แนะนำย้อนกลับ /1 ถัดไป

รายชื่อผู้กระทำผิด|Archiver|Mobile|เมืองเสน่ห์กาหลง (Khalong Charming Town)

GMT+7, 17-5-2024 18:21 , Processed in 0.200852 second(s), 7 queries , File On.

Powered by Discuz! X3.4

© 2001-2017 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้