***ระหว่างการสักยันต์ กับการพกเครื่องราง ของขลังด้านเสน่ห์ ท่านคิดว่าอย่างไหนแรง

สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เมืองเสน่ห์กาหลง นะครับ.....ผมน้องใหม่ (กระทู้แรกเลย) ฝากตัวด้วยนะครับ

ขอสอบถามความคิดเห็นกันหน่อยนะครับ....ใส่กันเต็มทีเลยนะครับ


ปล.กระทู้นี้เกิดจากการสนทนากับท่านเจ้าเมืองครับ คุยกันไป คุยกันมา ได้ไอเดีย เลยเอามาตั้งกันเลยครับ

สวัสดี ท่าน momotaro ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่..สู่เมืองเสน่ห์กาหลง... เว็บบอร์ดสุภาพชนของผู้ที่ชื่นชอบเครื่องรางมหาเสน่ห์ มหาเมตตา มหานิยม และสักยันต์แห่งสยามประเทศ...

และนี่เป็นคำถามที่ยอดเยี่ยมแห่งปีก็ว่าได้... เสมือนใกล้เกลือกินด่าง ใครเคยคิดบ้างไหม?

ระหว่างสักยันต์ กับพกเครื่องรางนั้น อย่างไหนแรงกว่ากัน?

ดิฉัน...ในฐานะชื่นชอบทั้งสองอย่าง อิอิ สักยันต์ก็เต็มหลัง เต็มแขน เต็มกระหม่อม เต็มหน้า ขา...เครื่อราง ฝังตะกรุด แหล่งที่มานั้นยาวนาน.........นนนน ช่างมันเถอะอย่าไปสนใจ!

ขอประเดิมเอาฤกษ์เบิกชัยเช้านี้เลยก็แล้วกัน....

การสักยันต์คือการลงอักขระ พุทธาคม ลงบนผิวหนังตรงๆ เน้นๆ... ส่วนเครื่องราง พระเครื่องนั้น ก็คือการลงอักขระ พุทธาคม ลงบนวัตถุต่างๆ อีกครั้ง..แล้วอาราธนาพกพาติดตัว.. เพือส่งอิทธิคุณต่อผู้พกพา ทั้งนี้มักต้องมีความศรัทธาเป็นตัวตั้งเสมอค่ะ

การสักยันต์ที่มากกว่าพระเครื่องคือ สัมพันธภาพระหว่างศิษย์-อาจารย์.. เพราะระหว่างที่เราไปขอเมตตาจากท่าน เราจะได้สนทนาพูดคุย ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบทั่วไปเสมอ...ไปอีกคุยอีก พูดกันมากขึ้น รู้จักกันมากขึ้น ก็ได้ซึมซับคำสอนกันมากขึ้น ไหนจะได้ความเจ็บปวดกลับไปให้คิดถึงอีก...เป็นอย่างนี้ร่ำไป.. ส่วนใหญ่แล้วความศรัทธานั้นต้องมากพอ เต็มขั้นเลยก็ว่าได้...จึงทำให้โปรเจคส์ที่จะทำให้สักยันต์เต็มตัวนั้น..ลุล่วงไปจนกระทั่งสำเร็จสมบูรณ์ในที่สุด

พระเครื่อง เครื่องรางที่มากกว่าสักยันต์ คือ ชนวนมวลสาร เพื่อนำเป็นสื่อให้เหล่าครูบาอาจารย์เสกประจุพลังพุทธาคมลงไปค่ะ.. ซึ่งตรงนี้เป็นเสน่ห์ที่น่าหลงใหลสำหรับนักนิยมพระเครื่องบ้านเรา! ความศรัทธาต่อพระเครื่อง เครื่องรางนั้น บางคนไม่เคยเห็น หรือพบหน้าอาจารย์ด้วยซ้ำ... แต่อาจจะใช้การบอกต่อ บอกเล่าจากตำนานผู้เฒ่าผู้แก่ ส่วนเหล่าเกจิที่มรณภาพแล้วก็ต้องอาศัยศิษย์ที่ทันในรุ่นคุยให้ฟังถึงจะมัน.. รวมถึงการเสพสื่อโฆษณาต่างๆ สำหรับเครื่องรางยุคใหม่ๆ จะจริง จะเท็จ ก็ต้องว่ากันไปตามเนื้อหา.. และความขลังของต้นเรื่องค่ะ ส่วนสติ และปัญญาในการพิจารณาคำโฆษณาอวดอ้างนั้นสำคัญมาก

โดยส่วนตัวแล้ว เลือกไม่ได้มาตลอด เพราะชอบทั้งสองอย่าง อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน...

วันหนึ่ง เล่นน้ำด้วยความสบายใจเพราะไม่ได้คล้องพระเครื่องที่คอ แต่อุ่นใจเพราะเราคิดว่า ยันต์ที่อยู่บนตัวเรานั้นก็อภิมหาสุดยอดแล้วไงค่ะ.. และนั่นคือที่มาตามความคิดดิฉันว่า..'สักยันต์น่าจะแรงกว่า...'

แต่เอ๊ะไหง? คนสักยันต์ยังต้องคล้องพระเครื่อง เครื่อรางหว่า... {:2_38:}

งงจิอ๋ายเลย...จาก..เจ้าเมืองจ่ะ... ไปแระ! ว่างๆ แวะมาแชตกันใหม่นะ.. โชกูบุสึ mono โตการิ จัง!

ชอบอย่างไหนก็ว่าอย่างนั้น ไม่ต้องหาเหตุ...ผล กลใดเล่าขาน (ไม่สามารถบอกเหตุผล
เอนเอียงไปทางไหน จึงต้องอยู่กับมัชฌิมา...) งง กับตัวเองเหมือนกัน

ที่เจ้าว่ามาก็โอเคนะ....เพราะคนต่อไปไม่คิดแล้ว เจ้าเมืองคลุมหมดแล้ว 555555

ชอบอย่างไหนก็ว่าอย่างนั้น ไม่ต้องหาเหตุ...ผล กลใดเล่ ...
ต้นฉบับโพสโดย kaineverdie เมื่อ 27-4-2010 09:53

                               
สมัครสมาชิก / เข้าสู่ระบบ เพื่อดูภาพขนาดใหญ่

    เว่อหน่ะท่านกุ๊กไก่ไม่เคยตาย.. เดี่ยวก็ต้องมีมุมมองใหม่ๆ มาอีก.... มี๋......

การมีรอยยันต์ติดตัวก็เปรียบเสมือนคุณมีพระเครื่องติดตัว
เพียงแต่การปลุกเสกเลขยันต์ที่ทำการสักให้ลูกศิษย์นั้น
มีคุณค่าทางจิตใจมากกว่าพระเครื่อง
ที่ลูกศิษย์ได้ใกล้ชิดอาจารย์ผู้สัก..
ได้รับคำสั่งสอนต่างๆ และได้รับการปลุกเสกเป็นคนๆไป
ไม่เหมือนการปลุกเสกพระเครื่องที่รวมๆกันเป็นร้อยๆ...
และค่อยแจกทีเดียวคุณค่าจึงต่างกันตรงนี้..
ฉะนั้น  คุณจงภูมิใจเถิดว่าถ้าได้สักยันต์กับอาจารย์ท่านใดแล้ว
อาจารย์ผู้นั้น  จะมีความตั้งใจอย่างเต็มที่กับศิษย์ทุกคน
ได้ผ่านเข็มท่านไป....
ว่าจะต้องได้ของดีกลับไป แน่นอน....


(แต่ถ้า เสริมกัน ก็จะดีมิใช่น้อย...สักแล้ว ..มีเครื่องรางด้วย...สุดยอดดดไปเลย)..

สรุปว่านะครับ....อิอิอิ....สุดยอดทั้งสองเลยครับท่าน...ผมเอาทั้งสองเลยครับ...ดีๆๆทั้งนั้นเลย..ชอบมากอ่ะครับ....และถ้าเกิดไม่ได้พระเครื่องห่อยคอ..ก็มีติดตัวอีกสบายใจดีครับ...พี่น้องครับ....

ในสมัยโบราณ การสักยันต์มีมาก่อนที่จะสร้างพระเครื่อง เนื่องจาก นักรบสมัยก่อน ไม่นิยมการแขวนพระไว้กับตัว เพราะถือว่าเป็นของสูง จึงเกิดการสักยันต์ลงที่ร่างกายขึ้น เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ เวลาที่ออกรบ และเป็นการแสดงถึง อำนาจ บารมี ของยันต์ ที่สักลงไปบนตัว
        ผู้ที่จะสักยันต์จะต้องเตรียมบายศรี ของเครื่องไหว้ต่างๆ เพื่อไปขอเป็นลูกศิษย์กับครูบาอาจารย์ที่จะสักให้ โดยต้องมีการดูฤกษ์ ในการสักยันต์ เช่น เพชฌฆาตฤกษ์ หรือ เสาร์ห้า ทำให้คงกระพันตลอดเวลา ตีไม่แตก แทงฟันไม่เข้า ไฟไม่ไหม้ ดังเช่น คงยิ่งคง สารพัดซิคง คงทั้งนั่ง คงทั้งนอน คงทั้งยืน คงทั้งตื่น คงทั้งหลับ ครูระงับทั้งแข้ว ครูระงับทั้งงา ซึ่งขึ้นอยู่กับการปฏิบัติ และระวังข้อห้ามการสักยันต์ ที่ท่านอาจารย์สั่งไว้ ปฏิบัติตนอยู่ในศีลธรรมสม่ำเสมอ
        ส่วนพระเครื่อง เครื่องราง ของขลัง เรามักจะสนใจแต่พุทธลักษณะ ความสวยงาม มวลสาร อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ เกจิที่ทำการปลุกเสก ใส่พลังจิตลงไป และ เสกคาถาลงไปในพระเครื่องนั้นๆ เพื่อให้สักสิทธิ์ เกิดความขลัง ในสมัยนี้ มักจะกลายเป็นพุทธพาณิชย์ เป็นวัตถุที่ใช้ในการระดมทุนเข้าวัด หรือเป็นสินค้าในท้องตลาด แต่ก็ยังมีประสบการณ์ในเรื่องคงกระพัน แคล้วคลาด เมตตามหาเสน่ห์ ให้ฟังอยู่เรื่อยๆ พลังที่อยู่กับพระเครื่อง มีโอกาสที่จะลดลง ขึ้นอยู่กับกาลเวลา การสวดมนต์ภาวนา การอาราธนา ของผู้ที่แขวนพระด้วย ไม่ใช่แค่หยิบมาแล้วคล้องคอเฉยๆ
        สรุป การสักยันต์ เจ็บตัว เบื่อแล้ว เปลี่ยนไม่ได้ ติดตัวไปตลอดชีวิต ยกเว้นไปหาหมอเอาออกซึ่งเสียเงินแพงมาก แขวนพระ มีหลายองค์ อยากเปลี่ยนเมื่อไรก็เปลี่ยนได้ แล้วแต่สถานการณ์ ดังนั้น เลือกสิ่งที่ดีให้กับชีวิต และศรัทธาในสิ่งนั้น ทำแล้วมีความสุข ไม่เดือนร้อนใคร แค่นี้ก็สุขใจแล้วครับ

ไอ้กระผมว่านะครับ  เอ้อใจสิครับ ใจ มันต้องแรงที่ใจครับ ของ(ดีดี)มันถึงขึ้น

อ้าว ไม่เห็นพี่ Cho 5555

สักยันต์ แรงกว่าแน่นอน !!
ถ้าวัดจากตัวข้าพเจ้าเอง
คงจะเห็นๆกันอยู่กับระดับความแรง เอิ๊กๆ
เพราะโดยส่วนตัวไม่ได้พกเครื่องราง ของขลังด้านเสน่ห์ไหนๆ
แต่ก็แรงไม่แพ้(หรืออาจจะแรงกว่า)
คนที่ทั้งสักยันต์และพกเครื่องรางของขลังเยอะแยะ ^^"

ผมว่าของขลังดีกว่าครับ ส่วนตัวพกขุนแผน ตอนจะไปเลี่ยมเดินไปตลาดแถวบ้าน สาวๆ มอง

คิดว่าขุนแผนเราดี ตอนแรกยิ้มเลย  พอดีเดินไปถึงลุงที่เลี่ยมบอก ไอหนุ่มเอ็งใส่เสื้อสลับตะเข็บกัน เฮ้ออ . สาวๆ มองนักแล.

กะลังเตรียมแผ่นหลัง และเตรียมใจเตรียมกาย สำหรับครั้งแรกของชีวิต แต่ยังไม่รู้จะเริ่มวัน เดือน ปีใด คริ คริ..

ผมเข้าใจเอาเองว่า เรากำลังคุยกันเรื่องของผล ไม่ใช่เหตุ
ผมว่าผลจะเกิดได้ดีน้อย ดีมาก หรือไม่เกิดผลเลยก็ขึ้นอยู่กับศรัทธา กำลังใจที่เต็มเปี่ยม
กฏข้อบังคับของครูบาอาจารย์ ถ้าขาด3อย่างหลักๆนี้แล้ว ต่อให้ทั้งแขวน หรือทั้งสักก็ไม่เกิดผลอะไร
แต่ถ้าถือได้ตามครู รับรองเลยว่าทั้งร้อน และก็ทั้งแรง ผมโดนมากับตัวเอง
ในชีวิตผมไม่เคยเดินเข้าไปจีบผู้หญิงสักครั้ง แต่มีผู้หญิงเข้ามาในชีวิตมากมาย
ผมเคยเดินโดนผู้หญิงทั้งกอด ทั้งจูบ 2ครั้งในที่สาธารณะ ผมเองก็ งง
อยู่ก็เข้ามาจัดการผมซะงั้น ทั้งๆที่ผมก็ไม่รู้จักเธอเลย
ต้องออกตัวอีกนิดครับว่า ผมไม่มีเจตนาเข้ามาคุยโม้ว่าตนเองมีเสน่ห์มากมาย
เพียงแต่มายืนยันว่า ถ้าใครทำได้3ประการข้างต้นแล้ว คุณจะกลายเป็นเสือติดปีกไปโดยแบบไม่รู้ตัวเลย
ยังไงก็อย่าไปผิดศีลผิดธรรมนะครับ มันบาป

จริงแท้และแน่นอน

แต่ยังไงก็คิดว่าสักยันต์ดีกว่าอ่า

เพราะมันติดตัวเราไปตลอด

ถอดออกก็ไม่ได้

อิอิ

ผมว่าสักยันต์แรงกว่าเยอะครับ  สัมผัสจากตัวเองเลย  พระเครื่องเราสามารถใส่หรือถอดออกได้  แต่การสักยัต์ต้องเกิดจากความศรัทธา+ความกล้าสุดๆ  เพราะลายสักยันต์ของอาจารย์ที่สักให้เราจะติดตัวเราตลอดไปจนตายครับ  ซึ่งผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบการสักยันต์มาก และเคยประสบเหตุการณ์มาแล้วหลายครั้ง