|
วันนี้มาเจอแบบคนสะสมพระพ่อค้าบ้างค่ะ ห้อยไว้รอบรถ ลูกค้าเฮอุดหนุน ซดไป-ส่องไป!
พ่อค้ารถเร่กาแฟโบราณ คลั่งพระเครื่องนำมาแขวนไว้รอบรถกาแฟกว่า 600 องค์ ให้ลูกค้าซดไปส่องพระไปใครขอเช่าก็ไม่ให้เพราะเป็นของรักของหวง แถมมีกล้องส่องพระไว้บริการบรรดานักเลงพระ เผยทำเพราะใจรักไม่สนเป็นพระเก๊พระแท้ แต่ศรัทธาทุกองค์ เพราะช่วยให้ ค้าขายดี ชีวิตไม่ลำเค็ญ
พ่อค้ากาแฟโบราณรถเร่ไอเดียเจ๋ง สนองความต้องการ บรรดาลูกค้าที่เป็นนักเลงพระ ด้วยการนำพระเครื่องมาประดับรอบรถขายกาแฟ ให้ลูกค้าที่ชื่นชอบพระเครื่องซื้อไปซดไป ส่องพระไปรายนี้ เป็นที่เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 16 ก.พ. โดยขณะที่นายประสิทธิ์ นิเวศน์ทอง ผู้สื่อข่าว ไทยรัฐตระเวนหาข่าวที่ย่าน สน.วังทองหลาง ได้พบลูกค้า หลายคนยืนรุมล้อมซื้อกาแฟโบราณและส่องพระที่รถขาย กาแฟคันหนึ่ง ที่จอดขายอยู่หน้าปากซอยชุมชนพลับพลา 2 ภายในซอยรามคำแหง 21 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. จากการสอบถามทราบว่าชื่อนายฉวี สีดี อายุ 64 ปี หรือที่ลูกค้ากาแฟเรียกกันว่า "ลุงหวี" อยู่บ้านเลขที่ 287/29 หมู่บ้านพลับพลา ซอยรามคำแหง 21 แขวงและเขตดังกล่าว
ลุงหวีเปิดเผยถึงที่มาที่ไปของการนำพระเครื่องมาแขวนไว้ในรถขายกาแฟว่า ขายกาแฟอยู่ละแวกนี้เป็นเวลากว่า 12 ปีแล้ว ตอนแรกมีพระอยู่ไม่กี่องค์ ที่นำมาแขวนไว้เพราะใจชอบ โดยนำพระมาแขวนไว้ใต้หลังคารถเข็นที่ตนทำราวเหล็กห้อยไว้ พระทั้งหมดเป็นพระที่ได้ มาจากการไปเช่าเองจากแผงพระแถวบ้านบ้าง ลูกค้าบางคนที่มาซื้อกาแฟเห็นแล้วก็เอามาให้เช่าบ้าง ตอนแรกไม่ได้แขวนไว้แต่เอาเก็บไว้ที่บ้าน แต่เมื่อสะสมไปเรื่อยๆ จนเพิ่มขึ้นมาก เลยเอามาแขวนไว้ในรถเมื่อประมาณ 4 ปีที่ผ่านมา ตอนแรกแขวนแค่ 2 องค์ จนตอนนี้มีประมาณ 600 กว่าองค์ พระที่แขวนไว้ มีอาทิ พระขุนแผน บ้านกร่างทรงพล ที่ตนคิดว่าเป็นพระที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด หลวงพ่อโสธร พระสมเด็จวัดระฆัง หลวงพ่อคูณ หรือพระดังๆ ในประเทศก็นำมาแขวนไว้หมด เวลาว่างจากขายกาแฟตัวเองก็จะส่องดูบ้าง พระที่นำมาแขวนมีทั้งพระเก๊พระแท้ แต่ตนไม่สนใจว่าจะเก๊หรือแท้ เพราะทุกองค์ตนมีความเคารพศรัทธาหมด เคยมีคนที่มาซื้อกาแฟมาขอเช่าพระเป็นประจำ แต่ตนไม่ให้เช่า อนุญาตให้ส่องอย่างเดียว ซึ่งที่รถขายกาแฟจะมีกล้องส่องพระไว้ให้ด้วย ล่าสุดมีทหารยศร้อยเอกมาขอเช่าพระแต่ตนไม่ให้เช่า ตนหวงและรักพระทุกองค์ ไม่เฉพาะเจาะจงว่าองค์ไหน รักเท่ากันหมดทุกองค์
ลุงหวีเจ้าของไอเดียกาแฟพระเครื่องเปิดเผยด้วยว่า พระทั้งหมดที่แขวนไว้ไม่เคยโดนขโมย เพราะจะดูอย่างดีไม่ให้คลาดสายตา ลูกค้าที่ส่องพระก็จะหยิบไม่ได้ เพราะแขวนเอาไว้กับราว ใครจะดูองค์ไหนตนก็จะหยิบให้ดูเองแล้วนำเก็บไว้ที่เดิม จำได้หมดว่าองค์ไหนไว้ตรงไหน ถ้าหายไปจะรู้ทันที เพราะจะคอยดูและนับตลอดเวลา เวลาจอดรถไว้ที่ไหน ขนาดจอดที่บ้านยังล็อกประตูอย่างดี ป้องกันคนแอบปีนเข้ามาขโมย ขณะเดียวกันลูกค้าบางคนที่มาซื้อกาแฟก็ไม่สังเกต จะรู้ก็ต่อเมื่อมีลูกค้าที่ชอบส่องพระบอกเท่านั้น
ลุงหวีเผยอีกว่า สำหรับตนดูพระไม่เป็น ไม่มีความรู้เรื่องพระ แต่มีความศรัทธาเพราะพระทำให้จิตใจดีขึ้น ลูกค้ามาเห็นหลายคนก็ทึ่งบอกแปลกดี บางคนไม่ได้ อยู่แถวนี้ ก็ยังมาซื้อกาแฟเพื่อจะขอส่องพระ เช่าพระ เพราะรู้ว่าตนมีพระเยอะ ลูกค้าที่มาส่องพระมีทั้งผู้หญิงผู้ชาย สำหรับพระทั้งหมดประเมินค่าไม่ได้ แต่มีคุณค่าทางจิตใจมากกว่า หากปวดท้องไปเข้าห้องน้ำ ก็จะมีพรรคพวกพ่อค้าแม่ค้าแถวนั้นช่วยดูแลแทน จึงไม่มีใครกล้าขโมย ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครว่าเพี้ยนหรือสติไม่ดี แต่คิดว่าตนทำเพราะความชอบมากกว่า พระที่นำมาแขวนที่รถองค์แรกคือพระสมเด็จวัดระฆัง ที่ตนเช่ามา องค์ต่อมาคือหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ปัตตานี ส่วนพระที่ตนห้อยติดคอเป็นประจำ คือพระสมเด็จวัดระฆัง
เจ้าของรถกาแฟพระเครื่องเผยถึงชีวิตก่อนหน้าที่จะมาเป็นพ่อค้ากาแฟว่า ก่อนหน้าที่มาขายกาแฟ ก็ชงกาแฟไม่เป็น เพราะเดิมรับจ้างตัดหญ้าอยู่แถวรามคำแหง ต่อมาอยากเปลี่ยนอาชีพ เลยคิดขายกาแฟเพราะเห็นรายได้ดี แต่ละวันขายได้ประมาณ 1,500-2,000 บาท ขายตั้งแต่แก้วละ 8 บาท จนขณะนี้แก้วละ 12 บาท ช่วงที่ขายดีคือตอน 11 โมงถึงเที่ยง ลูกค้าจะแห่กันมาซื้อกาแฟกินและขอส่องพระ ตอนเริ่มขายใหม่ๆ ลงทุนหมดตัว เหลือเงินแค่ 2 บาท แต่ก็อดทนขายกาแฟเลี้ยงครอบครัว ซึ่งมีเมีย 1 คน ลูก 4 คน จนรอดมาได้ ตอนนี้ลูกทำงานหมดทุกคน เดิมเคยขายดีกว่านี้ แต่เดี๋ยวนี้เศรษฐกิจไม่ดียอดขายเลยลดลง แต่ก็พอเลี้ยงครอบครัวไปได้ เชื่อว่าบารมีพระเครื่องที่ตนเคารพศรัทธาช่วยให้ชีวิตไม่ลำเค็ญ นับจากวันที่ 16 ก.พ.จะให้เช่าพระบางส่วนไปจนถึงวันที่ 10 มี.ค. เพื่อนำเงินให้หลานไปช่วยทำบุญสร้างโบสถ์ที่วัดในถิ่นทุรกันดารที่จังหวัดหนึ่ง แต่จะปล่อยไม่เยอะ หลังจากนั้นจะไม่ให้เช่าอีก ส่วนเรื่องราคาค่าเช่าพระอยู่ที่ความพอใจของคนเช่า ที่อยากจะทำบุญ เพราะตนต้องการนำเงินไปทำบุญเท่านั้นไม่ได้คิดหวังกำไร
ขณะที่นางจารุณี สีดี อายุ 38 ปี ลูกสาวคนโตเผยว่า จะมาช่วยพ่อขายกาแฟสลับกัน โดยพ่อจะขายช่วงเช้าจนบ่าย แล้วกลับบ้านไปพัก ตอนขายกาแฟแทนพ่อ ถ้ามีคนมาขอส่องพระก็จะนำมาให้ส่อง เห็นพ่อเอาพระมาแขวนในรถก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเป็นความชอบความสุขของพ่อ ขนาดตนยังชอบซื้อหนังสือเหมือนกัน เวลาขายก็จะคอยดูแลพระแทนพ่อ เคยมีคนมาขอเช่าตอนพ่อไม่อยู่เหมือนกัน แต่ตนไม่ปล่อยเพราะเป็นของรักของพ่อ กาแฟของพ่อตนนั้น นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ก็เคยมากินกาแฟและขอถ่ายรูปกับรถกาแฟของพ่อด้วย เพราะเป็นแปลกดีที่มีพระเครื่องแขวนไว้เต็มคัน สำหรับลูกค้า ส่วนใหญ่เป็นพนักงานบริษัทเอกชน ตำรวจ สน.วังทองหลาง คนที่อื่นก็มีบ้าง
แวะนำข่าวแบบโลโซมาบ้าง เดี่ยวจะหาว่ามีแต่ไฮโซคนดัง 555 |
|