แก้ไขล่าสุด cho เมื่อ 26-2-2010 12:01
เจอสกู๊ปพิเศษของอาจารย์ทอง ตลาดพลู จากข่าวสดอีกฉบับ นำมาฝากพี่น้องให้ภาคภูมิใจว่า กระแสสักยันต์ไทย บูมไปสิงคโปร์จริงๆ ฮ่าฮ่า..สาวๆ จ๋า อย่าไปแคร์ ถึอคติ: ไม่สนกระแส ไม่แคร์สังคม ต้องสวย รวย และของแรงไว้ก่อนถึงจะเด็ดดวง! {:2_38:} สิงคโปร์จัดงาน "Singapore Tat 2 Show 2010" ครั้งที่ 2 งานนี้เรียกได้ว่าเป็นการรวมพลช่างสักชื่อดังจากทั่วโลกเข้าไว้ด้วยกันมากที่สุดงานหนึ่งของเอเชีย ไฮไลต์คือการแข่งขัน สักลวดลายที่มีผู้เข้าร่วม 360 ทีม จาก 35 ประเทศ ทีมที่ชนะปีนี้มาจากไต้หวัน ภายหลังงานจบลง เอเอฟพีรายงานสารคดีพิเศษนำเสนอมุมมองเรื่องการสักยันต์ที่มีต้นกำเนิดในไทย และกลายเป็นกระแสยอดนิยมในสิงคโปร์ การสักลวดลายบนร่างกายกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ทำให้ชาวตะวันตกลงทุนบินข้ามโลกมาตามหาอาจารย์สักมือฉมังฝั่งเอเชีย ไม่เพียงเพื่อครอบครองรอยสักที่ไม่ใช่เพื่อความสวยงาม ความเท่ หรือแฟชั่น แต่เพื่อสร้างพลังและศรัทธาให้เกิดขึ้นในตัวเอง ในช่วงเปลี่ยนเข้าสู่ตรุษจีนปีเสือ มีลูกค้าต่างชาติแห่กันมารับบริการสักลวดลายหรือที่เรียก ว่าสักยันต์อย่างคึกคัก ลายยอดนิยม ได้แก่ คาถา รูปสัตว์ และ เทพเจ้า ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้โชคดีมีเงินทอง สร้างความกล้าหาญและสร้างความมั่นใจในตนเองให้กับเจ้าของรอยสัก
เบน ลก ผู้บริหารบริษัทหนุ่มวัย 35 ปี กล่าวว่า ตนเป็นชาวพุทธ ข้อความที่สักบนหลังเป็นคาถาที่จะปกป้องคุ้มครองตน โดยตนเตรียมสักรอยที่ 2 เป็นรูปมังกรล้อมรอบรอยสักเดิม หวังว่ารอยสักจะนำความมั่งคั่งและความสุขมาให้
ด้าน วิลลี่ เฮง พนักงานบริษัทโฟกวงฮัง บริษัทที่ทำธุรกิจด้านการสักในสิงคโปร์ กล่าวว่า ประชาชนตอบรับการสักอย่างกว้างขวาง เพราะถือเป็นการสร้างกำลังใจรูปแบบหนึ่ง ลูกค้าบางคนสักเพื่อแฟชั่น แต่หลายคนเป็นนักธุรกิจ มาสักเพื่อให้พลังของรอยสักเพิ่มพูนโชคลาภในการทำงาน
ในบรรดาช่างสักจากเมืองไทย อาจารย์ทอง วัย 60 ปี ผู้มีลูกค้าจำนวนมาก บินไปร่วมงานสักยันต์ที่สิงคโปร์และต้องอยู่ต่อเพื่อสักยันต์ให้ลูกค้าที่ต่อคิวยาว กล่าวว่า สิงคโปร์กลายเป็นแหล่งสักยันต์ที่ดังมาก มีชาวต่างชาติบินตรงมาสักยันต์ที่นี่จำนวนมาก
บาดีร์ ฟีร์กรี นายธนาคารและนักมวยไทยสมัครเล่นจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นลูกค้าคนหนึ่งที่บินมาสิงคโปร์เพื่อให้อาจารย์ทองสักยันต์ที่หลังมือทั้ง 2 ข้าง
"ผมได้รอยสักที่ช่วยให้หมัดมีพลังและว่องไว และเป็นพื้นฐานทางจิตใจที่ช่วยในเรื่องการต่อสู้และการใช้ชีวิต" หนุ่มตะวันออกกลางกล่าว
ส่วน คริสโตเฟอร์ ตัน อายุ 28 ปี เจ้าของร้านรับสักยันต์สยามอิงก์ กล่าวว่า ลูกค้าร้านตนมีหลายวัยและหลายอาชีพ ทั้งนักศึกษา นายธนาคาร พนักงานบริษัทสาวๆ สาวพีอาร์ เรียกว่ามีทุกอาชีพ ส่วนใหญ่อยากสักเพื่อสร้างความมั่นใจ
การสักของไทยมีมาแต่โบราณ นักรบหรือทหารสมัยก่อนจะให้พระหรืออาจารย์ขมังเวทสักยันต์ลงอาคมให้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและคุ้มครองให้แคล้วคลาด ส่วนในสิงคโปร์ก็มีการสักมานานแล้วเช่นกัน แต่เมื่อก่อนจะจำกัดอยู่ในกลุ่มนักเลงมาเฟีย ที่สักเพื่อแสดงความเก่งกล้า แสดงตัวตนและพวกพ้อง
ปัจจุบันรอยสักแพร่หลายมากขึ้น เป็นทั้งแฟชั่นและตอบสนองศรัทธา
|