|
แก้ไขล่าสุด cho เมื่อ 16-10-2010 07:17
อรุณสวัสดิ์ วันเสาร์ที่สายฝนยังคงโปรยปรายทั่วฟ้าเหมือนเมือวาน.. แหวกม่าน เปิดหน้าต่างห้องทำงาน รับอากาศเย็นชื้นปนเหงา เข้าเมืองเสน่ห์กาหลง ชอบมากเลยบรรยากาศแบบนี้.. วันนี้แม่นกพิราพประจำเมืองฯ ขอนำสาสน์จากหลวงปู่คำบุมาฝากกันหน่อย.. วงการสายอีสานทราบกันดีอยู่แล้วว่า หลวงปู่คำบุท่าน 'จารหลัง' ให้ลูกศิษย์มานับไม่ถ้วนแล้ว! และเชื่อว่าพี่น้องในเมืองเสน่ห์กาหลงหลายท่านทีเดียวที่เคย 'จารหลัง' กับหลวงปู่คำบุมาแล้ว..
“อักษรธรรมลาว” เป็นอักษรที่คนโบราณในภาคอีสานใช้จารึกเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับความศักดิ์สิทธิ์ หลักคำสอนในทางพระพุทธศาสนา จารึกสรรพวิชา ตลอดจนจารึกขนบธรรมเนียมประเพณีมาเป็นเวลายาวนาน เราสามารถพบการจารึกอักษรธรรมลาวแบบนี้ได้ตามคัมภีร์ใบลานเก่าๆ ที่เรียกว่า “หนังสือผูก”
พระเกจิอาจารย์ในภาคอีสานรูปหนึ่งที่มีความเชี่ยวชาญอักษรธรรมลาว คือ “พระครูวิบูลย์นวกิจ” หรือ “หลวงปู่คำบุ คุตตจิตโต” เจ้าอาวาสวัดกุดชมภู ต.กุดชมพู อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี เป็นพระสงฆ์ที่เล่าขานกันว่า "ทรงคุณพุทธาคมเข้มขลัง"
ในช่วงที่หลวงปู่คำบุท่านออกธุดงค์ ท่านได้ไปร่ำเรียนวิชามาจากพระเกจิอาจารย์ที่เป็นลูกศิษย์ของ “ญาท่านกรรมฐานแพง” แห่งวัดสะเพือ อ.พิบูลมังสาหาร วิชาที่ท่านชำนาญและเชี่ยวชาญเป็นอย่างมากคือ “การจารอักขระ อักษรธรรมลาว” ทั้งนี้ท่านทำพิธีลงเหล็กจารบนแผ่นหลังของผู้ที่ศรัทธา โดยลูกศิษย์มีคติความเชื่อว่าเป็น “เมตตามหานิยมและวิชาทางคงกระพันชาตรี”
การลงเหล็กจารบนแผ่นหลังของหลวงปู่คำบุ จะไม่เหมือนกับการสักยันต์ เพราะการสักยันต์คือการนำเข็มสักจุ่มหมึกสัก และสักลงบนพื้นที่ที่จะสักเป็นจุดๆ ต่อเนื่องกันไปจนเกิดเป็นตัวอักขระ แต่การลงเหล็กจารจะเป็นการนำเหล็กปลายแหลมเขียนลงไปในบริเวณที่ต้องการเขียน
ทุกวันนี้ หากหลวงปู่ไม่มีกิจนิมนต์นอกวัด จะมีบรรดาผู้ศรัทธาในความขลังแวะเวียนเข้าไปให้ท่านลงเหล็กจารบนหลังมากมาย ในบางวันก็ต้องว่ากันตั้งแต่หลังเพลไปจนถึงสามสี่ทุ่ม จนกว่าจะหมดคน หลายต่อหลายคนเป็นผู้ที่มาลงครั้งแรก และอีกหลายต่อหลายคนที่วนเวียนมาลงโดยตั้งใจว่าจะต้องครบ ๗ ครั้ง ตามตำรา ขณะเดียวกันลูกศิษย์ได้นิมนต์ท่านมาจารยันต์บนแผ่นหลัง ที่วัดศรีสุดารามวรวิหาร บางขุนนนท์ กรุงเทพฯ เป็นครั้งคราว
มีคติความเชื่อในหมู่ลูกศิษย์ว่า “ใครก็ตามที่ลงจารอักขระธรรมได้ครบ ๗ ครั้ง จะส่งผลให้อักขระธรรมที่ลงไปนั้นฝังลึกไปจนถึงกระดูก และถ้าสามารถประพฤติปฏิบัติตามคำสั่งของครูบาอาจารย์อย่างเคร่งครัดแล้วล่ะก็ จะทำให้ผู้นั้นอยู่ยงคงกระพันต่อศัสตราวุธทั้งปวง ตลอดจนเป็นเมตตามหานิยมแก่ผู้ที่ได้พบเห็น”
นอกจากหลวงปู่คำบุท่านจะเก่งในเรื่องของการจารอักขระลงบนหลังของผู้ที่ศรัทธาแล้ว ตะกรุดที่ท่านสร้างขึ้นมาเช่น ตะกรุดปืนแตก ก็เด่นทางด้านมหาอำนาจ ตะกรุดรกแมว ก็เด่นทางด้านเมตตา แต่ทีเด็ดอีกอย่างหนึ่งของท่านคือ "ชานหมาก” ทั้งนี้ ท่านยังได้ใช้ชานหมากที่เคี้ยวขึ้นนี้ในการรักษาโรค เช่น โรคงูสวัส โรคตาแดง ฯลฯ
หลวงปู่มักสอนลูกศิษย์เสมอๆ ว่า “ความละเอียดอ่อนของธรรมะอยู่ที่การปฏิบัติ เราต้องฝึกฝนและขัดเกลาตัวเองให้มากที่สุด ทุกวันนี้คนเราหย่อนยานในการปฏิบัติ คิดกันว่าศาสนาเสื่อม ศาสนาไม่เสื่อมหรอก ศาสนาขาวสะอาด เรื่องไม่ดีที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้เพราะใจคนมันเสื่อมลง เสื่อมลงจากศีล เสื่อมลงจากธรรม”
ส่วนชาติภูมิของหลวงปู่คำบุนั้น “คำบุ คำงาม” เป็นชื่อและสกุลเดิมของท่าน เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๔๖๕ ณ บ้านกุดชมภู ตรงกับวันจันทร์ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ ปีจอ โยมบิดาชื่อ นายสา โยมมารดาชื่อ นางหอม นามสกุล คำงาม
หลวงปู่เป็นลูกชายคนสุดท้องของพี่น้องทั้งหมด ๖ คน ในสมัยท่านยังเป็นเด็กน้อย บิดามารดาของท่านได้ให้ท่านบรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดกุดชมภู เมื่อปี ๒๔๘๒ โดยมี ท่านพระครูญาณวิสุทธิคุณ (กอง) วัดตากโพธิ์ เป็นพระอุปัชฌาย์
เมื่อบวชแล้ว หลวงปู่คำบุได้มีโอกาสเดินทางไปกราบไหว้พระครูวิโรจน์รัตโนมล (หลวงปู่รอด นันตโร) อุปนิสัยของสามเณรคำบุ เป็นผู้ใฝ่เรียนรู้ จึงมีโอกาสได้พบกับพระอาจารย์รอด วัดบ้านม่วง ผู้เป็นศิษย์อุปัฏฐากหลวงปู่รอด นันตโร แห่งวัดทุ่งศรีเมือง ด้วยเหตุนี้ พระอาจารย์รอดจึงได้อยู่รับใช้ใกล้ชิดหลวงปู่รอดจวบจนท่านได้มรณภาพลง พระอาจารย์รอดก็กลับมาพำนักพักที่วัดบ้านม่วงตามเดิม
ลูกกรอกแมว หลวงปู่คำบุ
“ลูกกรอกแมว” เป็นเครื่องรางของขลังที่ให้คุณทางด้านโชคลาภแก่ผู้ที่ครอบครอง จากตามตำนานบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ในภาคอีสาน บูรพจารย์ยุคก่อนท่านถือว่า ลูกกรอกแมว เป็นสุดยอดวัตถุมงคลที่ให้คุณทางด้านเมตตามหาเสน่ห์ โชคลาภ ในทุกๆ ด้าน
แม่แมวปกติจากออกลูกครั้งละ ๔-๕ ตัวต่อคอก แต่ที่เกิดเป็นลูกโทนตัวเดียวมีน้อยมาก และที่ออกลูกแล้วตายกลายเป็นลูกกรอกแมวนั้นหายากสุดๆ
ขณะเดียวกัน เวลาแมวออกลูกมักไปออกในที่ลับๆ มีคติความเชื่อที่สืบมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันได้กล่าวไว้ว่า แม้ไม่ได้ลูกกรอกแมวมาครอบครอง หากคนใดเห็นแมวออกลูกถือว่า บุคคลนั้นจะประสบแต่ความสำเร็จเจริญรุ่งเรือง รวมทั้งจะมีโชคลาภ
นอกจากนี้ มีคติความเชื่อด้วยว่า ผู้ใดได้รกแมวมาครอบครอง ถือว่าเป็นเครื่องรางที่จะนำพาความโชคดี และโชคลาภแก่ผู้นั้น เพราะส่วนใหญ่แม่แมวจะกินรกลูกตัวเองหมด ส่วนรกแมวที่รอดพ้นจากการที่ถูกกินนั้น หากเป็นพ่อค้าแม่ขายที่ครอบครอง จะมีคุณวิเศษในการเรียกลูกค้าเข้าร้าน และเป็นเมตตามหาเสน่ห์ รวมทั้งมหานิยมยินดี
สำหรับการจัดสร้างลูกกรอกแมวของหลวงปู่คำบุนั้น ประกอบด้วย เนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อนวโลหะ เนื้อทองแดง และเนื้อทองทิพย์ โดยได้ลงอักขระอักษรลาวที่ว่า “มะ อะ อุ มา นิ มา มา แม็ว แม็ว มา มา”
นอกจากนี้แล้ว ยังอุดด้วยผงพุทธคุณผสมรกแมวที่นำมาตากแห้งแล้วบดเป็นผง นำมาผสมกับผงพุทธคุณ โดยได้อธิษฐานปลุกเสกเดี่ยวในไตรมาส ณ อุโบสถ วัดกุดชมภู เมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๓ ที่ผ่านมา
ส่วนปัจจัยที่จัดสร้างในครั้งนี้ เพื่อสมบททุนสร้างวิหารธรรมเจดีย์ศรีชมพู ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างแต่ยังไม่แล้วเสร็จ พุทธศาสนิกชนร่วมบุญกับหลวงปู่คำบุได้ที่ วัดกุดชมภู โทร.๐๘-๗๐๑๖-๕๑๒๗, ๐๘-๖๑๖๓-๙๔๓๔
“ความละเอียดอ่อนของธรรมะอยู่ที่การปฏิบัติ เราต้องฝึกฝนและขัดเกลาตัวเองให้มากที่สุด ทุกวันนี้คนเราหย่อนยานในการปฏิบัติ คิดกันว่าศาสนาเสื่อม”
|
|