แก้ไขล่าสุด cho เมื่อ 23-12-2009 15:45
พูดถึงไสยศาสตร์ มนต์ดำ ของขลัง ของร้าย คนไทยเป็นต้องนึกถึงไสยศาสตร์เขมรแบบอัตโนมัติ ผู้จัดการรายวัน ธันวาคม พ.ศ. 2552
ในภูมิภาคสุวรรณภูมิ
เรื่องไสยศาสตร์มีมาแต่ครั้งโบราณกาล พม่า มอญ ลาว ไทย เขมร
หรือแม้กระทั่งทางใต้อย่างมลายู ปัตตานี ต่างก็มีวิชามนต์ดำถ่ายทอดสืบต่อ
อย่างสำนักเขาอ้อ จังหวัดพัทลุง ก็เชื่อว่าสืบทอดมาจากไสยศาสตร์สายศรีวิชัย
ซึ่งเป็นอาณาจักรโบราณทางใต้
แต่ที่มนต์เขมรโด่งดังยิ่งนัก
ผู้รู้เล่าว่าเพราะคนเขมรนิยมชมชอบ เรื่องทำนองนี้มาแต่ครั้งอดีต เล่นกันทุกชนชั้น
ถึงขนาดเล่าลือว่าทุกบ้านเป็นต้องมีวิชาอาคมอย่างใดอย่างหนึ่ง
ครั้งหนึ่ง
ย่านทาวน์อินทาวน์ มีหอพักแห่งหนึ่งร่ำลือว่าผีดุ
แต่เด็กรับใช้ชาวเขมรกลับเฉยๆ
ไม่รู้สึกรู้สา ถามว่าทำไมไม่กลัว
เด็กคนนี้บอกว่าที่บ้านพ่อหนูก็เลี้ยง!!
ไสยศาสตร์แบ่งเป็นใหญ่ๆสองสาย คือ สายขาว และสายดำ ซึ่งทางเขมรได้ชื่อว่าแรงในทางสายดำ เสน่ห์ยาแฝด
แช่งชักหักกระดูก เน้นการเลี้ยงหรือใช้วิญญาณผีตายโหง สัมภเวสี หรือเปรต
ซึ่งอาจารย์แต่ละสำนักในเขมรก็จะมีความเชี่ยวชาญในทางของตน พวกนักเลง มือปืน
หรือพวกที่ชีวิตวนเวียนกับการต่อยตีฆ่าฟัน ก็มักไปสักยันต์กับอาจารย์ในเขมรร่ำลือกันว่าเหนียวจริง แต่ของแบบนี้ บั้นปลายแล้วมักสร้างผลเสียแก่เจ้าตัว
ที่เรียกว่าของเข้าตัว หรือเกิดเลี้ยงดูแลผีไม่ดีมันก็ย้อนกลับมาทำร้ายคนเลี้ยง เสน่ห์ยาแฝด น้ำมันพรายศาสตร์ที่ทำให้ชาย-หญิงรักหลง ของเขมรก็เรียกว่าขึ้นชื่อ
ผู้รู้คนเดิมยกตำรับยาลูกกลอนตำรับหนึ่งมาเล่าให้ฟังว่า
ให้ผู้หญิงถูขี้ไคลของตัวเองแล้วกินเข้าไป ถ่ายออกมาเป็นอุจจาระ
แล้วเอาของเสียนี่แหละไปทำเป็นยาลูกกลอนให้ผัวกิน รับประกันผัวรัก
ผัวหลงชนิดโงหัวไม่ขึ้น
หรือในภาพยนตร์เรื่อง 'ลองของ' ก็เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน
ของไสยศาสตร์สายเขมร
การกินเนื้อของคนที่เสกของเข้าตัวเรา
ถือเป็นการแก้เคล็ดและดึงดูดพลังของคนคนนั้นมาเป็นของตน
เข้าทำนองตัดไม้ข่มนาม
เมื่อไม่นานมานี้
ที่มีข่าวว่ากัมพูชาสร้างรูปหล่อจำลองพระสยามเทวาธิราชของไทย
ก็ถือเป็นการทำลายหัวใจหรือสิ่งคุ้มภัย พูดง่ายๆ
คือดึงเอาความศักดิ์สิทธิ์และการคุ้มครองออกไปจากแผ่นดินไทยตามหลักความเชื่อ
เมื่อไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มกัน ประเทศไทยก็จะอ่อนแอและถูกทำร้ายได้ง่าย
เข้าทำนองว่าต้องดึงเสื้อเกราะกันกระสุนออกก่อนถึงจะยิงเข้า
ขณะที่บ้านเรา
พุทธศาสนาค่อนข้างมีอิทธิพลสูง
ไสยศาสตร์ของไทยแม้จะมีทั้งสายขาวและสายดำ
แต่ก็เน้นไปที่จำพวกแรกมากกว่า
และก็ใช้สายขาว
นี่แหละป้องกันสายดำ
หรือบ้างก็ว่าการสวดมนต์ถือเป็นการป้องกันคุณไสยที่ดีวิธีหนึ่งไม่ว่าจะบทสรรเสริญพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ชินบัญชร หรือบทพาหุงครูบาอาจารย์เล่าว่ามนต์เหล่านี้มีคุณในทางคุ้มครองทั้งสิ้น
บางบทฤทธิ์อำนาจอาจอยู่นานเป็นเดือนๆ
ส่วนพระเครื่องหรือเครื่องรางของขลัง
ถ้าศักดิ์สิทธิ์จริงย่อมป้องกันมนต์ดำได้ แต่ก็คล้ายกับใส่เสื้อกันกระสุน
ธรรมชาติของคุณไสยหรือผีร้าย มันคอยจ้องคนที่มันต้องเล่นงาน
เมื่อใดที่ถอดพระออกจากคอคุณไสยก็พร้อมจะเข้าทำร้าย
สำหรับคนที่โดนของ
คงต้องไปตามหาพระหรืออาจารย์เก่งๆ ถอนกันเอง
ซึ่งแต่ละแห่งก็มี
ชื่อเสียงในสายของตน อย่างสำนักเขาอ้อ หรือ
สายหลวงพ่อปาน
วัดบางนมโค จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เป็นต้น
เรื่องของไสยศาสตร์เป็นเรื่องของความเชื่อล้วนๆ
ผู้รู้บอกว่าการที่คาถา เครื่องราง หรือ
คุณไสยจะส่งผลได้จริงหรือไม่
ก็ขึ้นอยู่กับว่าคนคนนั้นเชื่อมั่นศรัทธาแค่ไหน คำเล่าขานที่เล่าๆ ต่อมา
สิบอาจจะจริงแค่หนึ่ง
แต่เรื่องเล่าพวกนี้ก็ทำหน้าที่ให้เกิดความเชื่ออีกทอดหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม
ไสยศาสตร์คือศาสตร์แห่งความหลับใหล ไม่เคยนำพาใครไปสู่หนทางตื่นรู้ เช่น ศาสนาพุทธ
วิธีป้องกันคุณไสย มนต์ดำ ที่ดีที่สุด คือ เป็นคนดี รักษาศีลธรรม
กี่ร้อยมนต์ดำเขมรก็ไม่สามารถแผ้วพานได้
แต่อาจารย์มนต์ดำเขมรของแท้ และศักดิ์สิทธิ์ คงไม่พ้นนักการเมืองคนหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์ ว่ากันว่า
ไสยศาสตร์ของเขาทำให้คนสามารถเป็นนายกฯ ได้ แถมต้องยอมลดแลกแจกแถมทุกอย่างที่หมอผีเรียกร้องของเขาแรงจริงๆ
|