|
แก้ไขล่าสุด cho เมื่อ 3-8-2010 06:55
เชื่อแน่ว่า ในเวลานี้ ผู้ที่ชื่นชอบการ "สักยันต์" คงไม่มีใครไม่รู้จัก"อาจารย์หนู กันภัย" อาจารย์สักยันต์ชื่อดัง แห่งสำนักสักยันต์ จังหวัดปทุมธานี เจ้าของฉายา "มือสักเข็มทอง" ที่โด่งดังไปทั่วโลก โดยเฉพาะเหล่าบรรดาดารานักร้อง และ"เซเลบฯ" ทั้งหลาย ต่างก็แห่ไปสักยันต์หนุนดวง 5 แถว และขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์กันเป็นทิวแถว ไม่ว่าจะเป็นสาวสองพันปี อย่าง "ต่าย" เพ็ญพักตร์ ศิริกุล"โย" ยศวดี หัสดีวิจิตร "ชมพู่" อารยา เอ ฮาร์เก็ต "ตั๊ก" บงกชคงมาลัย "กระแต" ศุภักษร ไชยมงคล กระทั่งทายาทเบียร์สิงห์ อย่าง"ต๊อด" ปิติ ภิรมย์ภักดี ก็ไม่เว้น นอกจากนี้ยังมีดารา นักร้อง ตลกชื่อดังคนอื่นๆ ที่ไม่ได้เอ่ยชื่อ รวมถึงผู้คนในทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้า นักธุรกิจ นักการเมืองใหญ่ และนายทหาร-ตำรวจระดับสูง ก็มาให้อาจารย์หนูสักยันต์ให้ ถ้าเอารายชื่อมากล่าวในที่นี้ทั้งหมดก็คงจะเป็นอะไรที่ ยาวเหยียด!!!
นอกจากเรื่องของการ "สักยันต์" แล้ว หลายคนคงยังไม่รู้ว่าอาจารย์หนู เจ้าของยันต์ "5 แถว" อันลือลั่น เป็นผู้ที่ชื่นชอบและศรัทธา"หลวงปู่ทวด" เป็นอย่างมาก และขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดสร้าง "หลวงปู่ทวด" องค์ที่ใหญ่และสูงที่สุดในโลก ที่วัดแม่ตะไคร้ฯ จังหวัดเชียงใหม่
"ตอนนี้กำลังทำแท่นอยู่ เฉพาะแท่นอย่างเดียวประมาณ 15 ล้านและต้องเอาเงินไปให้ช่างเขาเพื่อการหล่อ ชิ้นละล้าน 19 ชิ้น ก็ 19 ล้านอาจารย์ต้องหา (เงิน) ตัวเป็นเกลียวเลยทีนี้"
ถามว่าทำไมต้องเป็น "หลวงปู่ทวด" อาจารย์หนูบอกว่า "มันเป็นศรัทธาจากส่วนลึกของจิตใจ"
"นอกจากนี้ เวลานั่งสมาธิต้องมีครูบาอาจารย์ยึดเหนี่ยว บางคนนั่งหูดับ สังขารดับ จิตเราไปนิวรณ์ หรือจิตออกไปไหน หรือระหว่างที่เรานั่ง (สมาธิ) เราเจออสุรกาย เจอภูตผี เราต้องยึดเหนี่ยวครูบาอาจารย์องค์ใดองค์หนึ่ง บางคนนึกถึงหลวงปู่มั่น บางคนนึกถึงหลวงปู่โต แต่อาจารย์นึกถึงหลวงปู่ทวด พอไปเจออสุรกายเข้าท่านก็จะเอาจีวรมาบังป้องกันให้เรา สิ่งนี้เป็นศรัทธาในส่วนลึกของจิตใจอาจารย์"
อาจารย์หนูเล่าประสบการณ์ส่วนตัวเกี่ยวกับหลวงปู่ทวดให้ฟังว่า ตอนไปที่เหมยหลี่ ประเทศจีน ได้ไปนอนที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่อดีตเคยเป็นคุกเก่า ผู้คนเล่าลือกันว่าที่นั่นมีวิญญาณเต็มไปหมดอาจารย์หนูก็อธิษฐานถึงหลวงปู่ทวด...
"ตอนนั่งทานข้าวที่โต๊ะ และบนเพดานก็มีพัดลมเก่าๆ ตัวใหญ่มาก นั่งกับลูกศิษย์ แล้วพัดลมมันก็ดังโคล้งเคล้งๆๆ อยู่ตลอดเวลาช่วงเสี้ยววินาทีหนึ่ง บอกลูกศิษย์ว่า เราลุกไปนั่งอีกโต๊ะกันเถอะ พอลุกออกมายังไม่ทันนั่งลงที่อีกโต๊ะ พัดลมก็ตกลงมา "โครม!!!" ถ้าไม่อย่างนั้นคงคอขาดกัน แม้แต่ตอนนั่งเครื่องบิน อยู่ๆ อากาศมันเข้ามาในเครื่อง ก็ดึงสายมาอุดจมูกกันหมดแล้ว ทีนี้ก็อธิษฐานถึงหลวงปู่ทวด คาถงคาถานี่ท่องผิดกันหมดเลย แต่ในที่สุดก็รอดปลอดภัยกลับมา..."
ย้อนกลับไปในอดีต อาจารย์หนูเกิดที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรีได้รับการเลี้ยงดูจาก "ป้า" ซึ่งเป็นแม่ของเด๋อ ดอกสะเดา เนื่องจากตอนเป็นเด็ก สมัยนั้น ผู้คนแถวละแวกบ้านนิยมการสักยันต์และแขวนพระเครื่องกันเป็นอย่างมาก จึงเกิดความสนใจ และได้เริ่มเรียนคาถาจากปู่ พร้อมกับศึกษาตำรับตำราเก่าแก่ที่พ่อทิ้งเอาไว้ เป็นภาษาเขมร และเป็นคาถาของพวกเสือเก่า-ขุนโจรสมัยรุ่นปู่-รุ่นพ่อ อาทิ คาถาพะเนียงแตก เก้ายอด นพคุณ เทวดาหลงทาง ฯลฯ บางคาถาเป็นของหลวงพ่อทา พระเกจิอาจารย์สมัยเก่า
และครั้งหนึ่ง ในตอนที่อาจารย์หนูยังเป็นเณรที่วัดระหาร ได้มีชายผู้หนึ่งเดินทางมาหาเพื่อขอเครื่องรางของขลังไว้ป้องกันตัว แต่เณร(อาจารย์หนู) กลับใช้ทางมะพร้าวผูกกับเข็ม แล้วสักยันต์ให้กับชายผู้นั้นแทน จากนั้นไม่นานก็มีชาย 5-6 คน เดินทางมาหา ขอให้สักยันต์ให้ โดยบอกว่าชายที่เคยสักยันต์ไปก่อนหน้านี้ถูกแทงแต่ไม่เป็นอะไรเลย พอถามว่ามีของดีอะไร ชายคนดังกล่าวบอกว่า เคยให้เณรที่วัดระหารสักยันต์ให้ อาจารย์หนูจึงกลายเป็นอาจารย์สักยันต์ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา กระทั่งกลายมาเป็นผู้สร้างตำนาน "สักยันต์ไทย"ดังก้องโลกอยู่ในทุกวันนี้
ที่สร้างความฮอตฮิตฮือฮา คงหนีไม่พ้นเรื่องที่อาจารย์หนูสักยันต์ให้กับ "แองเจลินา โจลี" นางเอกฮอลลีวูดชื่อดัง โดยนางเอกสาวสวยได้เปิดรอยสักหนุนดวง 5 แถวโชว์ในหนังเรื่อง "Wanted" นอกจากนี้แองเจลินา โจลียังเชิญอาจารย์หนูไปสหรัฐฯ เพื่อสักยันต์ให้กับเพื่อนดาราฮอลลีวูดของเธออีกด้วย นอกจากดาราไทยและดาราฮอลลีวูดแล้ว ยังมีดารา นางงาม และนางแบบในแถบเอเชียพากันบินลัดฟ้ามาให้อาจารย์หนู "สักยันต์" ให้เป็นจำนวนมาก
"ตอนที่ แองเจลินา โจลี มาครั้งแรก เขาบอกว่าขอยันต์ที่ดีที่สุดในประเทศไทย อาจารย์ก็เลยสัก "ยันต์ 5 แถว" ให้ แล้วเขาก็บินกลับไปแล้วก็นัดมาเจออีกทีหนึ่ง เขาบอกว่าประสบความสำเร็จ อาจารย์ก็สักยันต์เมตตาให้ไปอีก เขาก็ไปได้ออสการ์..."
นอกจากเรื่องของ "แองเจลินา โจลี" ยังมีเรื่องลับๆ เกี่ยวกับสามีของเธอ "แบรด พิตต์" พระเอกฮอลลีวูดที่มาให้อาจารย์หนูสักยันต์ให้
"ตอนที่เขามา อาจารย์ขอเขาว่าเป็นข่าวได้ไหม เขาบอกว่าได้พอได้เท่านั้น นักข่าวไปกันเต็มเลย พอไปถึงการ์ดไม่ยอม บอกไม่ได้มาตอนหลังเขาขอว่าห้ามเป็นข่าว มันด่าเรา หาว่าเราฉวยโอกาส จริงๆไม่ได้ฉวยโอกาส คุณมาสัก เราไม่ได้เรียกเงินทองคุณ แต่ต้องเป็นข่าวคุณกล้าเปิดเผยไหม เพราะคุณอยากได้ของดี อาจารย์ก็ไม่ได้ว่าอะไรไม่ได้เรียกเงินเรียกทองคุณ แต่คุณต้องกล้าเปิดสิ หนแรก สักไปแล้วหนสองมาอีก อาจารย์ก็บอกว่าไม่ได้ บอกว่าคุณไม่กล้าเป็นข่าวคุณก็อย่ามาสักเลย ที่นี่เป็นเมืองเปิด"
ถามว่าแบรด พิตต์ สักยันต์อะไร อาจารย์หนูบอกว่า "หลายอย่าง" แต่บอกชัดๆ ไม่ได้ว่าเป็นยันต์อะไรบ้าง เพราะว่าป๋า "แบรด"เขาห้ามเป็นข่าว
"เดี๋ยวจะหาว่าเราฉวยโอกาสอีก ขี้เกียจรำคาญมัน หาว่าเป็นนักฉวยโอกาส อาจารย์บอกว่าเราเป็นนักฉวยโอกาสอะไร ก็คุณมาสักกับผม เวลามาสักเมืองไทยคุณทำใจได้ไหม เพราะที่นี่สื่อเขาเยอะคุณบินมาเขาต้องถ่ายรูปอยู่แล้ว เพราะถือว่าคุณมาสักนี่ เราเปิดอยู่แล้ว ถ้าคุณไม่อยากออกข่าว คุณมาฟ้องร้อง ก็ฟ้องไปเถอะ เพราะที่นี่เป็นสถานที่เปิดเผย คุณมาสักเขาก็ถ่ายรูปคุณลง มาสักต้องทำใจแต่มาปิดโน่นปิดนี่ อาจารย์บอกว่าอย่ามาสักเลย"
"ยันต์" ที่เป็นที่นิยม ศรัทธา และมีชื่อเสียงของอาจารย์หนู อาทิยันต์หนุนดวง 5 แถว, เสือเหลียวหลัง, ฉัตรเพชร, นะมหาสำเร็จ,โภคทรัพย์ และยันต์โสฬสมงคล เป็นต้น โดยเฉพาะ "ยันต์ 5 แถว"เป็นยันต์หลักที่คนนิยมสักกันเป็นอย่างมาก แม้แต่ นายเฉลิมชัยศรีอ่อน ก่อนหน้าที่เขาจะได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ก็มาสักยันต์ "5 แถว" และอีกหลายๆ ยันต์กับอาจารย์หนู กระทั่งมีคนแซวว่า "สักยันต์แล้วได้เป็นรัฐมนตรี"
"ช่วงนั้นที่แองเจลินา โจลีมาสัก หรือชาวต่างชาติที่เป็นนักธุรกิจหรือแม้แต่นักการเมือง เขาต้องการยันต์ที่เป็นที่สุดของเมืองไทยอาจารย์คิดว่าไม่มีอะไรสูงเท่าดวงประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็คือวันเดือนปีเกิดของพระพุทธเจ้าอาจารย์ก็เลยเอาดวงประสูติมาวางเป็น 5 แถว พุทธคุณของยันต์ 5 แถวก็แก้ฮวงจุ้ย หนุนดวง กันคุณ (ไสย) โชคลาภ และมหาเสน่ห์ครบอยู่ใน 5 แถว ก็เป็นที่มาของยันต์ 5 แถว"
นอกจากไทยแล้ว อาจารย์หนูยังได้รับเชิญให้ไปสักยันต์ที่ต่างประเทศเป็นประจำ ประเทศที่อาจารย์หนูไปบ่อยที่สุดคือ "ฮ่องกง" รองลงมาก็เป็นสิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน เกาหลี
ส่วนใครที่อยากรู้ว่า "สัก" แล้ว "ฟัน" ไม่เข้า "เหนียว" จริงหรือไม่ ต้องให้อาจารย์หนูอธิบาย...
"ไม่ใช่เหนียว เหนียว มันจะตามมาทีหลัง ถ้าเราทำคุณงามความดี ตั้งหน้าทำมาหากิน หมั่นสวดมนต์ไหว้พระ ไม่คดไม่โกง พระท่านคุ้มครองคนดี ผู้ที่สักยันต์ไปแล้วต้องทำคุณงามความดี ต้องอยู่ในศีลในธรรม"
ส่วนข้อห้ามสำหรับผู้ที่เข้ารับการสักยันต์กับอาจารย์หนูก็คือผู้ชาย หนึ่ง-ห้ามทุบตี ด่าว่าบุพการีผู้ให้กำเนิด สอง-ห้ามไปผิดเมียของคนอื่น สาม-ห้ามลบหลู่หรือดูหมิ่นครูอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา ส่วนผู้หญิง ห้ามเพียงข้อเดียว คือห้ามทุบตี ด่าว่าบุพการีผู้ให้กำเนิด หากไม่ยึดถือตามที่กล่าวมานี้ถือว่าผิด ของที่ได้ไปนั้นถือว่า"หลุด" หรือ "เสื่อม"
ส่วนค่าใช้จ่าย "ไหว้ครู" ในการสักยันต์กับอาจารย์หนู สักน้ำมันราคา 3,600 บาท สักสีหรือสักลาย 6,200 บาท แต่ก็ขึ้นอยู่กับขนาดลักษณะ และประเภทของยันต์ด้วย
"ที่นี่ค่อนข้างแพงหน่อยนะ เป็นเงินทำบุญ แต่ต่างชาติก็จะแพงขึ้นไปอีก อาจารย์ก็บอกเขาว่าขอบวกขึ้นไปอีกนะ อีกราคาหนึ่งเลยเพราะเวลาเราไปบ้านเขาเขาก็บวกเรา (หัวเราะ) อาจารย์บวกเสาเป็นต้นเลย เป็นหมื่นเลย เอาเงินไปสร้างวัด แต่ช่วงนี้ทั้งปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจ ทำให้ได้รับผลกระทบ ช่วงนี้มีคนมาสักยันต์กับอาจารย์วันหนึ่งสิบกว่าคน แต่ก่อนเดือนหนึ่งได้เป็นล้าน แต่ตอนนี้ตกลงไปเยอะ เศรษฐกิจแย่มาก ตอนนี้ยิ่งกว่าเผาจริงอีกนะ"
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของ "หมื่นยันต์" อาจารย์หนู กันภัย "มือสักเข็มทอง" ที่โด่งดังไปทั่วโลก...
thanks for ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
present by khalong.com |
|