การถวายสังฆทานที่ถูกต้อง

การถวายสังฆทานที่ถูกต้อง

การทำสังฆทานที่ไม่ถูกต้องในปัจจุบัน

                ชาว พุทธในปัจจุบัน เข้าใจผิดว่าการถวายสังฆทาน คือการนำของใส่ถังไปถวายพระหนึ่งรูปบ้าง สองรูปบ้างแท้จริงแล้วการทำบุญแบบนั้นเป็นสังฆทานที่ผิดได้บุญต่ำ บางสิ่งอาจได้ทำบาปอีกด้วยถ้ามีการถวายเงินแล้วพระรับกับมือหรือครอบครองเงินนั้นไว้กับตัว

การถวายสังฆทานที่ถูกต้อง

วิธีการปฎิบัติที่ถูกต้อง

1.
ต้องเป็นอาหารที่พระฉันได้ในเวลานั้นและต้องถวายก่อนเที่ยงเหมือนกับการถวายภัตราหารเพลพระนั่นเอง

2.    ต้องกล่าวคำถวายสังฆทาน ดังนี้ “อิมานิ มะยัง ภันเต ภัตตานิสะปะริวารานิ ภิกขุสังฆัสสะ โอโณชะยามะ สาธุ โน ภันเต ภิกขุสังโฆ อิมานิ ภัตตานิสะปะริวารานิ ปะฏิคคันหาตุ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะฯ” (ในหัตถบาสใช้อิมานิ นอกหัตถบาสใช้เอตานิ)

3.     พระตั้งแต่ 4 รูปขึ้นไป (ครบองค์สงฆ์) พระน้อยกว่า 4 รูป ไม่สามารถรับสังฆทานได้เป็นบาป เพราะเป็นเพียงบุคคลเท่านั้น เมื่อพระครบ 4 รูป จึงจะถือว่าเป็นสงฆ์จะถวายพระ 1 รูป ได้ก็ต่อเมื่อ พระรูปนั้นเป็นพระอรหันต์เพราะท่านเองเป็นสงฆ์นั่นเอง

4.
จะต้องทำการอุปโลกข์สังฆทาน

หลังจากที่พระรับสังฆทานแล้ว พระรูปที่ 2 จะต้องทำการอุปโลกข์สังฆทาน(คือ ประชุมสงฆ์ เพื่อทำการแบ่งปันอาหารมาตามลำดับจนถึงให้ญาติโยม)หากไม่ได้ทำการอุปโลกข์ อาหารทุกชิ้นที่เป็นของสงฆ์ ใครจะนำไปกินไม่ได้เด็ดขาดพระบางรูปจะบอกยกให้ก็กินไม่ได้ แม้แต่พระผู้รับสังฆทาน ก็จะฉันไม่ได้ถ้าผู้ใดกินเข้าไป เมื่อตายไปแล้วต้องไปเกิดเป็นเปรตประมาณ 92 กัลป์ (1 กัลป์ คือ6,420 ล้านปี)ดังนั้นจึงถือเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมากของชาวพุทธที่ไม่รู้ธรรมะ

คำอุปโลกข์สังฆทานก็คือ ยัคเฆ ภัณเต สังโฆ ชานาตุ อะยัง ปะฐะมะ ภาโคมะหาเถรัสสะ ปาปุณาติ อะวะเสสา ภาคา อัมหากัง ปาปุณาติ

บุญใดที่เกิดขึ้นจากบทความนี้ บุญนี้จงสำเร็จแก่ เทวดาประจำตัว –เจ้ากรรมนานเวรที่มาถึงเบียดเบียนข้าทั้งภายในและภายนอก–ญาติทิพย์– ให้เชื้อโรคในตัวของข้า
และผู้ที่ต้องการ บุญข้าตลอดไป

   

แล้วที่เราทำทุกครั้งพระ 1 รูปตลอด
เราจะได้บุณหรือคะ

บุญนะได้อยู่แล้ว แต่ไม่ใช่การทำสังฆทาน  กำลังของบุญที่ได้ ก็ต่างกัน   การทำบุญ กับพระพุทธเจ้า 100 ครั้ง ไม่เท่า ทำสังฆทานครั้งเดียว

อีกอย่างข้อฝากไว้เลยน่ะ การถวายเงินพระเป็นส่วนตัว ได้บุญน่ะ แต่บุญที่ได้เป็นพิษ  เวลา อุทิศบุญไป ผู้ที่อนุโมทนาบุญเรา หรือผู้ที่เราอุทิศบุญให้ เวลา เสวยบุญ จะแสบปาก แสบท้อง ร้อนท้อง  ร้อนปาก  อยู่ในวิมาน ของตัวเองก็จะร้อน  ถ้าจะถวายต้องถวายเป็นส่วนกลาง  มีไวยยาวัจกร เป็นคนดูแล

เวลาใส่บาตร หรือสังฆทาน หนูก็จะไปหาซื้อของเอง
เลือกซื้อแต่สิ่งดีๆ ใส่บาตร...
เคยไปซื้อสังฆทานตามห้าง เปิดดูข้างในไม่มีอะไรเลย
มีกล่องทิชชู่  สมุด แปะไว้ในถัง...
ซึ่งราคา ก็ไม่ได้ถูกอะไร...ของยี่ห้ออะไรก้อไม่รู้...
เลือกสิ่งที่ต้องใช้ เช่นสบู่ ยาสีฟัน กรรไกรตัดเล็บ
ยาสระผม น้ำยาล้างจาน ฯลฯ  นม  และสิ่งดีๆ ค่ะ
ตอนกรวดน้ำ ก็แผ่ส่วนกุศล อย่างที่ท่านแนะนำ
คือให้บิดาที่ล่วงลับไปแล้ว ชื่อ.... เทวดาที่คุ้มครองเรา
ญาติทิพย์ และเชื้อโรคที่อยู่ในตัวเราค่ะ...
เหมือนได้ทำเต็มที่ และคุ้มค่าที่ได้ทำสังฆทานจริงๆ...
ไม่ปล่อยเลย ตามเลย... ไม่ทำเพราะความสะดวกสบายค่ะ...
รู้สึกดีจริงๆๆๆ....ขอบคุณนะคะ...

อนุโมทนาด้วยจร้าาา   

บ่อยครั้ง มักเห็นพระเพียงรูปเดียวนั่งอยู่ตรงแผนกถวายสังฆทานค่ะ..

ขอบคุณว่าที่ ทูนหัวแห่งเมืองกาหลง ท่านนายอินทร์ (เป็นอะไรกับร้านหนังสือท่าพระจ้นทร์ป่าว)

อนุโมทนาครับ

เอ๋ ....เราเขียนความคิดเห็นมาแล้ว เมื่อตอนบ่ายโมงกว่าๆ แล้วหายไปไหนหว่า

อนุโมทนาครับ

สังฆทาน คือการถวายทานที่ไม่ระบุ ไม่เฉพาะเจาะจงรูปใดรูปหนึ่งในหมู่สงฆ์

เสริมความรู้

- พระภิกษุ ๑ รูป เรียกว่า "บุคคล"
  พระภิกษุ ๒ - ๓ รูป เรียกว่า "คณะ"
  พระภิกษุ ตั้งแต่ ๔ รูป ขึ้นไป เรียกว่า "สงฆ์"


อีกเรื่องที่ควรทราบซึ่งมีอยู่ควบคู่กับสังฆทานอย่างใกล้ชิดนั่นคือ "การประเคน"

บางท่านอาจจะคุ้นเคยกับการประเคนกันเป็นอย่างดี แต่หารู้หรือไม่ว่า การประเคนก็ต้องมีองค์ประกอบอยู่ด้วยเช่นกัน

หากกระทำไม่ครบองค์ประกอบของการประเคน ก็จะถือว่าไม่ได้ประเคนก็เป็นได้ ภิกษุที่รับของจากการประเคนที่ไม่ครบองค์ของการประเคน

ก็จะอาบัติไปด้วยเช่นกัน เมื่อองค์แห่งการประเคนสำคัญเช่นนี้แล้ว ชาวพุทธอย่างเรา จึงควรศึกษาอย่างถ่องแท้

เพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่กับมนุษย์ชาติสืบต่อไป ตราบจนถึงที่สุดแห่งธรรม

องค์แห่งการประเคนมีด้วยกันทั้งสิ้น ๕ ประการ ดังนี้

๑.ผู้ประเคนจะต้องแสงอาการน้อมเข้าไปในหัตถบาส (ประมาณ๑ศอก)
๒.ของที่ประเคนนั้นจะต้องไม่หนักจนเกินไป (คนเดียวสามารถยกได้)
๓.อาการประเคนต้องจับทั้งสองมือ ยกพ้นพื้น
๔.ผู้ประเคนจะประเคนด้วยมือก็ได้ หรือของเนื่องด้วยกาย(เช่น ใช้ทัพพีตักข้าวใส่บาตร)ก็ได้
๕.ผู้รับประเคน(พระภิกษุ) จะรับประเคนด้วยมือก็ได้ หรือจะรับด้วยของเนื่องด้วยกาย(เช่น ผ้ารับ)ก็ได้

หากการประเคนเป็นไปตามองค์แห่งการประเคนดัง ๕ ข้อ ข้างต้นนั้น

ก็ถือได้ว่าเป็นการประเคนอย่างถูกต้องและเหมาะสมครับ

สาธุ

อย่างงี้เอง

ใครหนอ ขยันคุยกระทู้จัง

เเล้วพวกสังฆทานเวียน นี้ ทำได้ไม่บาปนะ เห็นวัดทำกันมาก

ไอหยะ ใส่บาตรทุกเช้า ของคาว ของหวาน น้ำ แล้วก็ต้องใสเงินไปให้พระทุกที เพราะคิดว่าพระก็ต้องใช้เงิน