วันขึ้น ๑ – ๙ ค่ำ เดือน ๑๑ รวม ๙ วัน ๙ คืนนั้น มีความหมายต่อผู้ที่นับถือศาสนาฮินดู เพราะเป็นอีกวาระหนึ่งของงานเฉลิมฉลอง " เทศกาลดูเซร่า " ( นวราตรี ) หรือที่ชาวไทยเรียกกันติดปากว่า งานแห่พระแม่อุมา วัดแขกสีลม ค่ำคืนสุดท้ายมหาเทวีพระนาม " อุมา " และ " มหากาลี " จะยาตราบนพื้นธรณี
" มารีอามัน " หรือ " พระศรีมหาอุมาเทวี " ซึ่งมีความเชื่อกันว่า มารีอามัน คือ เทวีผู้บำบัดปัดเป่าและรักษาไข้ทรพิษ และความเชื่อของประเพณีดูเซร่า หรือ นวราตรี ก็คือจะเป็นช่วงที่พระแม่และขบวนเทพเสด็จลงมายังโลกเพื่อประทานพรให้กับมนุษย์ทั้งหลาย โดยเฉพาะวันสุดท้าย เรียกกันว่า " วันวิชัยทัสมิ " ( วันแห่งชัยชนะ ) ซึ่งเป็นวันที่ฉลองชัยขององค์พระแม่ที่มีต่ออสูรและหมู่มารร้าย
ปีนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงเรื่องงานแห่วันแห่งชัยชนะของพระศรีมหาอุมากาลี เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญตามกระแสความคิดที่พ่อเคยคิดไว้ ว่าควรจะขยายเส้นทางกระบวนแห่ ซึ่งพ่อคิดไว้ตั้งแต่ปีพ.ศ. ๒๕๒๓
การประกาศเปลี่ยนเส้นทางของวัดแขกสีลมในครั้งนี้ เหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางหว่างหัวใจของพวกสัญชาติกระเทยเลว(ไม่หมายถึงกระเทยที่ดี) ที่ชอบสร้างปมเด่นลบล้างปมด้อยของตัวเอง ด้วยการแสดงตนเป็นเจ้าแม่กาลีส่งเสียงร้องกรี๊ดกร๊าด เป็นฅนไทยแต่ดัดจริตนุ่งห่มส่าหรีแปลงสัญชาติลืมส้นตีนที่ตนยืน ตั้งโต๊ะแสดงฤทธิ์อวดปาฏิหาริย์หาศานุศิษย์ใหม่เข้าสำนัก ไม่เป็นที่น่าเจริญตาเจริญใจต่อผู้พบเห็นเลย จนเป็นที่ขึ้นชื่อลือชาว่า “ ถนนปั้นเป็นถนนของกระเทยทรงเจ้าเข้าผี ”
ในที่สุดพลังเหนือโลกท่านก็ทนไม่ไหว สั่งกำจัดกระเทยเหล่านั้นให้ออกพ้นถนนหน้าวัดแขกสีลม อันเป็นถนนมงคล เรื่องนี้พ่อปรารภกับกลุ่มกินรีมาหลายปีแล้วว่าให้ออกจากถนนปั้นเสีย เลิกตั้งโต๊ะ เลิกตกอยู่ใต้อำนาจของพวกกระเทยเลวๆ เสียทีแล้วชีวิตจะเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นในเร็ววัน
ปีนี้อีกเช่นกัน พ่อประกาศบนเรือนว่าถ้าใครจะไปตั้งโต๊ะที่ถนนปั้นรับความอัปมงคลอีกปล่อยให้มันไป แต่พวกเอ็งออกให้พ้นวงโคจรนี้เสียที จะไปตามมันทำไม ผล หนูมาม่าตัวแม่ยื่นคำขาดกับลูกทีมว่าปีนี้ใครอยู่ก็อยู่ แต่กูไปแล้วเพราะเชื่อพ่อ แล้วประกาศทางวัดแขกสีลมก็ออกมาตามหลังคำสั่งพ่อ
พร้อมน้อบรับคำสั่งปรับแต่งวิธีการจัดตั้งโต๊ะเสียใหม่ ให้ถูกต้องตามประเพณี ไม่ตกเป็นทาสฟังคำสั่งของไอ้แขกดำต่อไป
สวัสดี มีอะไรที่ไม่ได้เขียนอีกมากมาย
ศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ
๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๕