simple โพสต์เมื่อ 12-2-2010 10:38

ประวัติครูบาธร(พระครูใบฎีกากำธร กิตติโสภโณ)

เดิมชื่อกำธร กาวี เกิดเมื่อ ๔
กย. พศ.๒๕๑๔ เป็นบุตร นางบัวแก้วและพ่อหนานรัตน์ กาวี ชาวบ้านหนองแขม
ผู้เป็นศิษย์ของครูบาแก้ววัดปากร้อง เกจิดัง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน
พ่อเสียชีวิตลงตั้งแต่ท่านอายุ๓ ขวบ ดช.ธร
ในสมัยนั้นเกิดมาในตะกูลหมอเมืองรักษาคนมาตลอด
เนื่องจากปู่เป็นหมอไสยศาสตร์และยาโบราณโดยเรียนมาจากเจ้าน้อยแสนคำ
พระเวทย์ต่างๆได้ของตะกูลได้สืบทอดมาถึงดช.ธร
อย่างไม่รู้ตัวเนื่องจากในขณะที่ยังเล็กนั้นพ่อแม่ต้องออกไปทำการเกษตรทิ้งท่านไว้ให้ปู่เป็นคนเลี้ยง
จนกลายเป็นหลานรักของปู่ขนาดพ่อแม่ว่ายังไม่ได้เพราะปู่จะห้าม
การที่ท่านได้อยู่กับปู่นั้นทำให้ท่านได้เห็นปู่ใช้ไสยศาสตร์คาถาอาคมสงเคราะห์คนตลอดตั้งแต่จำความได้
พิธีการต่างๆคาถาทุกๆบทถูกซึมซับเข้าสู่ความจำของเด็กน้อยอย่างรวดเร็ว
การเรียนสมาธิจิตก้าวหน้าเกินผู้ใหญ่ไปไกลเพราะเด็กเล็กมีจิตใจสะอาดบริสุทธิ์และสมองอยู่ในระยะจดจำเรียนรู้
ทำให้เมื่อท่านอายุ๕ ขวบปู่จึงให้เริ่มปัดเป่ารักษาคนซึ่งก็ได้ผลดี
ส่งผลให้ดช.กำธรกลายเป็นเด็กเหนือธรรมดาและเป็นอีกที่พึ่งหนึ่งของชาวบ้าน
แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้เด็กชายกำธร
มีวิถีการดำเนินชีวิตที่ผิดแปลกไปคือไม่ชอบเรียนหนังสือเหมือนเด็กอื่นๆ
จนกระทั่งปู่เสียชีวิตลงดช.ธรจึงได้บวชลูกแก้วเป็นสามเณรเมื่ออายุ๑๒ปี ณ.อุโบสถ
วัดหนองแขมมีพระครูวิบูลย์วิหารกาวัดเวฬุวนาราม สันป่าตอง เป็นอุปัชฌาย์
โดยบวชแล้วไปอยู่กับครูบาบุญทาปัญญาวุฒิโท
ตุ๊ลุง(ญาติข้างแม่)ผู้เชี่ยวชาญโหราศาสตร์วัดหลักพัน อ.สันทราย
ช่วงที่อยู่กับตุ๊ลุงนั้นท่านพาเณรธรไปฝากเรียนหนังสือตามโรงเรียนโดยเรียนรวมกับเด็กปกติทั่วไป
เณรธรมิอาจขัดได้ทั้งๆที่ใจไม่ชอบท่านเลยไปตามใจตุ๊ลุงแต่ไปโรงเรียนละวัน
เปลี่ยนไปหลายโรงเรียนจนตุ๊ลุงเริ่มท้อ
ในที่สุดตุ๊ลุงและญาติๆเริ่มคิดว่าท่านเป็นเณรไม่เหมือนเด็กอื่นจึงอายที่จะเรียนร่วมกัน
จึงให้ท่านสึกออกมาเมื่ออายุ๑๕ ปี
แต่ความจริงญาติๆไม่รู้ว่าที่เณรธรไม่อยากเรียนหนังสือนั้นเพราะท่านชอบที่จะเรียนพระเวทย์มากกว่า
มีเวลาครั้งใดท่านต้องเที่ยวไปเสาะหาหนานแก่ๆต่อคาถาอาคม
ระหว่างที่สึกจากเณรมานั้น
ท่านก็ยังไม่ไปเรียนหนังสือต่ออยู่ดี
เพราะวันๆหนึ่งได้แต่ศึกษาวิชาอาคมกับรักษาสงเคราะห์ชาวบ้านที่มาพึ่งเด็กหนุ่มวัยรุ่นผู้เรืองอาคมอย่างท่าน
จนขนาดสวยดอก(กรวยดอกไม้ธูปเทียนที่ผู้มาหานำมาบูชาครู)เสียบเต็มชายหลังคาบ้าน
กระทั่งอายุ๑๘ ย่าง ๑๙ ปี
วัดหนองแขมล้างพระจำวัด เหลือเณรเพียงรูปเดียวกำลังจะสึกอีกต่างหาก
ชาวบ้านและพ่อหลวง(ผู้ใหญ่บ้าน)จึงรวมตัวกันมาขอร้องให้ท่านบรรพชาไปรักษาวัด
ทำให้ท่านไม่อาจปฏิเสธได้จึงทำการบวชเณรอีกครั้งและบวชพระในเวลาต่อมาเมืออายุครบ
๒๐ เป็นพระอยู่ ๑ ปีได้สึกไปเป็นทหารรับใช้ชาติ
จนปลดจากทหารพระครูอาทรตันติธรรมเจ้าคณะตำบลและชาวบ้านจึงไปรับกลับมาบวชในปี
พศ.๒๕๓๗กระทั่งปัจจุบัน

simple โพสต์เมื่อ 12-2-2010 10:39

ประวัติการเรียนวิชาอาคม

นอก จากวิชาอาคมสายเจ้าน้อยแสนที่สืบมาจากปู่และคาถาอาคมที่ต่อมาจากหนานอุ๊ย ต่างๆแล้ว ครูบาธรท่านยังร่ำเรียนจากครูบาอาจารย์ต่างๆดังนี้

1. พ่อหนานปัน บ้านสบทา ป่าซาง ลำพูน เรียนหัวใจพระรอด แก้ ของรักษาคน
2.พ่อหนานเจริญ บ้านสันทราย สันป่าตอง เชียงใหม่ เรียนกำแพง๗ชั้น ๙ยอด
3.พ่อหนานแก้ว เมือง๑๒ ปันนา เมืองจีน เรียนสักยันต์ว่านยา กลองสะท้อน ๙ ยอด หัวใจอ้ายงั่ง วีคำ
4.พ่อหลวงสุข บ้านแม่ปู ดอยเต่า เชียงใหม่ เรียนแก้ของ
5.พ่อ หนานจัน บ้านทุ่งปุย ดอยหล่อ เชียงใหม่ เรียนวิชาทั้งหมดของท่าน แต่ที่โดดเด่น คือ แมงวันคำ กับ เสือ ๗ ป๊อด(ชิ้น)หรือเสือแยกร่างนั่นเองแต่ถ้ารวมเป็นร่างเดียวกันจะแรงมาก หากจะสัก คนที่รับการสักต้องคาบเนื้อและต้องสักในป่าช้าจะขลังมากแต่ขณะเดียวกันการ ถือของวิชานี้ก็มีข้อห้ามมากมายเช่นกัน พ่อหนานจันนี้เป็นหลานครูบาอิน วัดฟ้าหรั่ง เป็นผู้อยู่เบื้องหลังทำตะกรุดกาสะท้อน และทำวัตถุมงคลหลายๆอย่างส่งให้ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่งและครูบาดวงดี วัดท่าจำปี และพ่อหนานจันนี้เป็นลุงเขยของครูบาธรจึงได้ถ่ายทอดเคล็ดวิชาเต็มๆที่ทำได้ผลให้อย่างไม่ปิดบังเพราะเป็นญาติกันไม่ต้องกลัวศิษย์ล้างครูจึงไม่บังวิชาไว้ ให้แบบเต็มๆ โดยเฉพาะวิชาแมลงวันคำ ที่ครูบาธรทำได้ผลเป็นที่ประจักษ์มาตลอด
6. พ่อน้อยมูล บ้านหนองห้า สันป่าตอง เชียงใหม่ เรียนแผงยันต์เตียนปารมี๓๐ทัศ ของครูบาเจ้าศรีวิชัย ที่ครูบาวงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้มใช้อยู่ก็มาสืบไปจากพ่อน้อยมูลนี้เนื่องจากพ่อน้อยมูล เป็นผู้สืบทอดมาจากครูบาศรีวิชัย
7. พ่อน้อยเจย บ้านดงขี้เหล็ก สันป่าตอง เชียงใหม่ เรียนไล่ผี
8. พ่อน้อยเป็ง กะเหรี่ยงบ้านปง แม่ทา ลำพูน เรียนวิชาอิ่นแต่งงาน
ลุงปะระ กะเหรี่ยงบ้านแม่ตื่น อมก๋อย เชียงใหม่ เรียนสักว่านยาเมตตา
9. ครูบาจันติ๊บ วัดไชยชนะ เมือง ลำพูน เรียนกรรมฐานและวิชาของครูบาชุ่ม วัดวังมุย ทั้งหมดเพราะครูบาจันติ๊บเป็นศิษย์เอกผู้ลงตะกรุดกาสะท้อนแทนครูบาชุ่มในยุค แรกๆ
10. ครูบาคำ สุสานไตรลักษณ์ แม่วาง เชียงใหม่ เรียนกรรมฐาน
11. ครูบาโสภา วัดสันคะยอม แม่วาง เชียงใหม่ เรียนกะปุ๋งแก้วจากปั๊ป

และอ.ท่านอื่นๆที่ยังมิได้นำมากล่าวถึง ณ.ที่นี้อีกหลายท่านหลายวิชาซึ่งจะได้ค้นคว้ารวบรวมมาเพิ่มเติมต่อไป

simple โพสต์เมื่อ 12-2-2010 10:42

ที่มา : http://board.palungjit.com/


วัตถุมงคลที่ครูบาธรจัดสร้าง    กลองสะท้อน

http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=795956&d=1260591422

รายละเอียดกลองสะท้อนค่ะ
http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=795967&d=1260591991
ท่านลงอักขระยันต์ ตามวิชาที่ร่ำเรียนมาแล้วม้วนสอดเป็นแกนกลางค่ะ

http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=796245&d=1260613705

ความเป็นมาและพุทธคุณ
ตะกรุดกาสะท้อน(กันสะท้อน)ของล้านนาในยุคปัจจุบัน ปริวรรตมาจาก
ตะกลุดกลองสะท้อนของแคว้นสิบสองปันนา ที่ลูกกลองทำจากไม้ลมแล้งตายพรายนำมาแกะและเจาะรู จากนั้นนำแผ่นโลหะลงอักขระคาถากันสะท้อนม้วนบรรจุลงภายในปิดทับด้วยชันโรงใต้ดินโดยทุกขั้นตอนมีคาถาเสกกำกับ จากนั้นเสกหนุนธาตุ108 คาบ ปิดแผ่นทองเสริมสิริมงคลตำราว่าไว้ใช้ทางมหาอำนาจข่ามคงกันและแก้การปองร้ายจากศัตรูที่จะมาทำร้ายเราไม่ว่าด้วยวิธีใด
ทำคูณไสยใส่ความกลั่นแกล้งหรือกระทั่งใช้อาวุธทำร้ายให้สะท้อนกลับไปโดนตัวผู้ทำส่วนผู้บูชาตะกรุดกลองสะท้อนกลับดีขึ้นเปรียบเหมือนการตีกลองไม้ที่ตีลงกลองไม่เจ็บยิ่งตีกลองยิ่งดังส่วนไม้ที่ตีจะสะท้อนกลับมาทางคนตี




คาถาบูชาตะกรุดกลองสะท้อน
( ตั้งนะโม 3 จบ ) โมก ขะ วา ตัง วะ ขะ สะ วัง มิ ( 3 จบ)

kaineverdie โพสต์เมื่อ 12-2-2010 13:12

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆแบบนี้    :victory:

wongrad โพสต์เมื่อ 12-2-2010 14:38

สุดยอดเลย....กั๊บ...ไปเอาตี้ไหนมาเนี่ย...{:3_59:}

cho โพสต์เมื่อ 17-2-2010 14:11

แก้ไขล่าสุด cho เมื่อ 17-2-2010 14:12

คนดี ยิ่งตียิ่งดัง.. ขะไจ๋เวย เวย.. เอามาฝากกำเลาะ

Gern.Naraphat โพสต์เมื่อ 17-2-2010 16:25

+555+พี่โชอู้เมืองครับ
"คนดีอยู่ที่ไหนก็มีแต่รุ่งเรืองขออนุโทนาครับ"

simple โพสต์เมื่อ 17-2-2010 16:45

เจ้านายฝากมาบอกว่า "อู้บ่จ้าง"

wongrad โพสต์เมื่อ 17-2-2010 18:00

แหม...ขนาดอู้บ่จ่างหนา..อู้เอาๆๆๆๆๆๆบ่อู้ภาษากลางเลยเน้อ...{:3_51:}

simple โพสต์เมื่อ 18-2-2010 07:44

หมายถึง อู้ไม่จ้าง ไล่ออกสถานเดียวไงค่ะ

wongrad โพสต์เมื่อ 21-12-2011 10:41

สรีระร่างครูบากำธร วัดสันคอกช้าง(คิดถึง)ตุ๊ลุงขนาด...

Sutep โพสต์เมื่อ 21-12-2011 10:50

กราบครูอาจารย์ครับ ผมเป็นศิษย์ท่านอีกคนหนึ่งครับ แมงวันคำ หัวใจมนุษย์ กะหมูขอดเขี้ยวตัน ติดกายทุกวันนี้

wongrad โพสต์เมื่อ 21-12-2011 10:53

{:8_179:}{:7_137:}

pungkung โพสต์เมื่อ 21-12-2011 11:38

{:8_165:}{:8_165:}{:8_165:}

poseidon โพสต์เมื่อ 21-12-2011 12:57

http://image.ohozaa.com/i/d23/v8XuV.gifhttp://image.ohozaa.com/i/5a8/Ylzhy.gif
หน้า: [1] 2
ดูในรูปแบบกติ: ประวัติครูบาธร(พระครูใบฎีกากำธร กิตติโสภโณ)