เมืองเสน่ห์กาหลง มหาเสน่ห์ มหาเมตตา มหานิยม
Khalong Amulet
ซ่อนแถบด้านข้าง

ปรมาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง ฆราวาสมหาเสน่ห์ผู้ทรงฤทธิ์ เจ้าของตำนานพิธี 'ประสะเลือด'

[คัดลอกลิงก์]
Apirut โพสต์เมื่อ 20-7-2010 19:45 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
อืม.............อ่านเพลินเลยครับ..น่าติดตาม ถ้าได้คุยกับเมียท่านเล่าให้ฟังด้วยนะครับ
ตัวเลขทั้ง 7 ในเบอร์มือถือ สามารถบ่งบอกนิสัยตัวตนของผู้ใช้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ อย่ารอให้ชีวิตคุณดีก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนเลขมือถือให้ดี คุณต้องเปลี่ยนเลขดีก่อน ชีวิตคุณถึงจะดี!! ตัวเลขเสียๆ มักดึงดูดพลังงานเสียๆ เข้ามาทำให้เราผิดหวังในชีวิต ตรงกันข้าม ตัวเลขดีๆ มักดึงดูดพลังงานด้านดีๆ เข้ามาในชีวิต ผนวกกับบุญกรรมเก่าของแต่ละคนว่าจะไปสุดที่ตรงไหน เลขบางตัวเหมาะกับคนหนึ่ง แต่เป็นเลขเสียกับอีกคนหนึ่ง ศาสตร์พลังงานเลขมือถือ บางส่วนอิงจากโหราศาสตร์ไทย บางส่วนมาจากการเก็บสถิติ ศาสตร์เลขมือถือต้องใช้ความเชี่ยวชาญ ในการวางตัวเลขมือถือให้เหมาะสม หลายคนเมื่อทราบผลการวิเคราะห์เบอร์มือถือของตนแล้วว่า ดี ร้าย อย่างไร แต่ยังพร้อมยอมทนใช้อยู่ ไม่รู้ทำไม เหตุผลง่ายนิดเดียว "เพราะทุกคนมีกรรมเป็นของตน" เมื่อถึงเวลา ฟ้าจะเปิดทางให้ท่านเปิดใจรับเรื่องมงคลดีๆ เข้ามาเสริมความรุ่งเรืองชีวิตท่านเอง จงจำไว้ ดวงคนเลือกเบอร์มาใช้เอง เบอร์ใครเบอร์มัน ไม่ซ้ำกัน หากท่านศรัทธาในศาสตร์พลังตัวเลขแล้ว ขออย่าลังเล หรือสงสัย อย่ารีรอทนใช้เบอร์เสียๆ เพื่อดึงดูดเรื่องร้ายๆ มารอเพื่อส่งผลแล้วค่อยเปลี่ยนเบอร์มือถือ วันนี้ คุณมีทางเลือกใช้ชีวิตแบบติดเทอร์โบได้ มัวช้าอยู่ทำไม? บริการวิเคราะห์เบอร์มือถือ วางเลขมงคล เรื่องการงาน การเงิน ความรัก โทร 09ุ ุ42282289 LINE ID: cholvibul
notejazzpianist โพสต์เมื่อ 20-7-2010 23:40 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ตอบกลับ 11# cho

สุดยอดเลยครับพี่โชว ถ้าได้ข้อมูลยังไงก็เก็บมาเล่าให้น้องๆฟังบ้างนะครับ
อยากมีมั่งจังฮี่ๆๆๆแต่ไม่เอาเด็กนะ มันอ่อนประสบการณ์ขี้เกียจสอนฮ่าๆๆๆๆ
Siriya โพสต์เมื่อ 21-7-2010 02:39 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
KongkrapuN โพสต์เมื่อ 21-7-2010 11:21 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
สวนตัวผมเป็นคนหนึ่ง ที่ศรัธา อ ฟ้อน มาก ก่อนอื่นต้องท้าวความก่อน ผมเป็นคนไม่ค่อยชอบ สายเสน่ห์ เลย
ผมชอบเล่นพระเครื่องส่วนใหญ่ ผมจะเล่น สายพ่อท่านคล้าย เเละ หลวงปู่สี หลวงพ่อทบ หลวงพ่อเขียน เป็นหลัก
เเละอื่นเป็นต้น การใช้พระเครื่อ ของพ่อท่านคล้าย เเละหลวงปู่สี ของผมทำให้ชิวิตทำงานในราชการของผม (ช่างศิลป)
ประสบความสำเร็จเกินขาด มาก จากเด็กตัวเล็กคนหนึ่งในตำเเหน่ง พนักงานคีย์ข้อมูล 1 ปีผ่านไปตอนนี้ ผมได้รับตำเเหน่ง
(คณะกรรมการปฎิรูปสื่อเเห่งชาิติ) สิ่งนี้ทำให้ผมรู้ว่าครู บาอาจาร์ย ช่วยเราเสมอ ครับ




ขอจบเรื่องพระเครื่องไว้เเค่นี้ก่อนนะครับ ส่วนเรื่องเครื่องลางสายเสน่ห์นั้นผมไม่เคยชอบสักเท่าไหร จนวันหนึ่งผมได้พอกับ
บรมอาจาร์ยพระเครื่อง (พ่อใหญ่) เข้าเนะนำให้ผมรู้จัก อาจาร์ยฟ้อน ดีสว่าง ซึ่งผมถามในใจว่า ฆารวาส หรือ จะสู้พระได้
เเต่พอได้รับฟังเรื่องเล่า ของท่านเเล้วรู้สึกศรัทธา มากเลยที่เดียว เเละ ผมก็ตามหา อาจาร์ยฟ้อนมาใช้ พอได้ของท่าน
มาใช้ ติดตัว เเล้วอธิทานขึ้นคอ บอกท่านว่า ถ้าท่านมีจริงขอให้ ลูกมีเสน่ห์ ต่อเพศตรงข้ามหรือเพศเดียวกัน ด้วยเถิด เเละ
เเล้วก้อเกิดเรื่องเเปลก ขึ้นจนได้ ผมจบศิลป์มาเป็นคนไม่คอยชอบตัดผม ซักเท่าไหร่ตามภาษาเด็กศิลป ชอบเเหวกเเนว
วันนั้นเดินอยู่โลตัสบางกะปิ เชื่อมะผมเดินผ่านร้านตัดร้านผม อยู่ร้านเดียว ทั้งวันเกือบ 10 รอบ เลยถามในใจตัวเองว่า
วันนี้กู ต้องเสียผมที่กูรักเเละไว้มานาน เกือบ 3 ปีั เเล้วหรือนี้ เลยยอมตัดใจ ตัดผมตัวเอง โกนหนวดโกนเครา
วันรุ่งขึ้นต้องตื่น ไปทำงาน คุณเชื่อมะ ผมเดินไปทำงาน ตั้งเเต่หน้าหมู่บ้าน ยั่นที่ทำงาน ชั้น 1-7 มี่เเต่คนชมว่าผม หน้าตาดี หล่อ ไม่เพียงเเต่ผู้หญิงที่ชมผมเท่านั้น ผู้ชายทั้งเเท่งยังชมผมว่าโคตรหล่อเท่ โคตร ๆ ทำให้ผมเชื่อ ว่าเป็นเพราะอาจาร์ยอาจาร์ย ฟ้อน เเน่เเล้ว เเล้ว ยังลองของอีกไปว่า ถ้าพ่อฟ้อนมีจริง ขอให้สาวคนนั้น เดินตามผมมาด้วยเถิด....... เเละเเล้วเขาก้อเดินตามผมมาจริง.....เเต่ไม่ขอเล่าต่อว่าเกิดไรขึ้น....





เเละนี้คือประสบการ์ณจริงของผม เพราะลองศึกษา หลายตำรา อาจาร์ยฟ้อนมีจริง
เเละศิดท่านยุคนี้ก้อมีจริง วิชา ประสะเลือด ก็ยังมีสือทอดกันอยู่ ครับ
ส่วนตัวผมคิดกับ อาจาร์ยฟ้อน ว่าท่านไม่ใช้พราย ไม่ใช้ขุนเเผน ไม่ใช้ผี
เเต่ ท่านคือ ครูบาอาจาร์ยที่ยังมีลมหายใจ ตลอดเวลา(เสมอ)
ด้วยความเครพ ...................... ไม่ผก ผี ผก พราย ผก ขุนเเผน ก็เเรงได้
Samudaiya โพสต์เมื่อ 21-7-2010 12:15 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
เรื่องราวดีๆๆๆ

มากมาย

จากเจ้าเมือง

น่าอ่านทุกเรื่อง
บอส ดินแดง โพสต์เมื่อ 22-7-2010 10:14 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
เมื่อวานนี้....ผมได้ไปเยี่ยม ซึ่งอาจารย์ท่านเป็นศิษย์สายอ.ฟ้อน

เรียนวิชามาจากท่านอ.คุณหมอประยูร  ครับ ก็คุยกันเรื่องท่านอาจารย์ฟ้อน

เลยถามท่านว่า แล้วเวลาอ.ฟ้อน ใช้คาถาสบตาเนี่ยท่านใช้ยังงัย อะครับ

ท่านเลยตอบมาว่า ใช้ในทางไหนละมีสบตาแบบเมตตามหานิยม และสบตาแล้วพาไปนอน

ผมเลยบอกว่า ส่วนใหญ่ท่านอาจารย์ฟ้อน จะใช้สบตาแล้วพาไปนอน

ท่านก็ตอบมาว่า คาถาสั้น ๆง่าย ๆมีนิดเดียว คือ......!$!$#%!#$.....

แต่ส่วนใหญ่ลูกศิษย์ท่านอาจารย์ฟ้อนบางคน ก็ใช้คาถาเป่าที่มือแล้วเดินเข้าไปจูง เลย

บางคนก็เชี่ยวชาญวิชาเอาหวีมาเสกด้วยคาถา แล้วเอาหวี ๆที่ผมไปคืนนั้นเป็นกลับบ้านเช้า


อาจารย์ที่ผมไปหาท่านบอกว่า ปัจจุบันนี้ไม่มีใครทำได้เก่งเท่าอาจารย์ฟ้อน พลังจิตท่าแกร่งมาก

ซึ่งการที่จะใช้คาถาของสายท่านอาจารย์ฟ้อน นั้นจะต้องเข้าทำพิธีบูชาครู ด้วยการสักกระหม่อม

ซึ่งปัจจุบันก็มีในหมู่ลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ฟ้อน ที่จะนัดกันมาทำพิธีบูชาครูด้วยการตอกเพดานปาก

แล้วเอาเลือดมาผสมน้ำมันงา สักลงที่กระหม่อมแทนการกรีดหัว ส่วนใหญ่มักจะจัดกันช่วงลอยกระทง ครับผม

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1รัก +30 ย่อ เหตุผล
admin + 30

ดูบันทึกคะแนน

Jay โพสต์เมื่อ 22-7-2010 12:24 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
เมื่อวานนี้....ผมได้ไปเยี่ยม ซึ่งอาจารย์ท่านเป็นศิษย ...
ต้นฉบับโพสโดย บอส ดินแดง เมื่อ 22-7-2010 10:14



   
kaineverdie โพสต์เมื่อ 22-7-2010 13:29 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
เมื่อวานนี้....ผมได้ไปเยี่ยม ซึ่งอาจารย์ท่านเป็นศิษย ...
ต้นฉบับโพสโดย บอส ดินแดง เมื่อ 22-7-2010 10:14



    แล้วไม่บอกคาถาให้มั้งหรือครับ ถึงไม่ได้ครอบครูก็จำไว้ก็ยังดี
dark โพสต์เมื่อ 22-7-2010 21:45 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
เมื่อได้อ่านเรื่องของอาจารย์ฟ้อน ทำให้นึกถึงปรมาจารย์จอมขมังเวทย์ในสายเหนือขึ้นมาท่านหนึ่ง ท่านคือ...พ่อหนานวรรณ หรือพ่อหนานสุวรรณ มณีสีแสง ฆราวาสผู้มีวิชาอาคมขลังที่สุดในยุคหนึ่ง ถึงขนาดที่ว่าท้าให้ฝรั่งเอาดาบซามูไรคมกริบฟัน แต่ก็หาระคายผิวของท่านไม่ และแม้แต่ในเรื่องทางเสน่ห์นั้น ท่านก็มีเมียสาวรุ่นเด็กเอ๊า ๆ อยู่มากมาย...อาจารย์ท่านหนึ่งเคยเล่าให้ผมฟังว่า...มีอยู่คราวหนึ่งพ่อหนานวรรณและลูกศิษย์ได้ไปยังที่แห่งหนึ่งซึ่งมีฝรั่งพลุกพล่าน จู่ ๆ ท่านก็บอกกับลููกศิษย์ว่า...จะให้นังแหม่มคนนั้นมาหอมแก้มท่านให้ได้ แค่แป๊บเดียวเท่านั้น ฝรั่งสาวคนนั้นเดินเข้ามา...แล้วก็หอมแก้มของท่าน แล้วเดินจากไปแบบงง ๆ นี่แหละครับปรมาจารย์จอมขมังเวทย์ของจริง...ที่เคยมีชีวิตอยู่จริงบนแผ่นดินล้านนา.
dark โพสต์เมื่อ 22-7-2010 22:25 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขล่าสุด dark เมื่อ 22-7-2010 22:29

ส่วนอาจารย์ฆราวาสอีกท่านหนึ่ง ค่อนข้างอยู่ไม่ไกลจากตัวผมนัก...เพราะท่านเป็นเพื่อนกับคุณลุงแท้ ๆ ของผมเอง ท่านชื่อ ลุงหนานทร...เจ้าตำรับวิชาสาริกาลิ้นทองเลือด หนานทรนั้นท่านเป็นลูกศิษย์ลูกหาที่เคยบวชและศึกษาวิชาอาคมกับหลวงปู่ครูบาคำแสน วัดป่าดอนมูล อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เมื่อเอาดีทางธรรมไม่ได้ ท่านจึงเลือกสึกออกมาเป็นอาจารย์ฆราวาสทางไสยศาสตร์ หนานทรเป็นคนที่เชื่อมั่นและศรัทธาในวิชาอย่างสุดโต่ง จึงทำให้ถือวิชาอาคมได้ขลังและแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฎิหาริย์ได้จริง ในสมัยหนุ่ม ๆ เวลามีงานวัดนั้น ด้วยความคึกคะนองของวัยรุ่นนักเลง โดยเฉพาะพวกจิ๊กโก๋บ้านนอกแถวสันกำแพง ย่อมมีการผิดใจชกต่อยกันอยู่บ่อย ๆ เพราะยึดถือเรื่องศักดิ์ศรีของหมู่บ้านเป็นหลัก เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เกิดเรื่องทะเลาะชกต่อยกันอย่างชุลมุน หนานทรโดนรุมยำ 10 ต่อ 1 แต่ก็เกิดเรื่องน่าเหลือเชื่อก็คือ ทุกครั้งที่หนานทรล้มกลับลุกดีดผึงขึ้นมายืนไำด้เอง แล้วเข้าไปชกต่อยอีกได้โดยไม่บาดเจ็บใด ๆ เลย จนสุดท้ายแม้แต่คน 10 คนยังยอมแพ้ เพราะตียังไงหนานทรก็ไม่ล้ม ยิ่งโดนตียิ่งเก่ง ยิ่งแรงมากขึ้น ลุงของผมบอกว่าหนานทรมีวิชาหอระมาน(หนุมาน) และวิชาลิงลม...เมื่อหนานทรถือวิชาอย่างเคร่งครัดมากขึ้น จึงทำให้มีหลายครั้งที่เกิดอาการร้อนวิชา...มีอยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อลุงของผมไปเยี่ยมหนานทรที่บ้าน เห็นแกยืนเปลือยอยู่บนจั่วหลังคา โดยบ้านของทางล้านนานในแถบชนบทนั้นจะมุงด้วยหญ้าคาหรือไม่ก็มุงด้วยใบตองตึง จึงยากที่ใครจะไปยืนได้ง่าย ๆ โดยไม่ตกทะลุหลังคา...แต่หนานทรทำได้ แถมเดินไปเดินมายังกะเดินบนพื้นซีเมนต์ พอลุงของผมทักแก...เสี่ยว...เท่านั้นแหละ แกกลิ้งลงมาจากหลังคาตกไปทางหลังบ้าน เอาหัวกระแทกกับก้อนหินใหญ่ดัง...ตุ๊บ...(จินตนาการว่ากำลังทุบแตงโม) เพราะบ้านแกอยู่ติดกับลำธาร จึงมีโขดหินใหญ่เยอะมาก ลุงของผมรีบวิ่งไปดู คิดว่าคงซี้แหง ๆ แน่เลย แต่พอไปถึงกลับเห็นหนานทรนั่งเกาหัวอยู่แกรก ๆ ไม่เป็นอะไรเลย...หนานทรนั้นอาชีพอย่างเดียวของแกก็คือ รับทำไสยศาสตร์เท่านั้น ไม่ทำอาชีพอย่างอื่นอีกเลย เพราะเป็นคนเคร่งวิชากลัวทำผิดครู...และต้องยอมอยู่อย่างยาจก จะอยู่อย่างสุขสบายไม่ได้เด็ดขาด เคยมีหลายครั้งที่ลูกศิษย์นำโทรทัศน์ ตู้เย็น และเครื่องใช้ไม้สอยที่ทันสมัยอย่างดี มีราคาแพงมาถวายท่าน แต่ท่านก็รับเอาไว้ใช้เองไม่ได้ เพราะครูของท่านจะมายืนชี้หน้าด่า จนทำให้ท่านต้องจำยอมเอาไปถวายวัดหรือไม่ก็โรงเรียนแทน...บางครั้งหิวบุหรี่จัด ๆ ต้องเอาบุหรี่เก่า ๆ ในขันครูมาชุบน้ำแล้วจุดสูบพอบรรเทาความอยากก็มี และหากยากจนสุด ๆ จนไม่มีอะไรจะยาไส้แล้ว ท่านก็จะบอกกล่าวกับครูผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้...และภายในวันนั้นต้องมีคนมาหาท่าน ให้ท่านช่วยเหลืออย่างแน่นอน ส่วนใหญ่ท่านมักจะรับแก้ปัญหาเรื่องเกี่ยวกับการทำเสน่ห์และผัว ๆ เมีย ๆ ของชาวบ้าน โดยเฉพาะพวกบรรดาคุณหญิงคุณนายทั้งหลายนั้น หากมาหาหนานทรให้ช่วย รับรองไม่เคยพลาดแม้แต่รายเดียว...ท่านแน่จริง ๆ เรื่องเหล่านี้ โดยเฉพาะวิชายันต์เทียน...

และหากจะกล่าวถึงเรื่องวิชาทางเสน่ห์นั้น ท่านมีผู้หญิงมาให้เอา XXX ไม่เคยขาด ชนิดที่ว่าบางวัน 3-4 คนเลย ก็เคยมีอยู่บ่อย ๆ เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อหนานทรไปกับลุงของผม ด้วยความอยากลองดี ลุงของผมจึงแกล้งท้าหนานทร โดยชี้ไปที่ผู้หญิงหน้าตาดีมาก แต่งตัวสวยหรูคนหนึ่ง ว่าเสี่ยวทำให้ผู้หญิงคนนี้ยอมไปให้ XXX ได้ก่อ...หนานทรจึงรับคำท้าว่า...ตอนเย็นวันนี้ ให้สูไปรอดูที่บ้านฮาได้เลย (ขอเอาซับคำเมืองผสมคำไทยให้พอได้อรรถรสบ้างนะครับ) พอตอนเย็นลุงของผมไปดูที่บ้านหนานทรก็เห็นผู้หญิงคนนี้ไปอยู่ที่บ้านหนานทรเรียบร้อยแล้ว...ลุงของผมเล่าว่า หนานทรมีวิชาดีอยู่อย่างหนึ่งซึ่งเด็ดขาดมาก ก็คือ...สาริกาลิ้นทอง เพราะเมื่อหนานทรใช้วิชานี้ลิ้นก็จะเริ่มแดงก่ำดังทาเลือดไว้เลย...และเมื่อได้พูดกับสาวคนไหน...รับรองไม่เคยพลาดแม้แต่รายเดียว ส่วนในเรื่องของวิชานั้น ลุงของผมท่านบอกว่าได้สืบจากหนานทรมาแค่คาถาเดียว...เมื่อซัก 2 ปีก่อนพอดีผมอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ตอนที่ลุงของผม ท่านไปบ่อนชนไก่บ้านออน (บ่อนไก่ชื่อดังในอำเภอสันกำแพง) แต่ไม่มีเงินจะแทงพนัน ท่านก็เลยใช้คาถาแล้วไปขอยืมเงินใครก็ไม่รู้ ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ได้มาตั้ง 500 บาท พอไก่ชนเสร็จก็ไม่รู้จะไปชดใช้คืนให้ใคร...เพราะจำไม่ได้แล้วและไม่รู้จักด้วย

ปัจจุบันหนานทร ท่านเสียชีวิตได้หลายปีแล้ว ด้วยโรคยอดฮิตในปัจจุบัน ซึ่งคนสมัยก่อนตามไม่ทัน พอรู้ตัวอีกทีก็สายเกินไปซะแล้ว...หรือจะเรียกว่าเพราะกรรมตามทันก็ไม่รู้ ส่วนวิชาอาคมของท่านนั้น เมื่อท่านเสียชีวิต หลานของท่านได้มาสืบเอาปั๊บสาไป แล้วตั้งสำนักได้ซักพักหนึ่งก็ล้มเลิกไป เพราะถือวิชาได้ไม่ขลังเท่าหนานทรผู้เป็นลุง ทำให้วิชาเหล่านั้นได้สูญหายไปจนตามหาไม่เจอแล้ว...ศรัทธาเกิด ปาฏิหาริย์เกิด เพราะศรัทธาสร้างปาฏิหาริย์ได้เสมอ.   
dark โพสต์เมื่อ 22-7-2010 22:48 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขล่าสุด dark เมื่อ 22-7-2010 23:07
ตอบกลับ  cho

สุดยอดเลยครับพี่โชว ถ้าได้ข้อมูลยังไงก็ ...
ต้นฉบับโพสโดย notejazzpianist เมื่อ 20-7-2010 23:40


- อันนี้ขอค้านนะครับ เพราะเด็กบางคนนั้น คงจะเป็นเด็กแค่ตัว แต่เรื่องประสบการณ์เนี่ย...พี่ไม่ต้อง น้องทำเองเลย...สมัยนี้อ่ะนะ พัฒนาการมันติดไปไฮสปีดนะครับ ทุกวันนี้ยังต้องมานั่งน้ำตาตก เพราะไปหลอกเด็กหรือโดนเด็กหลอกหว่า สงสัยจะแบ่งหุ่นส่วนกันคนละครึ่งมั้งครับ เพราะตบมือข้างเดียวนั้นก็คงจั่วแต่ลม แต่นี่ดันตบดัง...แจ๊ะ ๆ เอ๊ย...แป๊ะ ๆ แสดงว่าคือ ๆ กันแหละ.
บอส ดินแดง โพสต์เมื่อ 22-7-2010 22:58 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ส่วนอาจารย์ฆราวาสอีกท่านหนึ่ง ค่อนข้างอยู่ไม่ไกลจา ...
ต้นฉบับโพสโดย dark เมื่อ 22-7-2010 22:25



    สู๊ดยอดดดดดดดด ครับ

rynyapatch โพสต์เมื่อ 25-7-2010 18:23 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ชอบมากเลยจ้ะโชว บทความของพ่อฟ้อนเนี่ย พี่ไม่เคยรู้มาก่อน แต่สะดุดตาครั้งแรก ก็ภาพที่โชวนำเสนอมาน่ะ โคตะระชอบเลย เข้มขลัง น่ากลัว สุดสุด (นับถือ ...)
rynyapatch โพสต์เมื่อ 25-7-2010 18:24 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ชอบมาก " ประสะเลือด"
Dhong โพสต์เมื่อ 25-7-2010 22:01 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
เป็นความรู้ที่มีประโยชน์มากครับ เสียดายจริงๆที่พอผ่านไปหนึ่งรุ่นวิชาดีๆก็หายไปอีกหนึ่งวิชา
คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับโพสต์นี้ได้ เข้าสู่ระบบ | สมัครเป็นชาวเมืองเสน่ห์กาหลง

รายละเอียดเครดิต

ปิด

เว็บมาสเตอร์แนะนำย้อนกลับ /1 ถัดไป

รายชื่อผู้กระทำผิด|Archiver|Mobile|เมืองเสน่ห์กาหลง (Khalong Charming Town)

GMT+7, 29-3-2024 16:29 , Processed in 0.181215 second(s), 8 queries , File On.

Powered by Discuz! X3.4

© 2001-2017 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้