cho โพสต์เมื่อ 27-12-2010 16:48

คาถาอันศักดิ์สิทธิ์ได้ผล 100% จากหนังสือพุทธมนต์พระอาจารย์หม่อม

แก้ไขล่าสุด cho เมื่อ 27-12-2010 17:09

ขณะเรานั่งอยู่อย่างนี้ เรามีปัญหาอะไรเกี่ยวกับการงาน หรือเกี่ยวกับอะไรก็แล้วแต่ เราจะแผ่เมตตาไปให้ใคร เราก็เรียกชื่อคนคนนั้น เช่น คนนั้นชื่อ นาย กอ เรียกนาย กอ แล้วทำจิตให้เมตตาที่สุด

นายกอ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรมีภัยกับข้าพเจ้าเลย
นายกอ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความพยาบาอาฆาตเบียดเบียนข้าพเจ้าเลย
นายกอ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
นายกอ จงมีแต่ความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด

ถ้าเราบอกจงเป็นสุขเป็นสุขเถิด จิตของเราก็พุ่งไปจิตที่เป็นเมตตาแล้วพุ่งไปแล้วนึกถึงใบหน้า ที่เราเคยเป็นสุขด้วยกัน ให้เขาเป็นสุขเป็นสุขภาวนาอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เช้าเย็นถ้าเราว่างทำใจให้เมตตาแผ่ไป เป็นยอดคาถาอันวิเศษยิ่ง ไม่ตองไปหาอะไรเลย เราฝึกจิตจนกระทั่งจิตเราเป็นเมตตา แม้แต่เราจะเรียกใครมา เราไม่ต้องโทรศัพท์หรือจดหมาย เรานึกถึงเขาแล้วเราทำจิตพุ่งไปถึงนาย ก. นึกถึงเขา พูดกับเขาดีๆ นาย ก. จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด นาย ก. ก็จะคิดถึงเรา ก็จะมาหาเรา คนที่เกลียดชังเรา คนที่ไม่ชอบเราก็จะมาดีกับเรา ถ้าเราศึกษาธรรมพระพุทธองค์ธุดงค์เดินป่า ช้างจะมาขวิด วัวควายจะมาขวิดพระองค์แผ่เมตตาทันที เพราะพระองค์ฝึกจนกระทั่งจิตของพระองค์เมตตาอยู่ทุกวินาที พระองค์ยืนสงบแผ่แค่นั้นเอง วัว ควาย ช้างหมอบลงเลย หรือไม่ก็หนีกลับไปเลย ทำอะไรท่านไม่ได้เลย เหมือนเรา ถ้ามีเมตตาใครก็ทำอะไรเราไม่ได้เลย แม้แต่ปลายเล็บก็ทำอะไรเราไม่ได้ ให้ฝึกนะตั้งใจ

ถ้าเราไม่แผ่เจาะจง เราก็แผ่ให้ทั่ว เช่น หมู่มนุษย์ทั้งหลายจงเป็นสุขเป็นสุขเถิดอย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย ทำจิตให้กว้างเป็นเมตตาแผ่ไป เราเคยมีเวรมีกรรมกัน ก็จะอโหสิกรรมกันโดยอัตโนมัติเลย มันเป็นสิ่งอัศจรรย์ และเป็นคาถาวิเศษที่สุด พระพุทธองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าท่านใช้อยู่เสมอ หลวงพ่อหลวงปู่ทั้งหลายที่ดังๆ ท่านก็ต้องฝึกจิตให้เป็นเมตตา ท่านจึงทำอะไรก็ได้ ไม่ว่าใครมาขวางท่าน ขวางไม่ได้เลยเพราะจิตของท่านมีเมตตา ฝึกนะ ทุกอย่างก็ต้องฝึก

การที่เรารู้จักลมหายใจ ทำให้เรารู้จักตัวเราเองมากขึ้น รู้จักภาวนามากขึ้น การที่เรารู้จักตนเอง เรียกว่ามารู้จักธรรมชาติ มารู้จักธรรมะ คือรู้จักสมาธิ คือ เราควบคุมตนเองได้ เราต้องควบคุมตนเองได้นะ ถ้าเราควบคุมตนเองได้ เราก็จะเกิดความู้ความเข้าใจในธรรมะ คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้ามากขึ้น ที่พระองค์ได้ปฏิบัติในแบบเดียวกันกับพวกเรา พระองค์จะสำเร็จพระองค์ก็ต้องมาปฏิบัติเหมือนพวกเราแบบนี้ พระพุทธเจ้าได้มาเป็นพระพุทธเจ้าเพราะอาศัยลมหายใจเข้าออกเหมือนกัน พระองค์ไม่ได้ภาวนะอะไรเลย.....เพียงรู้ว่าลมเข้าเป็นอย่างใด ลมออกเป็นอย่างใด เมื่อรู้จักในลมหายใจเกิดสติเกิดปัญญา รู้ซึ้งถึงที่สุดของการดับถึงการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ว่ารางกายก้อนนี้ นั่งนานก็ปวด ยืนนานก็ปวด นอนนานก็เมื่อย ป่วยที่สุดร่างกายของเรานี้ไม่ใช่ของเรา ยืมเขามาใช้ชั่วขณะหนึ่ง ดังพระโพธิสัตว์กวนอิมทรงตรัสสอนไว้ว่า ร่างกายของเรานี้เปรียบเหมือนเสื้อตัวหนึ่งที่เราใส่ไว้ ใส่แล้ว แล้วเราจะเปลี่ยนเสื้อใหม่ก็ต่อเมื่ออายุไขเราหมด เสื้อตัวนี้เราเปลี่ยนใหม่มันขาด มันเปื่อยมาหลายปีแล้ว เพราะว่ามันเก่ามันก็เปื่อย ต้องปะต้องซ่อมจนซ่อมไม่ได้ ก็ต้องทิ้งมันไป แล้วเราจะมีปัญญาซื้อเสื้อใหม่อีกไหม เรามีปัญญาไหม ถ้าเราไม่มีปัญญาซื้อเสื้อใหม่ แสดงว่าเรายังทำความดีไม่เพียงพอ

เปรียบได้ว่า ร่างกายของเราเป็นเหมือนเสื้อตัวหนึ่ง เราใช้ร่างกายของเราทำทุกอย่างตั้งแต่เด็กจนแก่ พอแก่ก็เจ็บป่วย เพราะใช้งานมามากนานแล้ว ก็เราร่างกายของเราไปซ่อมไปรักษาเยียวยาที่โรงพยาบาลจนถึงที่สุด เมื่อสิ้นอายุไขเยียวยาไม่ได้แล้วก็ตายไป เปรียบเหมือนกับเสื้อที่ใช้งานมากก็ผุเปื่อย ซ่อมแซมไม่ได้ก็ทิ้งไป

เราต้องตั้งใจทำความดีนะ เมื่อเราตายไปแล้ว ภพหน้า เรายังสามารถเกิดมาเป็นคนได้อีก ก็แสดงว่าเราทำความดีไว้เพียงพอที่จะมีร่างกาย มีกายเนื้อใหม่ เปรียบดังกับมีปัญญาพอที่ซื้อตัวใหม่ได้นั่นเอง ดังนั้นภพนี้ ชาตินี้ เรายังมีร่างกาย มีกายเนื้อ มีคุณงามความดี บุญกุศลใด ก็ให้ตั้งใจปฎิบัติตั้งใจสร้างไว้

การที่เราเรียนรู้เรื่องกาย เรื่องใจนั้น เป็นการเรียนรู้ซึ่งทางสงบ เรียนรู้แล้วต้องไม่ให้วุ่นวายนะ ถ้าเราวุ่นวายนะ สมมุติว่าเราโกรธ คนที่โกรธคนบ่อยๆ นะ ตายไปต้องไปตกนรก หรือไม่ตายก็ต้องตกนรกแล้ว เราโกรธ เราไม่สบายใจ เราทุกข์ใจ นั่นแหละสวรรค์ในอกนรกใจใจ

พระพุทธเจ้ามาเรียนรู้เรื่องอารมณ์กรรมฐาน ก็รู้จักที่ตัดเวรตัดกรรม แล้วก็ดับทุกข์ทั้งปวดในใจเรา ในใจเราถ้ามีทุกข์ หรือคนที่ใจเป็นทุกข์ หาเรื่องมาใส่ใจ เหตุเกิดจากอดีตชาตินั้นเราต้องเบียดเบียนคนอื่นอย่างแรง ทั้งๆ ที่เราสุขไม่ทุกข์แล้ว เราก็หาเรื่องมาใส่ใจให้มันทุกข์เหมือนกับรังแกใจตัวเอง ก็แสดงว่าชาติปางก่อน เราเป็นตัวอิจฉา ริษยา

จิตของเราต้องคอยดูมันตลอด อย่าไปตามใจมัน ถ้ามันทุกข็ขึ้นมาเราก็ต้องรู้ว่านั่นแน่ะ! ฉันรุ้แล้วนะ ฉันได้เรียนรู้จักตัวเองแล้วนะ ฉันไม่ตามใจหรอก เรื่องอะไรไปทุกข็มัน ทุกข์ทำไม ปัญหาทุกคนต้องมี คนไหนบ้างไม่มีปัญหา เป็นไปไม่ได้ ปัญหาทุกปัญหาแก้ไขได้ ขอให้เรามีสติ ค่อยๆ คิดแก้ไขทุกอย่างต้องสำเร็จ



คาถาอันศักดิ์สิทธิ์ได้ผล 100% จากหนังสือพุทธมนต์พระอาจารย์หม่อม พุทธิโพธิสัตว์ไตรภูมิบุคคลใดร่วมพิมพ์หนังสือธรรมะแจกจ่ายเป็นวิทยาธานจำนวนมากระยะยาว หรือบรรยายถ่ายทอดธรรมวิทยาจะพ้นจากโรคภัยไข้เจ็บและเพทภัยเหตุร้ายทั้งปวง

โก๊ะ โพสต์เมื่อ 27-12-2010 17:01

พระองค์ได้ปฏิบัติในแบบเดียวกันกับพวกเรา พระองค์จะสำเร็จพระองค์ก็ต้องมาปฏิบัติเหมือนพวกเราแบบนี้ พระพุทธเจ้าได้มาเป็นพระพุทธเจ้าเพราะอาศัยลมหายใจเข้าออกเหมือนกัน พระองค์ไม่ได้ภาวนะอะไรเลย.....

ชอบประโยคนี้มากครับ...

คนเราถ้ามีเวลาอยู่กับตัวเองบ้าง คือแค่ลมใจตัวเอง ทำได้นับว่า"เยี่ยม"{:8_179:}

sun โพสต์เมื่อ 27-12-2010 17:26

พุทธหายใจเข้าโธหายใจออก สาธุ
และแผ่เมตตา ใจก็เป็นสูข สาธุ{:8_165:}

kaineverdie โพสต์เมื่อ 27-12-2010 18:55

{:8_179:}{:8_179:}{:8_179:}

thaimusic โพสต์เมื่อ 27-12-2010 21:12

ศีล สมาธิ ปัญญา ครับทำให้จิตใจสูงขิ้นจริงๆๆ{:8_165:}

zrkonixx โพสต์เมื่อ 27-12-2010 21:42

เคยลองคาถาแบบนี้มาแล้วเหมือนกัน {:3_46:} สวดดดยอดครับบ

wawatep โพสต์เมื่อ 27-12-2010 21:52

เยี่ยมมากครับ ท่านเจ้าเมือง...อาจารย์ท่านสมกับเป็นครูที่แท้จริง อีกท่านเลยนะครับ...อยากไปเป็นลูกศิษท่านมั่งจัง...{:8_179:}

chayadaj โพสต์เมื่อ 27-12-2010 22:10

{:8_179:}

dhamtan โพสต์เมื่อ 6-1-2011 10:02

อ่านแล้วได้ข้อคิดควรทำเลยครับ

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ...............

คณิศร โพสต์เมื่อ 7-1-2011 16:27

อนุโมทนาสาธุครับ



*-*{:8_179:}

Napawatt โพสต์เมื่อ 7-1-2011 18:38

อนุโมทนาด้วยครับ พี่โชว์สุดสวย {:8_179:}

Uanprew โพสต์เมื่อ 2-2-2011 13:45

{:8_165:}{:8_165:}{:8_165:}อนุโมทนาสาธุครับ

chogun โพสต์เมื่อ 8-2-2011 07:57

สาธุ{:8_179:}

tatum โพสต์เมื่อ 10-3-2011 11:51

สาธุครับ

TeddyReyez โพสต์เมื่อ 12-3-2011 18:03

{:8_179:}*
หน้า: [1] 2 3
ดูในรูปแบบกติ: คาถาอันศักดิ์สิทธิ์ได้ผล 100% จากหนังสือพุทธมนต์พระอาจารย์หม่อม