kaineverdie โพสต์เมื่อ 22-7-2010 08:47

เรื่องเล่า

มี่เรื่องเล่าว่า...มีคน2คนเป็นเพื่อนรักกัน...ต่างร่วมเดินทางไปในทะเลทราย...
ระหว่างทาง...เกิดโต้เถียงขัดแย้งไม่เข้าใจกัน
เพื่อนคนหนึ่ง...พลั้งลงมือ...ตบหน้าอีกฝ่าย

คนถูกทำร้ายัง...เจ็บปวด...แต่ไม่เอ่ยวาจา...กลับเขียนลงบนผืนทรายว่า
"วันนี้...ฉันถูกเพื่อนรักตบหน้า"
พวกเขายังคงเดินทางต่อ...กระทั่งถึงแหล่งน้ำ
พวกเขาตัดสินใจอาบน้ำ...ชำระกาย...พลันคนที่ถูกตบหน้ากลับจมน้ำ...
เพื่อนอีกคนไม่รั้งรอ...เข้าช่วยชีวิตนคนรอดตาย...ยังคงไม่เอ่ยวาจา...กลับสลักลงไปบนหินใหญ่...
"วันนี้...เพื่อนรักช่วยชีวิตฉันไว้"
อีกคนไม่เข้าใจ...ถามว่า...

"เมื่อถูกฉันตบหน้า...เธอเขียนลงทราย...แล้วทำไมเมื่อครู่...ต้องสลักบนหิน"
อีกคนยิ้มพราย...กล่าวตอบ
"เมื่อถูกเพื่อนรักทำร้าย...เราควรเขียนมันไว้บนทราย

ซึ่งสายลมแห่งการให้อภัย...จะทำหน้าที่พัดผ่าน...ลบล้างไม่เหลือ
แต่เมื่อมีสิ่งที่ดีมากมาย...บังเกิด

เราควรสลักไว้บนก้อนหินแห่งความทรงจำในหัวใจ...ซึ่งจะไม่มีสายลมแรงเพียงใด...ลบล้างทำลาย...

Jay โพสต์เมื่อ 22-7-2010 17:42

http://i417.photobucket.com/albums/pp257/Angkrid/Jay-Angkrid/73a2b285.gif

sukalya โพสต์เมื่อ 9-8-2010 14:35

{:6_122:}เป็นการจำที่ดีที่สุด{:4_90:}

kaineverdie โพสต์เมื่อ 9-8-2010 14:43

เป็นการจำที่ดีที่สุด
ต้นฉบับโพสโดย sukalya เมื่อ 9-8-2010 14:35 http://khalong.com/board/images/common/back.gif


    สบายดีนะท่าน {:3_48:}

cho โพสต์เมื่อ 9-8-2010 20:30

แก้ไขล่าสุด cho เมื่อ 9-8-2010 20:39

การให้อภัยเป็นสิ่งสวยงาม...
แต่เรื่องบางเรื่อง ผู้คนอาจยังทำไม่ได้ แค้นฝังหุ่น จำฝังใจ!

เมื่อเราอโหสิกรรมให้กับผู้คนที่ทำชั่วช้ากับเราได้.. มันก็สบายใจ!

แต่ขึ้นอยู่กับว่า อีกฝ่ายหนึ่ง จะให้อภัยไหม?

ก่อนคิดทำเรื่องชั่วช้ากับใคร ขอให้คิดสักนิดว่า กฏแห่งกรรมมีจริง ไม่ใช่สักแต่ทำชั่วใส่กัน...แล้วรอวันกล่าว ขอโทษ เพื่อให้เขาอโหสิให้..

เพราะเราอาจไปเจอคนที่เขา ไม่ให้อภัยก็ได้... เมื่อเขาไม่ให้อภัย เขาย่อมไม่ผิดเช่นกัน
คือการจองเวรกันไว้ชดใช้กันชาติหน้า!

ตย. เช่น ไปฆ่าพ่อเขา มีเหรอลูกจะอโหสิให้...          

ไปข่มขืนลูกสาวเขา มีเหรอพ่อจะอโหสิให้...

          ท่าจะยากแฮะ!!

tvxq โพสต์เมื่อ 10-8-2010 09:02

กงกรรมกงเกวียน หรือ กงเกวียนกรรมเกวียนการให้อภัยเป็นการหยุด วงล้อแห่งกรรม :kiss::kiss:

sukalya โพสต์เมื่อ 10-8-2010 09:18

แค้นฝังหุ่น จำฝังใจ! {:6_116:}

การให้อภัยเป็นการหยุด วงล้อแห่งกรรม [/b]

                                                {:4_91:}

suysakul โพสต์เมื่อ 10-8-2010 09:32

แค้นฝังหุ่น จำฝังใจ!

การให้อภัยเป็นการหยุด วงล ...
ต้นฉบับโพสโดย sukalya เมื่อ 10-8-2010 09:18 http://khalong.com/board/images/common/back.gif


    ขนาดนั้นเลยหรือ แค้นมาก ระวังจะไม่มีความสุขนะครับ ปล่อยวาง แล้วหาเอาใหม่ดีกว่า

kaineverdie โพสต์เมื่อ 10-8-2010 15:16

แค้นแค้นใจตัวเอง........ ไม่ดีกว่า รักตัวเองดีกว่าเน้อ

sukalya โพสต์เมื่อ 11-8-2010 10:25

ตอบกลับ 8# suysakul     กรรมเป็นตัวกำหนดการกระทำของเรานะครับ เรียกว่าบุพกรรมหรือกรรมเก่า แต่การสร้างกรรมใหม่ไม่ว่าจะทางสายบุญหรือบาป ก็เป็นการกำหนดผลของการกระทำที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ครับ พระศาสดาท่านกล่าวเอาไว้ว่า ความบังเอิญ ความโชคดีโชคร้ายไม่มีอยู่ในโลกครับ ทุกอย่างล้วนเกิดจากการกระทำที่เคยผ่านมาแล้วทั้งสิ้น อาจเป็นการกระทำในวันนี้ หรือจากการกระทำในอดีต บางครั้งอาจเป็นผลกรรมในอดีตชาติก็มี แต่เราไม่ต้องไปคิดถึงมันหรอกครับ โดยเฉพาะเรื่อง...วิบากกรรมนั้น เป็น 1 ใน 4 อจินไตย ที่คิดไปก็เป็นบ้าเสียเปล่า แต่ถ้าอยากทราบถึงเหตุและปัจจัยที่ส่งผลในตอนนี้นั้น พระศาสดาท่านทรงยกย่องมหาสติปัฏฐานนะครับ...เหตุแห่งกรรมเป็นไฉน ผัสสะนั่นแหละเป็นเหตุแห่งกรรม.

ไม่มีคาถาหรือผ้ายันต์นี้ลงอักขระพระพุทธมนตราวัชรปรัชญาปารมิตาสูตร เป็นภาษาทิเบตล้อมรอบยันต์หัวใจปรัชญาปรมิตา จึงมีความศักดิ์สิทธิ์อย่างสูงเลิศทางด้านปัญญาญาณ อันสมบูรณ์ประดุจเพชรที่จะตัดภาพมายา คืออวิชชาและอุปาทานอันเป็นเครื่องกีดขวาง มิให้บุคคลบรรลุถึงความรู้แจ้ง ตื่นรู้ แจ้งเตือนภัย ศักดิ์สิทธิ์ด้วยมหามนตราที่แม้ไม่ต้องปลุกเสกใด ๆ ก็มีพลังชั้นสูงครับ

วัชร ปรัชญาปารมิตาสูตร
(สันสกฤต ???????????? ???????????????????, จีน ????????, อังกฤษ Diamond Sutra) พระสูตรสำคัญหมวดปรัชญาปารมิตา ของพระพุทธศาสนามหายาน มีชื่อเต็มในภาษาสันสกฤตว่า วัชรัจเฉทิกปรัชญาปารมิตาสูตร หมายถึงพระ สูตรว่าด้วยปัญญาญาณอันสมบูรณ์ประดุจเพชรที่จะตัดภาพมายา คืออวิชชาและอุปาทานอันเป็นเครื่องกีดขวาง มิให้บุคคลบรรลุถึงความรู้แจ้ง เชื่อกันว่าพระสูตรหมวดปรัชญาปารมิตา นี้เป็นพระสูตรมหายานรุ่นแรก ๆ ที่เกิดขึ้น เนื้อหาสาระสำคัญเป็นเรื่องราวการเทศนาสั่งสอนของพระพุทธเจ้ากับพระสุภูติ ซึ่งเป็นพระอรหันตสาวก ที่พระเชตวันมหาวิหาร ว่าด้วยการบำเพ็ญบารมีของพระโพธิสัตว์ จะต้องกระทำด้วยความไม่ยึดมั่นถือมั่นในสรรพสิ่งทั้งปวง เป็นการอรรถาธิบายถึงหลักศูนยตา ความว่างเปล่าปราศจากแก่นสารของอัตตาตัวตนและสรรพสิ่งทั้งปวง แม้ธรรมะและ พระนิพพาน ก็มีสภาวะเป็นศูนยตาด้วยเช่นเดียวกัน สรรพสิ่งเป็นแต่เพียงสักว่าชื่อเรียกสมมติขึ้นกล่าวขาน หาได้มีแก่นสารแท้จริงอย่างใดไม่ เพราะสิ่งทั้งปวงอาศัยเหตุปัจจัยประชุมพร้อมกันเป็นแดนเกิด หาได้ดำรงอยู่ด้วยตัวของมันเอง เช่นนี้สิ่งทั้งปวงจึงเป็นมายา พระโพธิสัตว์เมื่อบำเพ็ญบารมีพึงมองเห็นสรรพสิ่งในลักษณะเช่นนี้ เพื่อมิให้ยึดติดในมายาของโลก

ท้ายที่สุด พระพุทธองค์ได้สรุปว่าผู้เห็นภัยในวัฏสงสารพึงยังจิตมิให้บังเกิดความยึด มั่นผูกพันในสรรพสิ่งทั้งปวง เพราะสังขตธรรมนั้นอุปมาดั่งภาพมายา ดั่งเงา ดั่งความฝัน ดั่งฟองในน้ำ และดั่งสายฟ้าแลบ เกิดจากการอิงอาศัยไม่มีสิ่งใดเป็นแก่นสารจีรังยั่งยืน แนวคิดเรื่องศูนยตานี้ได้พัฒนาต่อไปโดยท่านคุรุนาคารชุนแห่งนิกายมาธยมิกะ จนกลายเป็นความคิดหลักทาง พุทธ ปรัชญา ที่ลึกล้ำและโดดเด่นในโลกจนทุกวันนี้

พระสูตรนี้มีแปลเป็นภาษาไทยโดย อ.เสถียร โพธินันท.
ส่งต่อ http://www.nangpaya.com/ucenter/avatar.php?uid=533&size=small dark 10-8-2010 21:46ที่เจาะรูเพื่อให้กุมารได้หายใจนะครับ เพราะจากที่ผมเคยศึกษาแนวทางด้านศาสตร์พลังจิต ในสายอาจารย์ประถม อาจสาคร ซึ่งเป็นนักพลังจิตชื่อดังในสายวังหน้าและหลวงปู่เทพโลกอุดร ท่านบอกว่าถ้าเลี่ยมพลาสติคปิดจนหมดพวกพราย หรือพลังงานทางจิตจะเคลื่อนที่ออกมาไม่ได้ โดยผู้มีตาทิพย์ได้พิจารณาตรวจสอบเห็นตรงกันครับว่าเป็นเรื่องจริง มองเห็นพลังงานหมุนวนไม่สามารถออกมาจากกรอบพลาสติคปิดได้ จึงต้องเจาะรูไว้ด้วย แต่ถ้าเลี่ยมสแตนเลสไม่เป็นไรไม่ต้องเจาะรูครับเพราะอากาศผ่านเข้าไปได้อยู่แล้ว และผมก็เคยทดสอบกับขุนแผนทางมหาเสน่ห์มาก่อนพบว่า ที่เลี่ยมปิดค่อนข้างเงียบ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นกรอบสแตนเลสกลับแรงจนมีประสบการณ์ครับทั้งที่ก็องค์

HolyMax โพสต์เมื่อ 11-8-2010 21:39

อ่านผิดเป็นเรื่องเหล้าเลยเข้ามาเจอข้อความดีๆ (^^)V

TenThai โพสต์เมื่อ 12-2-2012 17:52

กรรมเป็นเครื่องบ่งบอกการกระทำ
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: เรื่องเล่า