ต้น1 โพสต์เมื่อ 17-12-2012 22:37

ของดีที่ไม่ไช่พราย ยังมีอีกเยอะครับ เช่น พ่อครูศิริพงษ์ สีผึ้งเทียนมัทรี ดีกว่าสีผึ้งมันสมองผี

posopa โพสต์เมื่อ 18-12-2012 01:16

ส่วนตัวผมก็ไม่ค่อยนิยมเล่นสายพรายเท่าไหร่นะครับ ผมขอเป็นกลางเพราะของอย่างงี้มันลางเนื้อชอบลางยา ไม่สังเกตกันหรอครับว่าวัตถุมงคลออกมาชิ้นนึงคนนึงใช้เเล้วบอกว่าดี อีกคนใช้เเล้วก็เฉยๆ สายพรายก็เช่นเดียวกันบางคนใช้ของเข้าตัว บางคนเกิดผลดีต่างๆตามมาพรายที่เสกมั่วซั่วก็มีพรายที่เสกดีก็มี ส่วนใครจะเจอเเบบไหนขึ้นอยู่กับวาสนาของคนๆนั้นที่สร้างกรรมร่วมกันมาระหว่างพราย,ผู้ใช้เเล้วก็อาจารย์ผู้เสก ส่วนตัวผมก็สนับสนุนให้เล่นวัตถุมงคลสายพุทธคุณนะเเต่การที่เมืองเราจะมีการเเบนวัตถุมงคลสายพรายผมว่ามันยังไงๆอยู่นะครับของอย่างงี้ต้องให้เจ้าตัวเป็นคนตัดสินใจเอาว่าจะเลือกเสพสิ่งใดถึงจะเหมาะกับตัวเอง ขอบคุณครับ...

cho โพสต์เมื่อ 26-12-2012 10:33

แก้ไขล่าสุด cho เมื่อ 26-12-2012 11:24

ส่วนตัวผมก็ไม่ค่อยนิยมเล่นสายพรายเท่าไหร่นะครับ ผม ...
ต้นฉบับโพสโดย posopa เมื่อ 18-12-2012 01:16 http://khalong.com/board2/images/common/back.gif


คุณบอกว่า 'เเต่การที่เมืองเราจะมีการเเบนวัตถุมงคลสายพรายผมว่ามันยังไงๆอยู่นะครับ'


เราขอบอกว่า 'เมืองเราไม่ได้แบนสายพรายนะคะ อย่าเข้าใจผิด' สายพรายอยากมาขาย อยากมาคุย มาได้ค่ะ

เมืองเราไม่ได้แบน แต่เว็บพลังจิตนี่ 'แบน' เลยนะคะ..(ขออนุญาติเอ่ยนาม)

เมืองเราแสดงจุดยืน ตีแผ่ข้อเท็จจริงสายพรายแก่พลเมืองเสน่ห์กาหลงเพื่อรณรงค์ให้เลิกใช้พราย!!

ดังนั้นหากคุณคิดว่าดี คุณก็ใช้ต่อไป อย่ากังขา!!

ตัวอย่าง

มีประเทศไหน เมืองไหน ที่มีข้อความสนับสนุนประชาชน สูบบุหรี่ หรือไม่?
มีประเทศไหนในโลก มีข้อความบอกประชาชน กินเหล้า หรือไม่?
มีเืมืองไหน ในโลก มีข้อความบอก สนับสนุนคนเสพยา หรือไม่?

แต่ประชาชนในทุกประเทศทุกโลก มีคนสูบบุหรี่ กินเหล้า และติดยา ทั้งที่รู้ว่ามันให้โทษ!

ดังนั้น หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่กระทำการอยู่นอกกรอบแนวคิดของการรณรงค์ ก็ยังถือว่าทำได้
เพราะมันเป็นเรื่องของคุณ

-บุหรี่ยังมีขาย
-เหล้าก็มี
-ยาเสพติดก็มี
ฯลฯ

ฉนั้น การที่เราจะแสดงจุดยืนเพื่อตีแผ่ข้อเท็จจริงนั้น ในทีมงานเราลงมติกันแล้วว่า 'สมควรทำ'

เราจะรณรงค์ต่อไปค่ะ..

คืนปล่อยผี 'ชาวกาหลง' ประกาศเป็นวันรณรงค์เลิกใช้สายพราย ปลดพันธการพรายพร้อมกันทุกHalloween

ลด ละ เลิกแล้วคุณหล่ะ?http://khalong.com/board2/attachments/month_1210/12103116150481bb43cb3008fa.jpg

ร่วมสนับสนุนกองบังคับการตำรวจปราบปรามโลโก้ และ แบนเนอร์ไม่สงวนลิขสิทธิ์ เผยแพร่ได้
click รณรงค์เลิกใช้สายพราย หวั่นคนรุ่นใหม่ลองของเสน่ห์จากกะโหลกมนุษย์
เจ้าเมือง

kiddee โพสต์เมื่อ 6-3-2013 23:51

เห็นด้วยครับ ดีจริงไม่ต้องมีพรายก็ได้

krongthip โพสต์เมื่อ 18-3-2013 11:35

การจะรู้ว่าเครื่องลางอันใหนสายเทพหรือสายพราย เราต้องดูที่ต้นกำเนิดครับ ดูส่วนผสมของเครื่องลางนั้นๆ เช่นองค์นี้ถ้าดูจากมวลสารและวิธีปลุกเสกแล้วจะเป็นกุมาร ทั้งกุมารพรายและกุมารเทพ ชนวนมวลสาร โดยหลวงปู่เณร ได้จารอีกขระแผ่นยันต์ชนวนอย่างเข้มขลังทรงพลังฤทธิ์ ประจุพลังตั้งธาตุ หนุนธาตุ เรียกสูตร เรียกนามอาการ 32 อย่าง เป็นการรวมกุมารทอง สายเทพและสายพราย เข้าด้วยกันอย่างครบถ้วน กุมารทองมีวิญญาณทั้งกุมารพรายและกุมารเทพ สิงสถิตย์อยู่ โดยมีกุมารเทพ 5 ตน กุมารพราย 4 ตน รวมเป็น 9 ตน เป็นที่มาของชื่อ กุมารทอง 9 ยอดมหาเศรษฐี ประกอบพิธี ที่ป่าช้าโบราณวัดป่าบ้านเปลือย ในวันเสาร์ที่ 29 มกราคม 2554
มวลสารที่บรรจุใต้ฐาน 9 ยอดกุมารทอง ทั้งขนาด 9 นิ้ว และ 3 นิ้ว ประกอบด้วย ดิน 7 ป่าช้า ผงพรายกุมาร ผงเถ้ากระดูกคนตายวันเสาร์ เผาวันอังคาร ผงดินจอมปลวก ผงไคลเสมา 7 โบสถ์ ตะปูโลงศพ เหรียญปากผี 7 ป่าช้า ผงปถมังพุทธคุณ 108 ผงว่าน 108 ตะกรุดยอดกุมาร ดินโป่ง 7 โป่ง ผงรังต่อ ผงหินเขี้ยวอาถรรพ์ กุมารทองดูดรก พ่องั่งพรายกระซิปเนื้อผงอาถรรพ์ และอื่นๆไม่เปิดเผย9 ยอดกุมารทอง ชั้นครู ชั้นเทพทรงฤทธิ์แรงกล้า ปกป้องคุ้มกันภัย เฝ้าบ้านเรือน มีโชคลาภ ค้าขายดี แด่ผู้เลี้ยงบูชาเอาใจใส่ ได้อย่าน่าอัศจรรย์ก่อนนำเข้าบ้าน จุดธูป 7 ดอก บอกเจ้าที่พระภูมิเจ้าที่ และสิ่งศักสิทธิ์ประจำบ้านว่า "ข้าพเจ้าขออนุญาติ นำ 9 ยอดกุมารทองมหาเศรษฐี มาอยู่ด้วย ขอให้อยู่เย็นเป็นสุข มีโชคลาภ ร่ำรวยขึ้น"วันพระให้จุดธูป 9 ดอก เลี้ยงด้วยไข่ต้ม กล้วย ขนมต่างๆ น้ำแดง น้ำเปล่า
      ที่สำคัญไม่ว่าทั้งกุมารพรายและกุมารเทพเค้าจะถือเรี่ยงสัจจะวาจามาก พูดแล้วสัญญาแล้วต้องทำ เช่นเราบอกว่าจะเซ่นอาหารทุกวันพระ ก็ให้ทำตามนั้น บนอะไรไว้แล้วได้ตามคำขอบนก็ให้นำของที่บนไว้มาให้เค้า เค้าก็เหมือนเด็กทั่วไปชอบของเล่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ โดยเฉพาะ กุมารี หาให้เค้าบ้าง เราเลี้ยงลูกเราเราก็ไม่ได้หวังอะไรตอบแทน และก็เช่นกันเราก็เลี้ยงเค้าเหมือนลูก ก็อย่าไปหวังอะไรมากนัก แต่เท่าที่ผมเลี้ยงอยู่(ทั้งกุมารพรายและกุมารเทพ)รู้สึกได้ว่าดีมากครับโดยเฉพาะเรื่องการงาน และการเงินครับไม่น่าเป็นไปได้แต่ก็เป็นไปแล้ว เวลาซื้อของเหมือนกันต้องเอาเงินคืนให้พ่อค้าแม่ค้าบ่อยมาก ๆ อีกอย่างนะครับสำคัญมากไม่ว่าทั้งกุมารพรายและกุมารเทพต้องพาไปทำบุญทำทารกันบ่อย ๆ แล้วอุทิศส่วนกุสลให้เค้าครับ เพราะถ้าเค้ามีบารมีมากขึ้นบุญที่ทำสะสมไว้เพียงพอ เค้าก็จะได้ไปเกิดใหม่ นี่คือการสงเคราะห์วิญญาณเร่ร่อนไม่มีกินไม่มีใช้ เป็นสัมพเวสี พระท่านเลยเชิญมาอยู่ในหุ่นรูปกุมาร หรือกุมารี เรามีให้เค้ากิน นอน มีเสือผ้า มีของเล่น ได้รับบุญกุสลที่ตัวเค้าเองไม่สามารถทำเองได้ แล้วเค้าจะทำร้ายเราทำมัย ขอให้เลี้ยงด้วยบุญนะครับ ไม่ทำร้ายเราไม่เข้าตัว และยังมีเรื่องราวอีกมากมายทั้งที่ดีและไม่ดี แต่วันนี้เอาแค่นี้ก่อนนะครับ

krongthip โพสต์เมื่อ 18-3-2013 12:50

ทุกท่านครับ ผมมีความเห็นแบบนี้ครับคือผมก็ไม่ได้สนับสนุนหรือคัดค้านในเรื่องนี้นะครับ แต่ผมปฏิบัติตามคำสอนของ ครู บา อาจารย์เท่านั้นท่านบอกว่า บางคนเกิดทามีบุญบารมีมากก็ร่ำรวยมีเงินมีทองใช้ไม่ขาดมือ แต่บางคนไม่ได้สะสมกรรมดีมาแต่ชาติภพก่อน ๆ ก็เลยต่องเกิดมาแบบมีไม่พอเพียง ก็เลยพากันสรรหาตัวช่วยกันเท่านั้นเองแต่กุศโลบายของครู อาจารย์ท่านคือ อยากให้พากันทำบุญเพื่อสร้างกรรมดี โดยการย้ำเตือนอยู่เสมอว่าต้องเลี้ยงเค้าด้วยบุญนะ เพราะบุญคือที่สุดแห่งการให้ บางคนไม่เคยทำบุญเลย แต่พอมีสิ่งเหล่านี้ติดตัวแล้ว กลัวแต่จะไม่ได้ทำบุญ วัดใหนสร้าง วัดใหนบูรณะ ก็รีบไปร่วมทำบุญกัน และนี่ก็คือการสร้างกุศลกรรมที่ดี ทำให้ตัวเองรู้สึกดีจากการเป็นผู้ให้ อิ่มอกอิ่มใจ หรือบางคนไม่เคยเข้าวัดเลยไม่ว่าเหตุผลใด ๆ กลับเห็นมานั่งรอใส่บาฑทุกวันก็มี และด้วยเหตุนี้เองผลบุญของเราก็ทำให้เรามีสง่าราศี ใครเห็น ใครมอง ก็รู้สึกว่าเราดูดีน่าคบหา อีกทั้งเพื่อนฝูง หรือเจ้านาย ก็มองเราแบบเปลี่ยนไป จากที่เคยตระหนี่ เห็นแก่ตัว พอได้สัมผัสความสุขของการให้แล้ว ใจมันก็ไปเอง การทำบุญเหมือนสิ่งเสพติดครับ วันใหนไม่ได้ทำ รึว่านานแล้วไม่ได้ทำก็จะรู้สึกหงุดหงิด หน้าตาไม่ผ่องใส ต้องไปหาวิธีทำบุญจนได้ โดยส่วนตัวของผมนะครับ ก็ใส่บาฑ บริจากเงินซื้อผ้าขาวห่อศพ หรือบริจาคเงินซื้อโรงศพ แก่ผู้ยากไร้ บริจากเลือด และอีกหลากหลายวิธีในการทำบุญ เสร็จแล้วก็อุทิศส่วนบุญให้แก่พวกเค้าและเจ้ากรรมนายเวรของเรา ผมทำตามที่ครูอาจารท่านบอก ผมรู้สึกได้เลยว่าดี การงาน การเงินไม่ติดขัด และสิ่งดี ๆ อื่น ๆ อีกหลายอย่างครับ

krongthip โพสต์เมื่อ 20-3-2013 20:26

การแบนสายพราย ผมข้อนข้างเห็นด้วยนะครับ เพราะผมกลัวว่าเยาว์ชนจะใช้กันไปในทางที่ไม่ถูกต้องครับ ไม่ยอมหาข้อมูลการใช้ เท่านั้นยังไม่พออาจเป็นอันตรายต่อตัวเองและผู้อื่น ทุกคนต่างมีพ่อแม่ คงไม่ดีเท่าไหล่ถ้าลูก ๆ ของพวกเค้ามาโดนแบบนี้ ใจเขาใจเรา ครับ อาจถึงขั้นฆ่ากันตายก็ได้ ตัวอย่างมีให้เห็นอยู่มากมาย ข้าง สนง.ของผม พ่อยิงทิ้งทั้งลูกตัวเองและไอ้ผู้ชายด้วย ยังรุ่น ๆ อยู่เลย ม.5 กับ ม.6ครับอ่านแต่ผลได้ไม่คำนึงถึงผลเสีย โฆษนาในเวบทั่วไปก็บอกแต่สรรพคุณไม่ได้บอกโทษของการใช้อย่างไม่ถูกต้อง อีกอย่างพอบรรลุจุดประสงค์แล้วก็ไม่ดูแลเค้า ไอ้ที่หนีไปไม่ว่าครับ ไอ้ที่เข้าตัวนี่สิครับหนักเลย บ้านผมเรียกว่าปอบ แรก ๆ มีคนนับถือมากมีผู้คนเข้ามาขอความช่วยเหลือจนตั้งสำนักได้เลย หลัง ๆ หลงตัวเองไม่เซ่นเค้าเหมือนเคย เข้าตัวเลยชาวบ้านไปเห็นเข้าไปกินไก่กินเป็ดเค้าโดนไล่ออกจากหมู่บ้านเลยครับ

krongthip โพสต์เมื่อ 20-3-2013 21:37

แล้วยังมีอีกมากครับ เช่น คาถา วิธิการเซ่น การบูชา แล้วก็ต้องคอยสังเกตุความรู้สึกเค้าด้วย (คือผมเลี้ยงกุมารครับ) หลายสำนักก็หลายคาถา หลายวิธีเซ่น แล้วต้องคอยพูดคุยกับเค้าบ่อย ๆ ในส่วนตัวของผมผมรักลูก ๆ ของผมเพราะทุกตนน่ารักมากครับ ผมเลยไม่เบื่อที่จะดูแลเค้า แต่ถ้าใครไม่มีเวลาเลี้ยงเค้าแนะนำเลยครับ ไม่ต้องไปเอาเค้ามา ไม่ว่าเทพหรือพรายครับ มันเป็นการผูกกรรมผูกเวรกันครับ ผมมีหนังสือคู่มือการเลี้ยงและดูแลเครื่องลางโดยเฉพาะขอโทษนะครับที่ไม่มีรูปหนังสือมาให้ดู แต่หาดูได้ตาม เจ็ด สิบเอ็ดนะครับ ราคาประมาณ 59.-บาทเองครับ
   เอาหละเข้าเรื่องเลยอย่าว่าแต่เราคนธรรมดาอย่างเราเลยครับขนาดปรมาจารณ์ยังโดนเลยครับ แกเป็นคนบ้านเดียวกับผมนี่แหละครับ แกเลี้ยงโหงพรายกระชิบ แม่ผมญาติ ๆ ผม และก็คนในหมู่บ้านมักจะไปดูดวง สะเดาะเคราะห์ ถามของหาย รักษาโรคแบบพื้นบ้านโดยการเป่า มีคนนับถือมาก คนอยู่ต่างหมู่บ้านก็มาหาแกให้แกทำน้ำมนต์บ้าง อาบน้ำมนค์ให้บาง ผู้คนหลายหมู่บ้านนับถือแกมาก ขนาด แกไปนอนเฝ้าบ่อเกลือห่างจากหมู่บ้านเป็น 10 กิโลยังพากันไปหาแก ไม่ใช่ใครอื่นแม่กับพี่สาวผมเองพอไปถึงไม่วายต้องรอคิวเหมือนเดิม (นี่ตอนเย็นตะวันตกแล้วนะครับผมเป็นด่านหน้าเดินถือตะเกียงนำหน้าขบวนเดินไปตามคันนา) แต่ไม่รู้แกไปผิดครูตรงใหน ของก็เลยเข้าตัวแก แรกก็เป็ดไก่ไม่กี่ตัว ต่อมาก็เล่นเป็นเล้าเลยส่วนตัวแก่ก็ย้ายไปอยู่ที่บ่อเกลือเลยไม่เข้ามาในหมู่บ้านช่วงนั้นก็ยังไม่มีใครรู้ว่าเป็นใคร แต่รู้ว่ามีปอบในหมู่บ้าน จะมาในรูปหมาดำบ้าง เงาคนบ้าง ไม่นานพวกผู้ใหญ่ในหมู่บ้านที่เคยบวดเรียนมาแล้วพอมีครูกันอยู่บ้างก็รวมตัวกัน คอยดักจับ เกือบจะได้ตั้งหลายครั้ง แต่ก็หลุดไปจนได้แล้วการดักจับแบบนี้ในแต่ละครั้งจะมีคนใหลตายอย่างน้อยหนึ่งคน พอดีช่วงนั้นก็มีเรื่องผีแม่ม้ายเข้ามาด้วยผู้คนก็ว่ากันไปต่าง ๆ นา ๆ สุดท้าย และท้ายสุดเลยครับพรายตัวนั้นแรงขนาดเข้าคนเพื่อไปหากินได้เลยครับ ที่นี้เอาไงหละ ก็เหมือนเดิมรวมตัวกันอีกครั้ง ก็มีหมอประเภทเดียวกันนี่แหละครับแนะนำวิธีจับให้ คือใช้แหเก่าที่ไม่ใช้แล้ว ไม้พายของเรือที่ขึ้นคานแล้ว กระทะก้นดำแล้วก็มีดหมอ ก็ดักรอกันไปเหมือนจะรู้หลายวันไม่มีวี่แววเลยกลุ่มก็เลยก็เลยสหลายตัวกันไป

krongthip โพสต์เมื่อ 20-3-2013 21:37

ต่อมาอีก สามสี่วัน มาอีก เข้าไปคุ้มบ้านโนน ลุงปาเห็นเข้าก็เลยหว่านแหคลุมตัวไว้ได้แล้วก็เรียกคนมาช่วยกันส่วนลุงปาก็ยื้อกับมันป้าเย็นเมียแกก็เข้ามาช่วยด้วย แต่ก่อนบ้านแต่ละหลังจะอยู่ไกลกันพอสมควร กว่าจะมาถึงเล่นเอาลุงปาแทบหมดแรง เสร็จพอคนมาถึงก้เอากระทะควบหัวมันเลยแล้วเอามีดหมอขูดก้นกระทะ(สมัยก่อนไช้ฟืนครับก็เลยมีหมิ่นหม้อ) สองสามครั้ง แล้วก็หลุดไปได้ แล้วคืนนั้นเองลุงปาก็ตายหลายคนบอกว่าสู้พรายไม่ใหวเลยโดนมันมาเอาชีวิต บางกระแสก็ว่าผีแม่หม้ายเอาไป ที่ก็มีงานศพสิครับด้วยความที่แกเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านมีวิชาอาคมด้วยก็มีคนไปตามแกเพื่อมาอาบน้ำศพลุงปา ไปกันสามสี่คน ไปถึงก็เรียกแกก็บอกไม่สบาย คนที่ไปก็เป็นห่วงบอกให้ไปอยู่ในหมู่บ้านเพราะมีเรื่องหลายเรื่องทั้งปอบทั้งผีแม่หม้าย แกก็ไม่ยอมออกมา พูดกันอยู่นานแกก็ไม่ออกมา เถียงนาสมัยก่อนเป็นแค่ไม้ฟากประตูขัดแตะแค่ผลักก็เปิดออกแล้ว ก็อย่างว่าไปกันหลายคนบางคนก็เบื่อชวนกลับบางคนก็นั่งรอ ก็มีคนใจร้อนอยู่ในกลุ่มด้วยก็ผลักประตูเข้าไปก็เห็นแกนอนผ้าคลุมหัว ก้เลยพากันจุดตะเกียงแล้วก็เข้าไปถามว่าเป็นอะไรมากมั้ย แล้วที่นอนขดอยู่ก็ตัวสั่นอีกด้วย แล้วก็ความที่เป็นห่วงก็เลยดึงผ้าห่มออก เต็ม ๆ ครับบนหัวมีรอยโกนหัวเป็นแนวสามแนวก็เลยก็รู้กันว่าใครคือปอบคนนั้นตามบ้านนอกบ้านนาส่วนมากก็จะเป็นเคลือญาติกันทั้งนั้นดูแลกันแบบพี่น้องกันทั้งนั้น การดึงผ้าห่มออกมาดูก็ไม่ใช่เรื่องแปลก นี่ขนาดปรมาจารย์นะครับยังโดนเลย ประมาทเลินเลอไม่ได้นะครับสายพรายเนี่ยต้องศึกษาให้ถึงแก่นและดูแลอย่างสเมอต้นเสมอปลายครับ ไม่ใช่ว่าได้ตามที่ขอแล้วแก้บนครั้งเดียวจบไม่ใช่นะครับยังต้องดูแลเหมือนเดิมทุกอย่าง แล้วพวกนี้เค้าชอบคนมีสัจจะครับบอกให้ต้องให้ ถ้าไม่ให้ตามหาถึงเตียงนอนเลยครับ อีกอย่างพวกนี้เป็นพวกสัมพเวสีที่ไม่มีที่พึ่งไม่มีที่อยู่ไม่มีที่กิน พิธีที่ทำก็คือเรียกพวกเค้ามาสถิตอยู่ในรูปของเครื่องลางนั้น ๆ บางตนก็มาด้วยความเต็มใจ บางตนก็ถูกบังคับมา ฉนั้นถ้าคิดจะเลี้ยงจริง ๆ ต้องเลี้ยงทั้งนอกและในครับ หมายถึงเลี้ยงด้วยเครื่องเซ่นและบุญครับหมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้เค้าครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องสมัยผมยังเด็กครับ พออายุได้สิบสามเรียนจบปอหกก็ไปบวชเป็นเณร แล้วก็ไปอยู่นั่นบ้างนี่บ้าง สามสี่จังหวัดในแถบอีสาน ได้เจอได้เห็นมาอีกหลายอย่าง แล้วจะเล่าให้ฟังนะครับ

กำจร โพสต์เมื่อ 14-6-2013 11:00

.............ว้าน่าเสียดายจัง

ser โพสต์เมื่อ 2-7-2013 09:04

ปล่อยให้เป็นธรรมชาติเถอะครับ(แต่ไม่ใช่ปล่อยปละละเลย) เครื่องรางด้านมหาเสน่ห์ทุกชิ้น ไม่ว่าพระหรือฆราวาสสร้าง ไม่ว่าจะมีพรายหรือไม่ล้วนเป็นเครื่องรางที่เจือปนด้วยกิเลส สร้างขึ้นมาเพื่อสนองตัณหาของมนุษย์ ทุกอย่างมีเวลาของมัน มองมนุษย์อย่างเข้าใจมนุษย์ มนุษย์มีหน้าที่และกติกา ถ้าเวปอื่นเขาเข้าใจว่าเขาสะอาดเหนือมนุษย์ ก็ปล่อยเขาไปเถอะ ใครอยากจะใช้อะไรก็ใช้ไป ถ้ามันเกิดประโยชน์กับคุณและไม่เบียดเบียนผู้อื่น
ผู้ใหญ่มองว่า คนที่สูบบุหรี่ไม่ใช่คนชั่ว แต่ก็สอนบุตรหลานว่า มันไม่ดี อย่าทำตาม อย่าเอาเยี่ยงอย่างนะลูก

boygirl2013 โพสต์เมื่อ 2-7-2013 20:10

คนตายเเล้วยังจะไปรบกวนเขาอีก คนหนอคน ไปเอาชิ้นส่วนคนตายมา
คนขายก็อยากรวยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น คนใช้ก็สายพรายก็เชื่ออย่างเดียวอยากใช้ของเเรงๆ



ใช้สายพรายตายไปเเล้ว เขาจะใช้เรากับเราที่ใช้เขาเมื่อตอนมีชีวิตอยู่

Suayngam โพสต์เมื่อ 25-7-2013 14:35

ผมเป็นคนหนึ่งที่เคยใช้พราย ถึงเเม้จะมีคาถาอาคมข่มหรือกดผีไว้ถึงยังไงเราก็กดมันไม่ได้นานหรอกครับ พรายหรือผีทั้งหลายที่เขานำมาทำเครื่องรางของขลัง น้ำมันพรายบ้าง ต่างๆ ล้วนเเต่ถูกอาจารย์คนที่สร้างสะกดมันไว้ในของสิ่งนั้นไว้ ผมเกือบเอาชีวิตไม่รอดก็เพราะของเข้าตัวนี้เเหละครับ หน้าหมองคร่ำจากคนผิวขาว หน้าตาไม่มีราศรี เล่นนานๆเข้ามันจะกินเจ้าของนะครับ เมื่อก่อนผมเล่นทั้งน้ำพรายเเละของที่มีพรายเป็นส่วนประกอบ ถามว่าแรงจริงไหม มันแรงจริงแรงมาก เเต่สาวที่โดนของๆเราเขาอยู่นานหรอกครับ มาไวไปไว ถ้าจะหวังรักแท้อย่าใช้พรายครับ สำหรับคนเล่นพราย พรายมันจะมีฤทธิ์มากตอนจะเข้าวันพระถ้าอยากลองฤทธิ์มันให้ลองเที่ยวกลางคืนก่อนวันพระอิอิ ไม่เเนะนำนะเด็กนะครับ

Suayngam โพสต์เมื่อ 25-7-2013 14:37

จะหาคู่ครองจริงๆ อย่าใช้พรายนะครับ แรงที่สุดเเละได้ผลเร็วสุดคือน้ำมันพราย เเต่ บาปมะหัน;P

Surawit โพสต์เมื่อ 1-9-2013 16:13

ต่อมาอีก สามสี่วัน มาอีก เข้าไปคุ้มบ้านโนน ลุงปาเห็นเข้าก็เลยหว่านแหคลุมตัวไว้ได้แล้วก็เรียกคนมาช่วยกันส่วนลุงปาก็ยื้อกับมันป้าเย็นเมียแกก็เข้ามาช่วยด้วย แต่ก่อนบ้านแต่ละหลังจะอยู่ไกลกันพอสมควร กว่าจะมาถึงเล่นเอาลุงปาแทบหมดแรง เสร็จพอคนมาถึงก้เอากระทะควบหัวมันเลยแล้วเอามีดหมอขูดก้นกระทะ(สมัยก่อนไช้ฟืนครับก็เลยมีหมิ่นหม้อ) สองสามครั้ง แล้วก็หลุดไปได้ แล้วคืนนั้นเองลุงปาก็ตายหลายคนบอกว่าสู้พรายไม่ใหวเลยโดนมันมาเอาชีวิต บางกระแสก็ว่าผีแม่หม้ายเอาไป ที่ก็มีงานศพสิครับด้วยความที่แกเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านมีวิชาอาคมด้วยก็มีคนไปตามแกเพื่อมาอาบน้ำศพลุงปา ไปกันสามสี่คน ไปถึงก็เรียกแกก็บอกไม่สบาย คนที่ไปก็เป็นห่วงบอกให้ไปอยู่ในหมู่บ้านเพราะมีเรื่องหลายเรื่องทั้งปอบทั้งผีแม่หม้าย แกก็ไม่ยอมออกมา พูดกันอยู่นานแกก็ไม่ออกมา เถียงนาสมัยก่อนเป็นแค่ไม้ฟากประตูขัดแตะแค่ผลักก็เปิดออกแล้ว ก็อย่างว่าไปกันหลายคนบางคนก็เบื่อชวนกลับบางคนก็นั่งรอ ก็มีคนใจร้อนอยู่ในกลุ่มด้วยก็ผลักประตูเข้าไปก็เห็นแกนอนผ้าคลุมหัว ก้เลยพากันจุดตะเกียงแล้วก็เข้าไปถามว่าเป็นอะไรมากมั้ย แล้วที่นอนขดอยู่ก็ตัวสั่นอีกด้วย แล้วก็ความที่เป็นห่วงก็เลยดึงผ้าห่มออก เต็ม ๆ ครับบนหัวมีรอยโกนหัวเป็นแนวสามแนวก็เลยก็รู้กันว่าใครคือปอบคนนั้นตามบ้านนอกบ้านนาส่วนมากก็จะเป็นเคลือญาติกันทั้งนั้นดูแลกันแบบพี่น้องกันทั้งนั้น การดึงผ้าห่มออกมาดูก็ไม่ใช่เรื่องแปลก นี่ขนาดปรมาจารย์นะครับยังโดนเลย ประมาทเลินเลอไม่ได้นะครับสายพรายเนี่ยต้องศึกษาให้ถึงแก่นและดูแลอย่างสเมอต้นเสมอปลายครับ ไม่ใช่ว่าได้ตามที่ขอแล้วแก้บนครั้งเดียวจบไม่ใช่นะครับยังต้องดูแลเหมือนเดิมทุกอย่าง แล้วพวกนี้เค้าชอบคนมีสัจจะครับบอกให้ต้องให้ ถ้าไม่ให้ตามหาถึงเตียงนอนเลยครับ อีกอย่างพวกนี้เป็นพวกสัมพเวสีที่ไม่มีที่พึ่งไม่มีที่อยู่ไม่มีที่กิน พิธีที่ทำก็คือเรียกพวกเค้ามาสถิตอยู่ในรูปของเครื่องลางนั้น ๆ บางตนก็มาด้วยความเต็มใจ บางตนก็ถูกบังคับมา ฉนั้นถ้าคิดจะเลี้ยงจริง ๆ ต้องเลี้ยงทั้งนอกและในครับ หมายถึงเลี้ยงด้วยเครื่องเซ่นและบุญครับหมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้เค้าครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องสมัยผมยังเด็กครับ พออายุได้สิบสามเรียนจบปอหกก็ไปบวชเป็นเณร แล้วก็ไปอยู่นั่นบ้างนี่บ้าง สามสี่จังหวัดในแถบอีสาน ได้เจอได้เห็นมาอีกหลายอย่าง แล้วจะเล่าให้ฟังนะครับ
ยังกับนิยายแนะครับ.ไม่ได้หลบลู่นะครับ.
หน้า: 1 2 3 4 5 6 [7] 8 9
ดูในรูปแบบกติ: กาหลง รอฤกษ์ 'รณรงค์เลิกใช้สายพราย' หวั่นคนรุ่นใหม่ลองของเสน่ห์จากกะโหลกมนุษย์