Gern.Naraphat โพสต์เมื่อ 6-3-2010 13:56

บุญ...และความหมายบุญ 3 ระดับ





บุญ...และความหมายแห่งบุญ ๓ ระดับ

๑. เราทำบุญก็เพื่อประโยชน์สุขปัจจุบัน (ทิฏฐธัมมิกัตถะ)

คือ เพื่อให้เกิดลาภบริวาร สถานภาพความเป็นอยู่ ความสุข คำชมเชย
สนองตอบกลับมา นั่นคือคุณภาพชีวิตที่ดี เศรษฐกิจที่ดี
และการยอมรับที่ดีจากสังคมรอบข้างที่เราอยู่

ที่สุดก็เพื่อให้คนเรารู้จักเห็นอกเห็นใจกัน ช่วยเหลือกันฉันพี่น้อง
คนที่เดือดร้อนก็ได้รับการดูแลเอาใจใส่ ไม่ถูกทอดทิ้ง
มีชีวิตอยู่ร่วมกันเป็นสังคมที่มีความสุข

เพราะคนเราในโลกต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันด้วยความเอื้ออาทรต่อกัน
จะอยู่แบบตัวใครตัวมันไม่ได้

๒. เราทำบุญเพื่อประโยชน์สุขที่สูงขึ้น (สัมปรายิกัตถะ)

นั่นคือในระดับจิตที่สูงขึ้นไป
เพื่อเราจะได้เรียนรู้ที่จะพัฒนาตัวเอง

ให้เจริญเติบโตขึ้นมาเป็นบุคคลที่มีศีลธรรม มีคุณธรรม
มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีความอบอุ่นซาบซึ้งสุดใจด้วยศรัทธา
ภาคภูมิใจ อิ่มใจ แกล้วกล้ามั่นใจในชีวิตที่ได้ทำบุญ
โดยกินความรวมถึงจุดหมายต่อมาเมื่อละโลกนี้ไปแล้วด้วย

๓. เราทำบุญเพื่อประโยชน์อย่างยิ่ง (ปรมัตถะ)

คือ ประโยชน์ที่เป็นสาระแท้จริงของชีวิต

ได้แก่ การรู้แจ้งสภาวะของสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง
รู้เท่าทันคติธรรมดาของโลกของสังขารธรรม
ไม่ตกเป็นทาสของโลกและชีวิต
มีจิตเป็นอิสระปลอดโปร่งผ่องใส
ไม่หวั่นไหวไปกับความผันผวนปรวนแปรของชีวิต
หรือการพรัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รักในชีวิต
ไม่ถูกบีบคั้นโดยความยึดมั่นของตนเอง เย็นสว่างไสวโดยสมบูรณ์


ความมุ่งหมายของบุญทั้ง ๓ ระดับนี้

เราจะเห็นได้จาก พิธีกรรมทางพุทธศาสนาที่มุ่งประโยชน์ทั้ง ๔ ด้าน
ได้แก่ ด้านวัตถุ หรือความเป็นอยู่ ด้านสังคม
ซึ่งรวมถึงพฤติกรรมความเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่เกื้อกูลกัน
ความสัมพันธ์ด้านจิตใจ และด้านปัญญา
ทั้งหมดนี้ล้วนมีคุณค่าต่อคุณภาพชีวิตและสังคม
อันไม่อาจขาดด้านใดด้านหนึ่งไปได้

พูดง่ายๆ คือ พิธีกรรมทางพุทธศาสนามุ่งให้เกิดประโยชน์ครบถ้วน
อย่างเป็นองค์รวมตามความมุ่งหมาย

ประโยชน์ทั้ง ๔ ด้านนี้เรายังเห็นได้จากประเพณีพิธีกรรมของชุมชน
เช่น ลอยกระทง บุญบั้งไฟ
กล่าวคือ ไม่เพียงแต่มีจุดมุ่งหมายอนุรักษ์ลำน้ำ
หรือเพื่อให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล
อันเป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่โดยตรงเท่านั้น

ยังเอื้อให้เกิดความสนิทสนมกลมเกลียวในชุมชน
และมีกิจกรรมทางศาสนาเพื่อให้เกิดความมั่นใจในชีวิต
รวมทั้งมีการปลูกฝังตอกย้ำทัศนคติที่เคารพธรรมชาติ และจิตสำนึกต่อชุมชน
ซึ่งล้วนเป็นคติที่สำคัญในการดำเนินชีวิต

โดยสรุปแล้ว ปุถุชนคนเราทำบุญก็เพื่อ "ตัวเอง"
แต่คงดีกว่าถ้าเราทำบุญเพื่อ "พัฒนาจิต"
และคงดียิ่งขึ้นไปอีก ถ้าเราทำบุญเพื่อพัฒนา "สติปัญญา" ไปด้วย
และคงดีที่สุด ถ้าเราช่วยกันทำบุญทุกรูปแบบ (บุญกิริยาวัตถุ ๑๐)
เพื่อช่วยเหลือสังคมให้สงบสุข และดีไปด้วยพร้อมๆ กัน

อุ้ม โพสต์เมื่อ 6-3-2010 14:02

ขอบคุณครับ การทำบุญมันยอดเยี่ยมจริงๆเลยนะ แต่คนที่คอยทำบาปรายวันเนี่ย มันจะลงนรกขุมไหนผมไม่เข้าใจ ผมอยากให้โลกนี้ไม่มีคนเห็นแก่ตัวและเชื่อกฏแห่งกรรม

Gern.Naraphat โพสต์เมื่อ 6-3-2010 14:15

ตอบกลับ 2# อุ้ม


    สำหรับคนที่ทำบาปรายวันก็อ่านดูนะครับ(น่ากลัวจัง)
   สถานที่ที่มนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย ต้องเวียนว่ายตายเกิดมีอยู่ 31 ภูมิ หาก อยากจะทราบว่าใครตายแล้วไปไหน หรือ อยากทราบว่า..ตัวเราเองเมื่อตายแล้วจะต้องไปอยู่ที่ใด ก็มีวิธีสังเกตง่ายๆ คือ เมื่อตอนยังมีชีวิตอยู่ เราชอบทำอย่างไร พอตายแล้ว ก็ต้องไปรับผลแห่งการกระทำ ของตนเองอย่างนั้น เรียกได้ว่า “ตายแล้ว ก็ไปสู่ที่ชอบ...ที่ชอบ” เช่น


นรกขุมที่ 1 สัญชีวนรก

เป็นสถานที่สำหรับพวกที่ชอบฆ่าสัตว์ ชอบบี้มดตบยุงเป็น ประจำ หรือฆ่ามนุษย์ด้วยกัน รวมทั้ง ฆ่าตัวตาย ด้วย ตายแล้วก็ต้องไปตก นรกขุม ที่ 1 ชื่อว่า สัญชีวนรก ซึ่งเกิดขึ้นมาเพื่อรองรับผู้ที่ชอบการฆ่าโดยเฉพาะ ตัวอย่างวีดีโอ: สัญชีวนรก


นรก ขุมที่ 2 กาฬสุตตนรก

เป็นสถานที่สำหรับพวกที่ชอบลักขโมย ฉ้อโกง ตายแล้วก็ ต้องไปตกนรกขุมที่ 2 ชื่อว่า กาฬสุตตนรก


นรก ขุมที่ 3 สังฆาฏนรก
เป็นสถานที่สำหรับพวกที่ชอบประพฤติผิดในกาม ตายแล้ว ก็ต้องไปตกนรกขุมที่ 3 ชื่อว่า สังฆาฏนรก


นรก ขุมที่ 4 โรรุวนรก
เป็นสถานที่สำหรับพวกที่ชอบพูดโกหก พูดคำหยาบ พูด ส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อ ตายแล้วก็ต้องไป ตกนรกขุมที่ 4 ชื่อว่า โรรุวนรก


นรก ขุมที่ 5 มหาโรรุวนรก
เป็นสถานที่สำหรับพวกที่ชอบดื่มสุรา หรือเสพสิ่งมึนเมา ยาเสพติด ตายแล้วก็ต้องไปตกนรกขุมที่ 5 ชื่อว่า มหาโรรุวนรก ตัวอย่างวีดีโอ: มหาโรรุวนรก


นรก ขุมที่ 6 ตาปนนรก
เป็นสถานที่สำหรับพวกที่ชอบเล่นการพนันทุกชนิด ตายแล้วก็ต้องไปตกนรกขุมที่ 6 ชื่อว่า ตาปนนรก


นรก ขุมที่ 7 มหาตาปนนรก
เป็นสถานที่สำหรับพวกที่ชอบเที่ยวกลางคืน มัวเมาในอบายมุข ตายแล้วก็ต้องไปตกนรกขุมที่ 7 ชื่อว่า มหาตาปนนรก


นรก ขุมที่ 8 อเวจีนรก
เป็นสถานที่สำหรับพวกที่ทำอนันตริยกรรม เช่น ฆ่าบิดา มารดา ฆ่าพระอรหันต์ ทำสงฆ์ให้แตก กัน หรือทำพระพุทธเจ้าให้ห้อพระโลหิต ตายแล้วก็ต้องไปตกนรกขุมที่ 8 มีชื่อว่า อเวจีนรก (ถึงแม้จะทำแค่เพียงครั้งเดียว ไม่ว่าด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม ก็ถือเป็นกรรม ที่หนักมาก ต้องตกอเวจีมหานรก ได้รับ ทัณฑ์ทรมานที่แสนสาหัส มีอายุยาวนาน กว่านรกขุมอื่นๆ)


คิดดีสังคมดีรีเจนซี่บรั่นดีไทยเอ้า.....นรกเเล้วเรา{:3_45:} {:3_45:} {:2_29:}

pocko โพสต์เมื่อ 6-3-2010 22:15

เลือกเอาเลยครับทุกท่าน...เอาใจช่วย   ให้พ้นนะ

simple โพสต์เมื่อ 8-3-2010 10:07

นรก ขุมที่ 5 มหาโรรุวนรก

เราจะได้เจอะกันที่ขุมนี้มั้ยน้องเต๊ะฮ่าฮ่า

TenThai โพสต์เมื่อ 12-2-2012 17:29

ขอบคุณครับ
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: บุญ...และความหมายบุญ 3 ระดับ