gigi_society โพสต์เมื่อ 12-9-2011 14:52

ประวัติของอาจารย์น้อย พยัคฆ์อัคคี

ประวัติของอาจารย์น้อย พยัคฆ์อัคคีท่านเป็นบุตรคนโต มีพี่น้อง 2คน บิดา ชื่อ นาย จเร มารดา ชื่อ นางสมปอง ท่านเป็นคนจันทบุรีบ้านเก่าของท่านตั้งอยู่ที่ ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี แต่ปัจจุบันบิดามารดาของท่านได้ย้ายไปอยู่ที่ในตัวเมืองแล้ว ท่านอาจารย์น้อย ชอบเรียนรู้เรื่องไสยเวทมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กๆ ท่านก็ได้ศึกษาวิชาไสยเวทกับอาจารย์หลายท่านและหลายแขนงวิชาส่วนมากที่ท่านเล่าเรียนนั้นจะเป็นสายเขมรโบราณ สมัยที่ท่านเรียนวิชาไสยเวทนั้นเป็นเพราะบ้านท่าน อยู่ติดกับชายแดนเขมรและในหมู่บ้านก็มีแต่คนมีวิชาอาคมกันแทบทุกคน ท่านจึงต้องหาวิธีป้องกันตัวจึงไปฝากตัวเป็นศิษย์อาจารย์ต่างๆ บูรพาจารย์ที่จะกล่าวถึงนั้นล้วนแล้วแต่เป็นอาจารย์ใหญ่ของท่านอาจารย์น้อย บูรพาจารย์ที่จะกล่าวถึงนั้นล้วนแล้วแต่เป็นอาจารย์ใหญ่ของท่านอาจารย์น้อย เป็นกันเอง ชอบพูดอะไรตรงๆ ท่านเป็นคนพูดจริงทำจริง และจะไม่โอ้อวด ท่านชอบช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆวิชาที่ได้เล่าเรียนจากท่านอาจารย์โพธิ์ท่านอาจารย์น้อย ได้กราบท่านอาจารย์โพธิ์ (หรือตาโพธิ์) เป็นอาจารย์ท่านแรกท่านอาจารย์โพธิ์เป็นอาจารย์เขมรประจำหมู่บ้าน ที่ผู้คนให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมากท่านอาจารย์น้อย ได้รับการถ่ายทอดวิชาโหราศาสตร์ การทำนาย พิธีกรรมต่างๆ การตั้งศาลพระภูมิ ศาลพระพรหม ศาลเจ้าที่ ศาลเทพารักษ์ ศาลทุกชนิด พิธีบวงสรวง พิธีเปิดห้างร้าน พิธีทำขวัญ เรียกได้ว่าเป็นเจ้าพิธีกรรมจากท่านอาจารย์โพธิ์ทั้งสิ้น จนกระทั้งสำเร็จวิชาทุกด้านแล้วท่านก็ยังไม่คิดที่จะหยุด อาจารย์โพธิ์จึงได้นำอาจารย์น้อยไปฝากตัวเป็นศิษย์ของท่านอาจารย์ทอง ซึ่งเป็นเพื่อนรักกันมากโดยท่านอาจารย์โพธิ์ได้ฝากฝังท่านอาจารย์น้อยเป็นอย่างดีวิชาที่ได้เล่าเรียนจากท่านอาจารย์ทองท่านอาจารย์ทอง เป็นผู้ที่มีอาคมเก่งกล้ามากท่านหนึ่ง ท่านเป็นคนเขมรโอจากรอม บิดาของท่านเป็นทหารหนีทัพ มารดาเป็นคนไทย ท่านได้รับท่านอาจารย์น้อยไว้เป็นศิษย์ตามที่อาจารย์โพธิ์ได้ฝากฝังไว้ท่านอาจารย์ทอง ถึงท่านจะรับอาจารย์น้อยไว้เป็นศิษย์แล้วนั้นท่านก็ยังไม่ถ่ายทอดวิชาใดๆ ให้ทั้งสิ้นท่านอาจารย์ทองทดลองอาจารย์น้อยโดยการให้ท่านอาจารย์น้อยตักน้ำ ให้เต็มตุ่มเสียก่อนแล้วจึงจะสอนวิชาให้แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องใช้กระด้งตักน้ำเท่านั้น ท่านอาจารย์น้อยก็ทำตามที่ครูบาอาจารย์สั่งทุกประการแต่ทำยังไงน้ำก็ไม่เต็มตุ่มจนกระทั่งเวลาผ่านไป 6 เดือนอาจารย์น้อยก็ยังไม่สามารถตักน้ำให้เต็มตุ่มได้อาจารย์ทองก็ได้รับศิษย์ใหม่เพิ่มอีก 2 คน และทดลองให้ศิษย์ทั้งสองทำวิธีเดียวกัน แต่ศิษย์ใหม่นั้นได้นำเอายางมะตูมมาทาที่กระด้งทิ้งให้แห้ง แล้วจึงนำไปตักน้ำไม่นานนักน้ำก็เต็มตุ่ม ท่านอาจารย์ทองจึงได้พิจารณาดูศิษย์ทั้ง 3 ของท่านแล้วว่าแต่ละคนนั้นเป็นอย่างไรท่านจึงได้เรียกศิษย์ทั้ง 3 มาแล้วบอกว่ากูจะสอนวิชาพวกมึง แต่กูไม่สอนไอ้น้อยเพราะมันตักน้ำไม่เต็มตุ่ม แต่กูจะให้ไอ้น้อยไปขุดดินเอ็ง 2 คนท่องตำราไป ท่านอาจารย์ทองก็พาท่านอาจารย์น้อยออกไปหาขุดดินมวลสารต่างๆ ท่านอาจารย์ทองก็ได้บอกถึงเหตุที่บอกว่าไม่สอนให้ คือศิษย์น้องของเอ็งนั้นรู้มากไป ไม่มีความอุตสาหะเหมือนเอ็ง มีแต่เอ็งเท่านั้นที่จะได้วิชากูจนหมด เอ็งทำตามที่ตาสอนก็แล้วกัน ท่านอาจารย์น้อยก็รับปาก (จ๊ะตาฉันจะทำตามที่ตาสอน) ท่านอาจารย์ทองท่านบอกว่าคนที่จะเรียนวิชาลูกกรอกได้นั้นจะต้องเรียนวิชากระสุนคด การเรียนวิชากระสุนคดนั้นผู้เรียนจะต้องฝึกจิตสมาธิที่ดีเสียก่อน ถ้าไม่มีสมาธิที่ดีจริงก็ไม่สามารถเรียนได ้ถ้าใครทำไม่ได้ก็จะไม่ได้เรียนวิชาอื่นอีกต่อไป ในศิษย์ทั้ง 3 คนมีเพียงอาจารย์น้อยเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่สามารถเรียนได้สำเร็จ ท่านอาจารย์น้อยจึงได้เรียนวิชาลูกกรอก วิชาการทำผงพรายกุมาร วิชาการทำผงอีกมากมายที่เป็นสูตรลับ วิชาคงกระพัน วิชากำบัง นะจังงัง การทำน้ำมันพราย และวิธีการลงเลขยันต์ต่างๆ รวมถึงวิชาอื่นอีกมากมาย ท่านอาจารย์ทองสอนการเพ่งกสิณให้กับท่านอาจารย์น้อยจนสำเร็จ และวิชาการทำกุมารนั้นท่านอาจารย์ทองบอกว่าจะต้องปลุกจนกุมารสั่นจนลุกขึ้นนั่งได้เองจึงจะสามารถใช้งานได้จริง ส่วนวิชาการลงยันต์นั้นจะต้องใช้ผ้าห่อศพมาลงยันต์เสร็จแล้วนำไปเผาไฟ ถ้าไม่ไหม้ถือว่าใช้ได้ การสร้างวัตถุมงคลต่างๆ นั้นจะต้องใช้ธาตุอาถรรพ์ต่างๆ มาประกอบเป็นชนวนมวลสารถึงจะขลังและต้องบวกกับพลังจิตของผู้เสก ผู้เสกจะต้องมีพลังจิตที่มากพอสมควร จึงจะทำให้วัตถุนั้นๆ มีอานุภาพมากวิชาที่ได้เล่าเรียนจากท่านแม่ครูนัยเรื่องสายการเรียนวิชากับแม่ครูนัย นั้นท่านอาจารย์น้อยบอกได้คำเดียวว่า ดุมากๆ ท่านเป็นคนที่สอนเอาจริงเอาจังและจะต้องทำให้ได้ผลให้เห็นกับตาของท่าน ท่านถึงจะครอบครูให้ แม่ครูนัยเป็นอาจารย์ท่านเดียวที่เป็นอาจารย์สายเสน่ห์และมีท่านอาจารย์น้อยเพียงท่านเดียวที่เป็นผู้สืบทอด ท่านอาจารย์น้อยได้เล่าเรียนวิชาสายเสน่ห์กับแม่ครูนัยจนกระทั้งสำเร็จวิชา และได้รับการครอบครูจากแม่ครูนัย ในวันที่ทำการครอบครูนั้นแม่ครูก็ยกพานขึ้นว่างบนศีรษะของอาจารย์น้อยแล้วว่า คาถาอาคมทุกบทที่ท่านมีใช้เวลานานมาก เมื่อสิ้นเสียงการท่องคาถาได้สักพักหนึ่ง ท่านอาจารย์น้อยก็แปลกใจว่าทำไม่แม่ครูถึงนึ่งไปซะเฉยๆ ปรากฏว่าท่านได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ ก่อนที่ท่านจะเสียชีวิตท่านได้สั่ง ท่านอาจารย์น้อยไว้ว่า เอ็งจะต้องรักษาวิชาที่แม่สอนให้ ไว้ให้ดีห้ามทำผิดศีลธรรม ห้ามมีคู่ครองเด็ดขาด ห้ามทำผิดครู ห้ามใช้วิชาทำร้ายคนอื่น หากทำผิดชีวิตจะต้องพบกับหายะนะอย่างร้ายแรง ท่านอาจารย์น้อยก็ถือปฏิบัติเป็นอย่างดีมาโดยตลอด วิชาที่ท่านได้รับการถ่ายทอดอาทิ เช่น วิชาเสน่ห์การทำน้ำมันเสน่ห์ วิชาการเป่ากะโหลกทองคำ นะนวลจันทร์ เสน่ห์นางครวญ เสน่ห์ฝังหุ่น การทำน้ำมันเสน่ห์ และวิชาว่านทางเสน่ห์อีกมากมาย และการลบผงสาลิกา วิชาเสน่ห์ที่ท่านอาจารย์น้อยนิยมทำให้กับศิษย์ก็คือ สักน้ำมันว่านดอกทอง การเป่ากะโหลกทองคำ ที่นับว่าเป็นสุดยอดวิชาของท่าน และการเรียนวิชาเสน่ห์นั้นผู้เรียนห้ามมีภรรยาโดยเด็ดขาดจะต้องถือพรหมจรรย์ ถึงจะสามารถใช้วิชาได้เต็มที่วิชาที่ได้เล่าเรียนจากท่านหมอไกรท่านอาจารย์น้อยได้พบกับท่านหมอไกลโดยบังเอิญ คือ ด้วยความคะนองของท่านอาจารย์น้อย สมัยที่ท่านเป็นวัยรุ่นก็มีประลองวิชาอาคมได้ก็รับบาดเจ็บที่ขา คือ กระดูกหน้าแข้งหัก ท่านได้ยินว่ามีหมอต่อกระดูกเก่งมาก ท่านหนึ่ง ชื่อหมอไกร ท่านจึงได้เดินทางไปหา เมื่อพบกับหมอไกรก็ต้องถึงกับงง ด้วยคำพูดที่พูดว่า มาแล้วหรอรออยู่นานแล้วมามาจะต่อให้ 3 วันก็วิ่งได้แล้ว ท่านอาจารย์น้อยก็รู้สึกงงว่าทำไมหมอถึงรู้ว่าเราจะมาหาท่านจึงได้ถามว่า ทำไมหมอถึงรู้ว่าฉันจะมาล่ะหมอไกรก็หัวเราะเบาๆ บอกว่าทำไมจะไม่รู้ล่ะก็คนที่นอนรักษาอยู่ก็โดนทำมาเหมือนกัน คนที่โดนนะอาการหนักเลยนะเล่นแรงจริงๆ นะพ่อ ท่านอาจารย์น้อยก็ยิ้มแล้วก็บอกว่าก็แค่ประลองกันนะครับ ไม่เอาถึงตายหรอกวิชามันร้อนแล้วเขาเป็นไงบ้างล่ะพ่อหมอ ท่านอาจารย์น้อยถาม หมอไกรก็บอกว่า เออไอ้ตายนะไม่ตายหรอก แต่ก็หนักเอาการ มาข้าจะต่อกระดูกให้ 3 วันก็วิ่งได้ ท่านอาจารย์น้อยก็งงว่ามันจะจริงเหรอ เพราะขาของท่านไม่ได้หักธรรมดา เมื่อครบกำหนด 3 วัน ขาของท่านก็หายจริงๆ เมื่ออาจารย์น้อยเห็นว่าหมอไกรมีวิชาอาคมเก่งกล้า จึงขอฝากตัวเป็นศิษย์ ขอเล่าเรียนวิชาการรักษาต่อกระดูก การถอนคุณไสย การปรุงยาถอนยาเบื่อ ยาสั่ง และวิชาว่านยาสรรพคุณยาต่างๆ อีกมากมาย

gigi_society โพสต์เมื่อ 12-9-2011 17:24

http://khalong.com/board2/thread-10541-1-1.html{:7_149:}

KHONSAKYAN โพสต์เมื่อ 12-9-2011 17:53

..........- -*

gigi_society โพสต์เมื่อ 12-9-2011 17:54

..........- -*
ต้นฉบับโพสโดย KHONSAKYAN เมื่อ 12-9-2011 17:53 http://khalong.com/board2/images/common/back.gif


   ง่าาา อะไรหรอคะ ข้อมูลผิดไปหรอ ติมาก็ได้จ้า {:7_155:}

KHONSAKYAN โพสต์เมื่อ 12-9-2011 18:14

เปล่าครับสับสนเฉยๆระหว่างอาจารย์น้อยกับอาจารย์เสือเมื่อกี้มึนๆครับ- -"(เริ่มงงกับตัวเอง)

spakafae14 โพสต์เมื่อ 12-9-2011 18:23

{:3_41:}

gigi_society โพสต์เมื่อ 13-9-2011 09:56

เปล่าครับสับสนเฉยๆระหว่างอาจารย์น้อยกับอาจารย์เสือ ...
ต้นฉบับโพสโดย KHONSAKYAN เมื่อ 12-9-2011 18:14 http://khalong.com/board2/images/common/back.gif


   ดีนะแค่มึน อย่าเมาละกัน เด๋วไม่ได้ขับกลับไม่ได้{:7_140:}
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: ประวัติของอาจารย์น้อย พยัคฆ์อัคคี